แท็ก
ธสน.
หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่ง
ประเทศไทย (ธสน.)เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2541ว่า สินทรัพย์รวมของธสน.
เพิ่มขึ้นในอัตราทีูสูงถึง 120% จาก 37,387.5 ล้านบาท เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน 2540 เป็น 82,202.3
ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2541 ส่วนกำไรสุทธินั้นต่ำกว่างวดครึ่งแรกของปีก่อน เนื่องจากการตั้ง
สำรองหนี้สงสัยจะสูญตามเกณฑ์ใหม่ที่เข้มงวดขึ้นกรรมการผู้จัดการ ธสน. จี้แจงผลการดำเนินงานในช่วง
6 เดือนแรกของปีนี้ว่า สินทรัพย์รวมของ ธสน. ขยายตัวในอัตราสูง เนื่องจากความต้องการสินเชื่อ
ส่งออกเพิ่มสูงขึ้น เพราะค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงทำให้ผู้ส่งออกต้องใช้สินเชื่อเป็นจำนวนเงินบาทมากขึ้น
เพื่อจะส่งออกเป็นเงินดอลลาร์จำนวนเท่าเดิมนอกจากนี้ยังมีผู้ส่งออกที่ยังไม่เคยเป็นลูกค้าหันมาใช้บริการ
ของ ธสน. มากขึ้นด้วย ธสน. จึงได้เร่งดำเนินการทั้ง 2 ทาง คือ ขยายบริการ ผ่านธนาคารพาณิชย์
และปล่อยกู้โดยตรงเพิ่มมากขึ้นสินเชื่อที่ ธสน.ให้บริการผ่านธนาคารพาณิชย์ ซึ่งได้แก่แพ็คกิ้งเครดิตและ
แพ็คกิ้งเครดิตพิเศษมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 38,780.3 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2541
เพิ่มขึ้น 70.4% จากยอด 22,760.4 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2540
ส่วนสินเชี่อที่ ธสน. ให้กู้โดยตรงแก่ผู้ส่งออกมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 20,640.2 ล้านบาท
ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2541 คิดเป็น 2 เท่าตัวของยอด 10,341.7 ล้านบาท เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน
2540 สินเชื่อที่ ธสน.
หน่วย: ล้านบาท
รายการ ณ สิ้น ณ สิ้น เปลี่ยนแปลง
มิ.ย 40 มิ.ย. 41 ร้อยละ
วงเงินสินเชื่อ
วงเงินสินเชื่อเพื่อเตรียมการส่งออก 15,452.0 29,772.4 92.7
วงเงินสินเชื่อแพ็คกิ้งเครดิตแบบกู้ตรง - 3,027.0 -
วงเงินสินเชื่อขยายกำลังการผลิต 1,851.1 2,682.4 44.9
วงเงินสินเชื่อเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร - 506.8 -
วงเงินสินเชื่อพาณิชย์นาวี 1,872.0 3,675.8 96.4
วงเงินประกันการส่งออก 3,785.8 5,571.5 47.2
วงเงินสินเชื่อโครงการระหว่างประเทศ 5,078.2 9,176.0 80.7
รายการ ม.ค.-มิ.ย. ม.ค.-มิ.ย. เปลี่ยนแปลง
2540 2541 ร้อยละ
ปริมาณธุรกิจ
มูลค่าการส่งออกสนับสนุนด้วยแพ็คกิ้งเครดิต 86,181.5 129,602.1 50.4
แพ็คกิ้งเครดิตผ่านธนาคารพาณิชย์
-บาท 86,181.5 103,717.8 20.3
-ดอลลาร์สหรัฐ - 24,941.4 -
แพ็คกิ้งเครดิต -ธสน. ให้กู้โดยตรง - 942.9 -
มูลค่าตั๋วส่งออกที่ผู้ส่งออกมาขายและฝากเรียกเก็บ 9,123.7 28,920.0 217.0
มูลค่ารับแจ้งประกันการส่งออก 1,958.3 4,564.3 133.1
หน่วย : ล้านบาท
รายการ ณ สิ้น ณ สิ้น เปลี่ยนแปลง
มิ.ย. 40 มิ.ย. 41 ร้อยละ
สินทรัพย์รวม 37,387.5 82,202.3 119.9
-สินทรัพย์ที่เกิดจากการให้สินเชื่อผ่าน 22,760.4 38,780.3 70.4
ธนาคารพาณิชย์
-สินทรัพย์ที่เกิดจากการให้สินเชื่อโดยตรงแก่ 10,341.7 20,640.2 99.6
ผู้ส่งออกในประเทศ
-สินทรัพย์ที่เกิดจากการให้สินเชื่อแก่นักลงทุน 1,750.2 5,712.3 226.4
ไทยที่ไปทำธุรกิจในต่างประเทศ
หน่วย : ล้านบาท
รายการ ม.ค.-มิ.ย. ม.ค.-ธ.ค. ม.ค.-มิ.ย.
