ความต้องการใช้
ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 3,719 ล้านลิตร
เฉลี่ยวันละ 120 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา และเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.5 และ
3.3 ตามลำดับ โดย ปตท.มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง (รวมปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตาให้
กฟผ. 408 ล้านลิตร) รองลงมาได้แก่ เอสโซ่ เชลล์ และคาลเท็กซ์ ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ
35.6 16.8 15.3 และ 9.1 ตามลำดับ
การจัดหา
การจัดหาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี มีปริมาณทั้งสิ้น 4,090 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ
132 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น จากเดือนที่ผ่านมา และเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.4 และ 1.6 โดย
การจัดหาดังกล่าว ได้มาจากการผลิตภายในประเทศ 3,730 ล้านลิตร และจากการนำเข้าจากต่าง
ประเทศอีก 360 ล้านลิตร ซึ่งแหล่งนำเข้าส่วนใหญ่มาจากเกาหลีร้อยละ 48.3 รองลงมาคือจาก
สิงคโปร์ร้อยละ 40.6 และอื่น ๆ อีกร้อยละ 11.0
สำหรับน้ำมันดิบนำเข้าจากต่างประเทศปริมาณ 4,053 ล้านลิตร (25.5 ล้านบาเรล)
เฉลี่ยวันละ 131 ล้านลิตร มูลค่า 14,106 ล้านบาท โดยเป็นการนำเข้าจากประเทศแถบตะวันออก
กลางร้อยละ 78.1 และตะวันออกไกลอีกร้อยละ 21.9
ความต้องการใช้
1. ภายในประเทศ ความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจีของเดือนนี้ มีปริมาณ
รวมทั้งสิ้น 3,719 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 120 ล้านลิตร 754,681 บาเรลต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือน
ที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.5 และ 3.3 ตามลำดับ
ปตท.จำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และน้ำมันเตา ให้กฟผ. เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการ
ผลิตกระแสไฟฟ้าปริมาณ 75 และ 408 ล้านลิตร และจำหน่ายก๊าซแอลพีจีให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
ปริมาณ 16,212 เมตริกตัน
สำหรับส่วนแบ่งการตลาดของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง จะเห็นได้ว่าปตท.มีส่วน
แบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง คือร้อยละ 35.6 (รวมปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตาให้ กฟผ.คิดเป็น
อัตราร้อยละ 49.9 ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตารวมทั้งประเทศ) รองลงมาได้แก่ เอสโซ่
เชลล์ และคาลเท็กซ์ ร้อยละ 16.8 15.3 และ 9.1 ตามลำดับ
2. ส่งออกไปต่างประเทศ การส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 393
ล้านลิตร โดยเป็นน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี 265 ล้านลิตร โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศ
สิงคโปร์ จีนและเวียดนาม
นอกจากนี้ยังมีการส่งออก ไลท์แนฟธ่า เฮฟวี่แนฟธ่า มิกซ์โซลีน คอนเดนเสท โซเวนท์
ไอโซเมอร์เรต และก๊าซโซลีนธรรมชาติไปยังประเทศสิงคโปร์และเกาหลีอีก 128 ล้านลิตร
การจัดหา
ปริมาณการจัดหาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ได้มาจากการผลิตจากโรงกลั่น และโรงแยกก๊าซฯ
ภายในประเทศร้อยละ 91.2 และจากการนำเข้าอีกร้อยละ 8.8 โดยแยกรายละเอียดดังนี้
1. การผลิต
การผลิตภายในประเทศมีปริมาณ 3,730 ล้านลิตร (รวมปริมาณ MTBE NGL ฝาง
เรสิคิว ไลท์แคทาริคอลรี่แครกก๊าซโซลีน (LCCG) และน้ำมันปนเปื้อนที่นำมาผสมจำนวน 43 ล้านลิตร)
