พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. - 6 ธ.ค. พ.ศ. 2548

ข่าวทั่วไป Wednesday November 30, 2005 14:28 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร  
วัน พุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 143/2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน - 6 ธ.ค. 2548
ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. — 4 ธ.ค. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทย ตอนบน ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 5-6 ธ.ค. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ทำให้มีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยจะมีอากาศหนาวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคเหนือตอนบน ส่วนภาคอื่น ๆ จะมีอากาศเย็นและมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค เว้นแต่ในภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่งตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. — 2 ธ.ค. ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปถึงนราธิวาสจะมีฝนตกหนักบางแห่ง อาจเกิดสภาวะน้ำท่วมในที่ลุ่มบางพื้นที่ของพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายจากภาวะดังกล่าวไว้ด้วย
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
ลักษณอากาศ
# มีหมอกในตอนเช้าทางตอนบนสุดของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-10 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 5-6 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ทำให้มีอากาศหนาว ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# มีหมอกในตอนเช้าทางตอนบนสุดของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศา บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-10 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 5-6 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ทำให้มีอากาศหนาว ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้มีหมอกในตอนเช้า ทำให้ทัศนวิสัยต่ำจึงควรขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง ในช่วงนี้อากาศจะหนาวเย็นลง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรให้ความอบอุ่นแก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกไรในลิ้นจี่และลำไยที่กำลังแตกใบอ่อนด้วย
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
# มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศา บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 5-6 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ทำให้มีอากาศหนาว ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศา บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 5-6 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ทำให้มีอากาศหนาว ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงที่อุณหภูมิ ลดลงซึ่งจะทำให้อากาศหนาวเย็นลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก ส่วนเกษตรกรที่ก่อไฟผิงควรดับไฟให้สนิททุกครั้งเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกพืชหลัง เก็บเกี่ยวข้าวแล้วควรเลือกปลูกพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เช่น ถั่วต่างๆ พืชผัก หรือข้าวโพด
กลาง
ลักษณะอากาศ
# มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา และมีฝนเล็กน้อย บางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็นเกือบทั่วไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา และมีฝนเล็กน้อย บางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็นเกือบทั่วไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้จะมีฝนบางพื้นที่สำหรับผลผลิตที่เก็บเกี่ยวแล้วตากทิ้งไว้กลางแจ้งต้องระวังความเสียหายเนื่องจากฝนที่ตกได้ สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืชไร่และพืชผักควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้าง
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
# มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา และมีฝนบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
#มีหมอกในตอนเช้าและอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา และมีฝนบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา ทำให้มีอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ในช่วงนี้มีฝนตกน้อย เกษตรกรควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่กำลังเจริญเติบโตและกำลังให้ผลผลิต โดยเฉพาะแปลงข้าวนาปีที่กำลังออกรวง นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยชนิดต่างๆไว้ด้วย
ใต้
ลักษณะอากาศ
# ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 60 % ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค โดยเฉพาะตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 60 % ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค โดยเฉพาะตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่เกือบตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.สำหรับบริเวณที่ถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมา เมื่อระดับน้ำลดลงแล้วควรรีบระบายน้ำออก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชจากเชื้อรา รวมทั้งควรตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่งและแสงแดดส่องถึงโคนต้น ส่วนบริเวณที่มีฝนตกหนักควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมขังไว้ด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