2540 2540 2541
กำไร
กำไรก่อนกันสำรอง 364.8 781.0 890.7
สำรองหนี้สงสัยจะสูญ 31.0 480.6 734.6
กำไรหลังสำรอง 333.8 300.4 156.14
ให้บริการโดยตรง ได้แก่ สินเชื่อเพื่อเตรียมการส่งออก แพ็คกิ้งเคดดิตแบบกู้ตรงซึ่งเพิ่งเริ่มให้
บริการเมื่อปลายเดือนเมษายน 2541 สินเชื่อพาณิชย์นาวี สินเชื่อเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรสินเชื่อเพื่อขยาย
กำลังการผลิตและการรับซื้อตั๋วส่งออกในการเร่งขยาบสินเชื่อแก่ผู้ส่งออกนี้ ธสน. ได้หาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม
โดยได้กู้เงินจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศญี่ปุ่น (The Export-Import of Japan :
JEXIM) และได้วงเงินแพ็คกิ้งเครดิตส่วนหนึ่งจากธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อให้ ธสน.ปล่อยกู้โดยตรงแก่
ผู้ส่งออก
ทางด้าน" บริการประกันการส่งออก" นั้น ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี
2541 ทั้งวงเงินประกันการส่งออกที่เพิ่มขึ้น 47.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและยอดการใช้บริการประกัน
การส่งออก ซึ่งวัดจากมูลค่ารับแจ้งประกันการส่งออกที่ขยายตัวในอัตราสูงถึง 133.1%
สำหรับ "สินเชื่อโครงการระหว่างประเทศ" ชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจใน
ประเทศที่ซบเซาลงทำให้ความต้องการลงทุนในต่างประเทศของนักธุรกิจไทยชะลอลง แต่ ธสน. ก็ยังคง
อนุมัติสินเชื่อโครงการระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2541 นี้
ส่วนด้านการทำกำไรนั้น ธสน. มีกำไรก่อนกันสำรวจเพิ่มขึ้นจาก 364.8 ล้านบาท ในช่วงครึ่ง
แรกของปี 2540 เป็น 890.7 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่เนื่องจากการจัดชั้นที่เข้มงวดขึ้นตาม
หลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยใช้กับธนาคารพาณิชย์ ทำให้ ธสน. ต้องกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญไว้ถึง
734.6 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เทียบกับ 31.0 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปีก่อน ดังนั้นกำไร
หลังสำรองจึงลดลงเหลือเพียง 156.1 ล้านบาท จาก 333.8 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปีที่แล้ว
กรรมการผู้จัดการ ธสน. ชี้แจงเพิ่มเติมว่าการที่ ธสน. ยังมีผลกำไรจากการดำเนินงานใน
ช่วงครึ่งแรกของปี 2541 นี้ เนื่องจากปริมาณธุรกิจของธสน. เพิ่มสูงขึ้นมากทุกประเภท อีกทั้งธุรกิจส่งออก
ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของ ธสน. โดยเปรียบเทียบแล้วมีปัญหาหนี้เสียไม่รุนแรงเท่ากับธุรกิจอื่นๆ
--Exim News, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, ปีที่ 4 ฉบับ 7
ประจำเดือน กรกฎาคม--
ประเทศไทย (ธสน.)เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2541ว่า สินทรัพย์รวมของธสน.