เฉลี่ยวันละ 120 ล้านลิตรหรือ 756,785 บาเรลต่อวัน สนองความต้องการใช้ภายในประเทศได้
อย่างเพียงพอ ยกเว้นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วและน้ำมันเตา ซึ่งยังคงต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ
โดยปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน 386 และ 1,021 ล้านลิตร
คิดเป็นร้อยละ 11.6 และ 3.7 ตามลำดับ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ผลิตได้ในเดือนนี้แยกเป็น
1.1 จากโรงกลั่น ปริมาณ 3,491 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 113 ล้านลิตร หรือ
708,419 บาเรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา และเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.8 และ
36.7 โดยนำน้ำมันเข้าขบวนการกลั่น 3,913 ล้านลิตร หรือวันละ 793,902 บาเรล
1.2 จากโรงแยกก๊าซฯ ปริมาณ 97,179 เมตริกตัน (180 ล้านลิตร) เฉลี่ยวันละ
3,135 เมตริกตัน (6 ล้านลิตร) เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.1
และ 83.8
นอกจากนี้มีก๊าซแอลพีจี ซึ่งเป็นผลิตผลพลอยได้จากการประกอบอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอีก
ปริมาณ 8,221 เมตริกตัน (15 ล้านลิตร) เฉลี่ยวันละ 265 เมตริกตัน
2. การนำเข้า
น้ำมันสำเร็จรูป ก๊าซแอลพีจี และน้ำมันดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศมีปริมาณรวมทั้งสิ้น
4,414 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 142 ล้านลิตร หรือ 895,540 บาเรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่า 15,653
ล้านบาท (ไม่รวมปริมาณนำเข้า MTBE ที่นำเข้ามาจากสิงคโปร์ และซาอุดิอารเบียอีก 33 ล้านลิตร
มูลค่า 174 ล้านบาท) แยกรายละเอียดได้ดังนี้
2.1 น้ำมันดิบ ปริมาณ 4,053 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 131 ล้านลิตร หรือ 822,441
บาเรลต่อวันราคาเฉลี่ย 21.29 เหรียญสหรัฐ/บาเรล มูลค่าการนำเข้า 14,106 ล้านบาท
ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาร้อยละ 36.4 และ 25.6 ตามลำดับราคานำ
เข้าเฉลี่ยลดลง 1.88 เหรียญสหรัฐ/บาเรล
ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 36.1 และ 57.8 ตามลำดับ
โดยราคานำเข้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.39 เหรียญสหรัฐ/บาเรล
ปริมาณและแหล่งนำเข้าน้ำมันดิบ
แหล่งนำเข้า ปริมาณ/ล้านลิตร ราคาเฉลี่ย (เหรียญสหรัฐ/บาเรล) ร้อยละ
ตะวันออกกลาง 3,167 20.71 78.1
ตะวันออกไกล 887 23.36 21.9
รวม 4,053 21.29 100.0
การนำเข้าจากแหล่งตะวันออกกลาง แหล่งนำเข้าใหญ่ที่สุดมาจากประเทศโอมาน คิดเป็น
ร้อยละ 25.5 ซาอุดิอารเบียร้อยละ 16.9 สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ร้อยละ 14.1 สำหรับจากแหล่ง
ตะวันออกไกล มาจากประเทศมาเลเซียร้อยละ 17.1 อินโดนีเซีย ร้อยละ 4.2 และบรูไนร้อยละ
2.5
2.2 น้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี ปริมาณรวมทั้งสิ้น 360 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ
12 ล้านลิตรหรือ 73,099 บาเรลต่อวัน มูลค่า 1,547 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาร้อยละ
9.6 แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 72.6 โดยปริมาณการนำเข้าในเดือนนี้เป็นการนำ
เข้าน้ำมันดีเซลหมุนเร็วถึงร้อยละ 76.0
ปริมาณและแหล่งนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี
แหล่งนำเข้า ปริมาณ (ล้านลิตร) ร้อยละ
เกาหลี 174 48.3
สิงคโปร์ 146 40.6
