ก่อนหน้านี้ หลายท่านคงเคยได้ยินข่าวลือหนาหูว่า บริษัทสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่อย่าง แอปเปิล แอบซุ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเงียบๆ มาถึงตอนนี้ก็หายสงสัยกันได้แล้วค่ะ เพราะแอปเปิลเพิ่งแง้มข้อมูลโครงการรถยนต์ไฟฟ้าออกมาสดๆร้อนๆ จะเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามกันค่ะ
โครงการรถยนต์ไฟฟ้าของแอปเปิลมีชื่อว่า Apple iCar รุ่น Titan ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบขับเคลื่อนด้วยตนเอง ซีอีโอทิม คุกได้อนุมัติโครงการดังกล่าวไปเมื่อปีที่แล้ว และมอบหมายให้รองประธานสตีฟ ซาเดสกี อดีตวิศวกรโครงการจากบริษัทฟอร์ด เข้ามาดูแลโครงการ Titan อย่างเต็มตัว นอกจากนี้ แอปเปิลยังระดมทีมผู้เชี่ยวชาญในแวดวงวิศวกรรมยานยนต์หลายร้อยชีวิตมาร่วมกันผลักดันโครงการนี้อย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น นายโจฮานน์ จังเวิร์ธ ผู้เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของเมอร์เซเดส-เบนซ์ประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือมานานเกือบ 6 ปี ซึ่งแอปเปิลก็ได้คว้าตัวมาร่วมงานในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมระบบ Mac ผลงานที่ผ่านมาของโจฮานน์แสดงให้เห็นว่าเขามีความเชี่ยวชาญด้านการสร้างรถยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และการขับเคลื่อนอัตโนมัติเป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้น แอปเปิลยังรวบรวมทีมงานระดับผู้บริหาร และวิศวกรจากบริษัทรถยนต์หลายแห่ง รวมถึงดึงตัวพนักงานจำนวนมากจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำอย่าง เทสล่า (Tesla) อีกด้วย ขณะที่เทสล่าก็ไม่น้อยหน้า เพราะก่อนหน้านี้เทสล่าก็เข้ามาชิงตัวบุคลากรจากแอปเปิลไปร่วมกว่า 150 คนเหมือนกัน งานนี้ถือว่าทีใครทีมัน
วงในอุตสาหกรรมยานยนต์ต่างคาดการณ์ว่า แอปเปิล และกูเกิลจะกลายมาเป็นคู่แข่งกันเอง ทั้งๆที่เคยตัดสินใจที่เป็นพันธมิตรกันแล้ว เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทต่างก็มีแผนที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเช่นเดียวกัน แถมยังอยู่ในเวลาไล่เลี่ยกันอีกด้วย โดยแอปเปิลคาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถเริ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ภายในปี 2563 ขณะที่ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา กูเกิลก็ออกมาประกาศย้ำว่าอยากจะผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเองให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี ทั้งนี้ กูเกิลได้พัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองมาตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว หากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต้องการจะผลิตรถยนต์สัก 1 รุ่น พวกเขาต้องใช้เวลาในการพัฒนาอย่างน้อยราวๆ 5-7 ปี แค่เฉพาะขั้นตอนการทดสอบที่จำเป็นต้องมีการขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกฏหมายก็มักจะกินเวลาถึง 3 ปีเข้าไปแล้ว นอกจากนี้ ผู้ลงแข่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังหมายรวมถึงบริษัทเทสล่า และเจนเนอรัล มอเตอร์ส ซึ่งวางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2560 โดยอวดสรรพคุณไว้ว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของบริษัทจะสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 200 ไมล์ ในราคาไม่ถึง 40,000 ดอลลาร์
บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างเห็นแอปเปิล และกูเกิลเป็นคู่แข่งสำคัญ เมื่อปีที่แล้ว ผู้ผลิตรถยนต์หลากหลายค่ายต่างร่วมกันลงนามเป็นสหพันธ์รถยนต์แบบเปิดของกูเกิล (Open Automotive Alliance) เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบปฏิบัติการ Android มาใช้ในรถยนต์ ภายในปี 2563 มูลค่าตลาดรถยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจทะยานขึ้นสูงถึง 1.7 แสนล้านยูโร หรือประมาณ 1.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว จากที่ในปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 3 หมื่นล้านยูโรเท่านั้น
ปัจจุบัน ซีอีโอทิม คุก ก็เร่งผลักดัน iPhone เข้าสู่ตลาดใหม่ๆเพื่อขยายฐานผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ และบริการของแอปเปิลโดยมุ่งตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิตอล ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิลมีผลกำไรสุทธิ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ และปัจจุบัน หุ้นแอปเปิลมีมูลค่าราว 128 ดอลลาร์ ซึ่งพุ่งขึ้นถึง 71% เมื่อเทียบกับปีก่อน ผลการวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) เผยว่า การทดสอบเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าของแอปเปิลอาจช่วยเพิ่มมูลค่าของบริษัทแอปเปิลกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 1 ปีนับจากนี้ ขณะที่ปัจจุบันบริษัทแอปเปิลมีมูลค่าเกือบ 7.5 แสนล้านดอลลาร์
นอกจากโครงการ iCar แล้ว ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แอปเปิลผลิตออกมาเพื่อปูทางสู่ตลาดรถยนต์อัจฉริยะ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากในวงการยานยนต์ คงหนีไม่พ้นระบบ CarPlay ที่ใช้งานบน iOS โดยวิธีการใช้งานก็เพียงแค่เชื่อมต่อ iPhone เข้ากับรถยนต์ที่รองรับระบบ CarPlay หลังจากนั้นหน้าจอแสดงผลในรถก็จะเปลี่ยนจากเมนูการใช้งานปกติเป็นเมนูควบคุมของ CarPlay ซึ่งสามารถสั่งการผ่านเสียง และการสัมผัสได้ รถยนต์ที่รองรับระบบดังกล่าวมีให้เลือกหลากหลายค่าย อาทิ Ferrari, Mercedes-Benz, BMW, Ford, Honda, Toyota, Nissan และค่ายดังอื่นๆอีกมากมาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ระบบ CarPlay จะใช้ได้เฉพาะกับ iPhone 5, iPhone 5c, iPhone 5s และรุ่นใหม่ๆในอนาคตเท่านั้น ความสามารถพื้นฐานของเจ้าระบบ CarPlay ก็ได้แก่ การใช้รับโทรศัพท์, ส่งข้อความ, ฟังเพลง, แผนที่นำทาง พร้อมใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆอีกมากมาย
นักวิเคราะห์คาดกันว่า แอปเปิลจะนำระบบ CarPlay มาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า iCar ในอนาคต แม้ว่าขณะนี้ แอปเปิลจะยังไม่ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของตนเองมากนัก แต่ทั่วโลกกลับให้ความสนใจเป็นอย่างมากถึงขั้นคาดการณ์กันไปต่างๆนานาว่า รถยนต์ไฟฟ้าที่แอปเปิลผลิตน่าจะมีลักษณะเหมือนรถตู้ขนาดเล็กมากกว่ารถยนต์โดยสาร ทั้งๆที่เจ้าตัวผู้ผลิตเองก็ไม่ใจอ่อนแอบเผยข้อมูลแต่อย่างใด ดังนั้นพอจะสรุปได้ว่า กระแสรถยนต์ไฟฟ้าถือว่ามาแรงแซงหน้า iPhone กันเลยทีเดียว