เพิ่มขึ้นในอัตราทีูสูงถึง 120% จาก 37,387.5 ล้านบาท เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน 2540 เป็น 82,202.3
ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2541 ส่วนกำไรสุทธินั้นต่ำกว่างวดครึ่งแรกของปีก่อน เนื่องจากการตั้ง
สำรองหนี้สงสัยจะสูญตามเกณฑ์ใหม่ที่เข้มงวดขึ้นกรรมการผู้จัดการ ธสน. จี้แจงผลการดำเนินงานในช่วง
6 เดือนแรกของปีนี้ว่า สินทรัพย์รวมของ ธสน. ขยายตัวในอัตราสูง เนื่องจากความต้องการสินเชื่อ
ส่งออกเพิ่มสูงขึ้น เพราะค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงทำให้ผู้ส่งออกต้องใช้สินเชื่อเป็นจำนวนเงินบาทมากขึ้น
เพื่อจะส่งออกเป็นเงินดอลลาร์จำนวนเท่าเดิมนอกจากนี้ยังมีผู้ส่งออกที่ยังไม่เคยเป็นลูกค้าหันมาใช้บริการ
ของ ธสน. มากขึ้นด้วย ธสน. จึงได้เร่งดำเนินการทั้ง 2 ทาง คือ ขยายบริการ ผ่านธนาคารพาณิชย์
และปล่อยกู้โดยตรงเพิ่มมากขึ้นสินเชื่อที่ ธสน.ให้บริการผ่านธนาคารพาณิชย์ ซึ่งได้แก่แพ็คกิ้งเครดิตและ
แพ็คกิ้งเครดิตพิเศษมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 38,780.3 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2541
เพิ่มขึ้น 70.4% จากยอด 22,760.4 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2540
ส่วนสินเชี่อที่ ธสน. ให้กู้โดยตรงแก่ผู้ส่งออกมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 20,640.2 ล้านบาท
ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2541 คิดเป็น 2 เท่าตัวของยอด 10,341.7 ล้านบาท เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน
2540 สินเชื่อที่ ธสน.
หน่วย: ล้านบาท
รายการ ณ สิ้น ณ สิ้น เปลี่ยนแปลง
มิ.ย 40 มิ.ย. 41 ร้อยละ
วงเงินสินเชื่อ
วงเงินสินเชื่อเพื่อเตรียมการส่งออก 15,452.0 29,772.4 92.7
วงเงินสินเชื่อแพ็คกิ้งเครดิตแบบกู้ตรง - 3,027.0 -
วงเงินสินเชื่อขยายกำลังการผลิต 1,851.1 2,682.4 44.9
วงเงินสินเชื่อเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร - 506.8 -
วงเงินสินเชื่อพาณิชย์นาวี 1,872.0 3,675.8 96.4
วงเงินประกันการส่งออก 3,785.8 5,571.5 47.2
วงเงินสินเชื่อโครงการระหว่างประเทศ 5,078.2 9,176.0 80.7
รายการ ม.ค.-มิ.ย. ม.ค.-มิ.ย. เปลี่ยนแปลง
2540 2541 ร้อยละ
ปริมาณธุรกิจ
มูลค่าการส่งออกสนับสนุนด้วยแพ็คกิ้งเครดิต 86,181.5 129,602.1 50.4
แพ็คกิ้งเครดิตผ่านธนาคารพาณิชย์
-บาท 86,181.5 103,717.8 20.3
-ดอลลาร์สหรัฐ - 24,941.4 -
แพ็คกิ้งเครดิต -ธสน. ให้กู้โดยตรง - 942.9 -
มูลค่าตั๋วส่งออกที่ผู้ส่งออกมาขายและฝากเรียกเก็บ 9,123.7 28,920.0 217.0
มูลค่ารับแจ้งประกันการส่งออก 1,958.3 4,564.3 133.1
หน่วย : ล้านบาท
รายการ ณ สิ้น ณ สิ้น เปลี่ยนแปลง
มิ.ย. 40 มิ.ย. 41 ร้อยละ
สินทรัพย์รวม 37,387.5 82,202.3 119.9
-สินทรัพย์ที่เกิดจากการให้สินเชื่อผ่าน 22,760.4 38,780.3 70.4
ธนาคารพาณิชย์
-สินทรัพย์ที่เกิดจากการให้สินเชื่อโดยตรงแก่ 10,341.7 20,640.2 99.6
ผู้ส่งออกในประเทศ
-สินทรัพย์ที่เกิดจากการให้สินเชื่อแก่นักลงทุน 1,750.2 5,712.3 226.4
ไทยที่ไปทำธุรกิจในต่างประเทศ
หน่วย : ล้านบาท
รายการ ม.ค.-มิ.ย. ม.ค.-ธ.ค. ม.ค.-มิ.ย.