อื่น ๆ 40 11.0
รวม 360 100.0
ปริมาณความต้องการใช้และการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิง
มกราคม - มีนาคม 2540
1. ความต้องการใช้
ปริมาณรวมทั้งสิ้น 10,419 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 116 ล้านลิตร หรือ 728.188 บาเรล
เพิ่มขึ้นจากปี 2539 ปริมาณ 217 ล้านลิตร หรือวันละ 4 ล้านลิตร คิดเป็นร้อยละ 2.1
2. การจัดหา
การจัดหาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 11,555 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 128 ล้าน
ลิตรหรือ 807,543 บาเรล เพิ่มขึ้นจากปี 2539 ปริมาณ 675 ล้านลิตร หรือวันละ 9 ล้านลิตร คิด
เป็นร้อยละ 6.2 โดยแยกได้ดังนี้
2.1 การผลิตภายในประเทศ
ได้จากโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซฯ 10,703 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 119 ล้านลิตร
หรือ 748,029 บาเรล สามารถสนองความต้องการใช้ภายในประเทศได้อย่างเพียงพอเพิ่มขึ้นจาก
ปี 2539 ปริมาณ 2,891 ล้านลิตรหรือวันละ 33 ล้านลิตร คิดเป็นร้อยละ 37.0
2.2 การนำเข้าจากต่างประเทศ
ปริมาณรวมทั้งสิ้น 852 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 9 ล้านลิตร หรือ 59,514 บาเรล
ลดลงจากปี 2539 ปริมาณ 2,216 หรือวันละ 25 ล้านลิตร คิดเป็นร้อยละ 72.2
สำหรับน้ำมันดิบมีปริมาณการนำเข้ารวมทั้งสิ้น 10,433 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 116 ล้าน
ลิตรหรือ 729,174 บาเรล มูลค่าการนำเข้า 38,665 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2539 ปริมาณ
2,563 ล้านลิตร หรือร้อยละ 32.6 โดยนำเข้ามาจากตะวันออกกลางร้อยละ 76.8 ตะวันออกไกล
ร้อยละ 20.6 และอื่น ๆ อีก ร้อยละ 2.6
--กองน้ำมันเชื้อเพลิง กรมทะเบียนการค้า--
ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 3,719 ล้านลิตร
เฉลี่ยวันละ 120 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา และเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.5 และ
3.3 ตามลำดับ โดย ปตท.มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง (รวมปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตาให้
กฟผ. 408 ล้านลิตร) รองลงมาได้แก่ เอสโซ่ เชลล์ และคาลเท็กซ์ ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ
35.6 16.8 15.3 และ 9.1 ตามลำดับ
การจัดหา
การจัดหาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี มีปริมาณทั้งสิ้น 4,090 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ
132 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น จากเดือนที่ผ่านมา และเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.4 และ 1.6 โดย
การจัดหาดังกล่าว ได้มาจากการผลิตภายในประเทศ 3,730 ล้านลิตร และจากการนำเข้าจากต่าง
ประเทศอีก 360 ล้านลิตร ซึ่งแหล่งนำเข้าส่วนใหญ่มาจากเกาหลีร้อยละ 48.3 รองลงมาคือจาก
สิงคโปร์ร้อยละ 40.6 และอื่น ๆ อีกร้อยละ 11.0
สำหรับน้ำมันดิบนำเข้าจากต่างประเทศปริมาณ 4,053 ล้านลิตร (25.5 ล้านบาเรล)
เฉลี่ยวันละ 131 ล้านลิตร มูลค่า 14,106 ล้านบาท โดยเป็นการนำเข้าจากประเทศแถบตะวันออก
กลางร้อยละ 78.1 และตะวันออกไกลอีกร้อยละ 21.9
ความต้องการใช้
1. ภายในประเทศ ความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจีของเดือนนี้ มีปริมาณ
รวมทั้งสิ้น 3,719 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 120 ล้านลิตร 754,681 บาเรลต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือน
ที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.5 และ 3.3 ตามลำดับ
ปตท.จำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และน้ำมันเตา ให้กฟผ. เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการ
ผลิตกระแสไฟฟ้าปริมาณ 75 และ 408 ล้านลิตร และจำหน่ายก๊าซแอลพีจีให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
ปริมาณ 16,212 เมตริกตัน
สำหรับส่วนแบ่งการตลาดของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง จะเห็นได้ว่าปตท.มีส่วน
แบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง คือร้อยละ 35.6 (รวมปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตาให้ กฟผ.คิดเป็น
อัตราร้อยละ 49.9 ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตารวมทั้งประเทศ) รองลงมาได้แก่ เอสโซ่
เชลล์ และคาลเท็กซ์ ร้อยละ 16.8 15.3 และ 9.1 ตามลำดับ
2. ส่งออกไปต่างประเทศ การส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 393
ล้านลิตร โดยเป็นน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี 265 ล้านลิตร โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศ
สิงคโปร์ จีนและเวียดนาม
นอกจากนี้ยังมีการส่งออก ไลท์แนฟธ่า เฮฟวี่แนฟธ่า มิกซ์โซลีน คอนเดนเสท โซเวนท์
ไอโซเมอร์เรต และก๊าซโซลีนธรรมชาติไปยังประเทศสิงคโปร์และเกาหลีอีก 128 ล้านลิตร
การจัดหา
ปริมาณการจัดหาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ได้มาจากการผลิตจากโรงกลั่น และโรงแยกก๊าซฯ
ภายในประเทศร้อยละ 91.2 และจากการนำเข้าอีกร้อยละ 8.8 โดยแยกรายละเอียดดังนี้
1. การผลิต
การผลิตภายในประเทศมีปริมาณ 3,730 ล้านลิตร (รวมปริมาณ MTBE NGL ฝาง
เรสิคิว ไลท์แคทาริคอลรี่แครกก๊าซโซลีน (LCCG) และน้ำมันปนเปื้อนที่นำมาผสมจำนวน 43 ล้านลิตร)
เฉลี่ยวันละ 120 ล้านลิตรหรือ 756,785 บาเรลต่อวัน สนองความต้องการใช้ภายในประเทศได้
อย่างเพียงพอ ยกเว้นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วและน้ำมันเตา ซึ่งยังคงต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ
โดยปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน 386 และ 1,021 ล้านลิตร
คิดเป็นร้อยละ 11.6 และ 3.7 ตามลำดับ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ผลิตได้ในเดือนนี้แยกเป็น
1.1 จากโรงกลั่น ปริมาณ 3,491 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 113 ล้านลิตร หรือ
708,419 บาเรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา และเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.8 และ
36.7 โดยนำน้ำมันเข้าขบวนการกลั่น 3,913 ล้านลิตร หรือวันละ 793,902 บาเรล
1.2 จากโรงแยกก๊าซฯ ปริมาณ 97,179 เมตริกตัน (180 ล้านลิตร) เฉลี่ยวันละ
3,135 เมตริกตัน (6 ล้านลิตร) เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15.1
และ 83.8
นอกจากนี้มีก๊าซแอลพีจี ซึ่งเป็นผลิตผลพลอยได้จากการประกอบอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอีก
ปริมาณ 8,221 เมตริกตัน (15 ล้านลิตร) เฉลี่ยวันละ 265 เมตริกตัน
2. การนำเข้า
น้ำมันสำเร็จรูป ก๊าซแอลพีจี และน้ำมันดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศมีปริมาณรวมทั้งสิ้น
4,414 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 142 ล้านลิตร หรือ 895,540 บาเรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่า 15,653
ล้านบาท (ไม่รวมปริมาณนำเข้า MTBE ที่นำเข้ามาจากสิงคโปร์ และซาอุดิอารเบียอีก 33 ล้านลิตร
มูลค่า 174 ล้านบาท) แยกรายละเอียดได้ดังนี้
2.1 น้ำมันดิบ ปริมาณ 4,053 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 131 ล้านลิตร หรือ 822,441
บาเรลต่อวันราคาเฉลี่ย 21.29 เหรียญสหรัฐ/บาเรล มูลค่าการนำเข้า 14,106 ล้านบาท
ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาร้อยละ 36.4 และ 25.6 ตามลำดับราคานำ
เข้าเฉลี่ยลดลง 1.88 เหรียญสหรัฐ/บาเรล
ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 36.1 และ 57.8 ตามลำดับ
โดยราคานำเข้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.39 เหรียญสหรัฐ/บาเรล
ปริมาณและแหล่งนำเข้าน้ำมันดิบ
แหล่งนำเข้า ปริมาณ/ล้านลิตร ราคาเฉลี่ย (เหรียญสหรัฐ/บาเรล) ร้อยละ
ตะวันออกกลาง 3,167 20.71 78.1
ตะวันออกไกล 887 23.36 21.9
รวม 4,053 21.29 100.0
การนำเข้าจากแหล่งตะวันออกกลาง แหล่งนำเข้าใหญ่ที่สุดมาจากประเทศโอมาน คิดเป็น
ร้อยละ 25.5 ซาอุดิอารเบียร้อยละ 16.9 สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ร้อยละ 14.1 สำหรับจากแหล่ง
ตะวันออกไกล มาจากประเทศมาเลเซียร้อยละ 17.1 อินโดนีเซีย ร้อยละ 4.2 และบรูไนร้อยละ
2.5
2.2 น้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี ปริมาณรวมทั้งสิ้น 360 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ
12 ล้านลิตรหรือ 73,099 บาเรลต่อวัน มูลค่า 1,547 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาร้อยละ
9.6 แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 72.6 โดยปริมาณการนำเข้าในเดือนนี้เป็นการนำ
เข้าน้ำมันดีเซลหมุนเร็วถึงร้อยละ 76.0
ปริมาณและแหล่งนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี
แหล่งนำเข้า ปริมาณ (ล้านลิตร) ร้อยละ
เกาหลี 174 48.3
สิงคโปร์ 146 40.6
อื่น ๆ 40 11.0
รวม 360 100.0
ปริมาณความต้องการใช้และการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิง
มกราคม - มีนาคม 2540
1. ความต้องการใช้
ปริมาณรวมทั้งสิ้น 10,419 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 116 ล้านลิตร หรือ 728.188 บาเรล
เพิ่มขึ้นจากปี 2539 ปริมาณ 217 ล้านลิตร หรือวันละ 4 ล้านลิตร คิดเป็นร้อยละ 2.1
2. การจัดหา
การจัดหาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 11,555 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 128 ล้าน
ลิตรหรือ 807,543 บาเรล เพิ่มขึ้นจากปี 2539 ปริมาณ 675 ล้านลิตร หรือวันละ 9 ล้านลิตร คิด
เป็นร้อยละ 6.2 โดยแยกได้ดังนี้
2.1 การผลิตภายในประเทศ
ได้จากโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซฯ 10,703 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 119 ล้านลิตร
หรือ 748,029 บาเรล สามารถสนองความต้องการใช้ภายในประเทศได้อย่างเพียงพอเพิ่มขึ้นจาก
ปี 2539 ปริมาณ 2,891 ล้านลิตรหรือวันละ 33 ล้านลิตร คิดเป็นร้อยละ 37.0
2.2 การนำเข้าจากต่างประเทศ
ปริมาณรวมทั้งสิ้น 852 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 9 ล้านลิตร หรือ 59,514 บาเรล
ลดลงจากปี 2539 ปริมาณ 2,216 หรือวันละ 25 ล้านลิตร คิดเป็นร้อยละ 72.2
สำหรับน้ำมันดิบมีปริมาณการนำเข้ารวมทั้งสิ้น 10,433 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 116 ล้าน
ลิตรหรือ 729,174 บาเรล มูลค่าการนำเข้า 38,665 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2539 ปริมาณ
2,563 ล้านลิตร หรือร้อยละ 32.6 โดยนำเข้ามาจากตะวันออกกลางร้อยละ 76.8 ตะวันออกไกล
ร้อยละ 20.6 และอื่น ๆ อีก ร้อยละ 2.6
--กองน้ำมันเชื้อเพลิง กรมทะเบียนการค้า--