2540 2540 2541
กำไร
กำไรก่อนกันสำรอง 364.8 781.0 890.7
สำรองหนี้สงสัยจะสูญ 31.0 480.6 734.6
กำไรหลังสำรอง 333.8 300.4 156.14
ให้บริการโดยตรง ได้แก่ สินเชื่อเพื่อเตรียมการส่งออก แพ็คกิ้งเคดดิตแบบกู้ตรงซึ่งเพิ่งเริ่มให้
บริการเมื่อปลายเดือนเมษายน 2541 สินเชื่อพาณิชย์นาวี สินเชื่อเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรสินเชื่อเพื่อขยาย
กำลังการผลิตและการรับซื้อตั๋วส่งออกในการเร่งขยาบสินเชื่อแก่ผู้ส่งออกนี้ ธสน. ได้หาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม
โดยได้กู้เงินจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศญี่ปุ่น (The Export-Import of Japan :
JEXIM) และได้วงเงินแพ็คกิ้งเครดิตส่วนหนึ่งจากธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อให้ ธสน.ปล่อยกู้โดยตรงแก่
ผู้ส่งออก
ทางด้าน" บริการประกันการส่งออก" นั้น ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี
2541 ทั้งวงเงินประกันการส่งออกที่เพิ่มขึ้น 47.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและยอดการใช้บริการประกัน
การส่งออก ซึ่งวัดจากมูลค่ารับแจ้งประกันการส่งออกที่ขยายตัวในอัตราสูงถึง 133.1%
สำหรับ "สินเชื่อโครงการระหว่างประเทศ" ชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจใน
ประเทศที่ซบเซาลงทำให้ความต้องการลงทุนในต่างประเทศของนักธุรกิจไทยชะลอลง แต่ ธสน. ก็ยังคง
อนุมัติสินเชื่อโครงการระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2541 นี้
ส่วนด้านการทำกำไรนั้น ธสน. มีกำไรก่อนกันสำรวจเพิ่มขึ้นจาก 364.8 ล้านบาท ในช่วงครึ่ง
แรกของปี 2540 เป็น 890.7 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่เนื่องจากการจัดชั้นที่เข้มงวดขึ้นตาม
หลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยใช้กับธนาคารพาณิชย์ ทำให้ ธสน. ต้องกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญไว้ถึง
734.6 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เทียบกับ 31.0 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปีก่อน ดังนั้นกำไร
หลังสำรองจึงลดลงเหลือเพียง 156.1 ล้านบาท จาก 333.8 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปีที่แล้ว
กรรมการผู้จัดการ ธสน. ชี้แจงเพิ่มเติมว่าการที่ ธสน. ยังมีผลกำไรจากการดำเนินงานใน
ช่วงครึ่งแรกของปี 2541 นี้ เนื่องจากปริมาณธุรกิจของธสน. เพิ่มสูงขึ้นมากทุกประเภท อีกทั้งธุรกิจส่งออก
ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของ ธสน. โดยเปรียบเทียบแล้วมีปัญหาหนี้เสียไม่รุนแรงเท่ากับธุรกิจอื่นๆ
--Exim News, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, ปีที่ 4 ฉบับ 7
ประจำเดือน กรกฎาคม--