กรุงเทพ--17 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
หลังจากที่แรงงานไทยในไต้หวันได้ก่อเหตุการณ์ประท้วงนายจ้างโดยมีสาเหตุมาจากการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำงานจนเป็นข่าวใหญ่โตออกไปทั่วโลกนั้น ได้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ซึ่งนับว่าเป็นนิมิตรหมายทอันดีในด้านแรงงานก็ว่าได้ ที่ทางการไต้หวันและทางการไทยได้ร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาแรงงานไทยอย่างจริงจัง โดยไม่ได้มุ่งที่จะเอาผิดกับแรงงานไทยที่ทำการประท้วงและก่อการจลาจลเท่านั้น แต่ยังมุ่งประเด็นเรื่องการเก็บ “ค่าหัว” จากแรงงานไทย การละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการเอารัดเอาเปรียบแรงงานไทย โดยผ่านบริษัทจัดหางานของไทยและไต้หวันอีกด้วย
ขณะนี้ยังมีแรงงานไทยจำนวน 18 คน ที่ยังอยู่ระหว่างรอการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเกาสง ทีมประเทศไทยในกรุงไทเปจึงได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจแก่แรงงานไทยที่ค่ายพักในเขต“กังซัน”และได้แจ้งให้แรงงานไทยทราบว่าทางการตำรวจเมืองเกาสงจะนำตัวแรงงานไทยดังกล่าวไปสอบปากคำในวันที่ 5 กันยายน 2548 ซึ่งทางฝ่ายไทยได้เตรียมได้เตรียมล่ามและทนายไว้ให้แล้ว และระหว่างการสอบปากคำ ทีมประทศไทยฯ ทั้งคณะที่เดินทางไปเมืองเกาสงก็ได้นั่งรออยู่ในห้องที่ทางตำรวจจัดไว้ให้ ตั้งแต่เวลา 10.30 น.จนเสร็จสิ้นการสอบสวนในเวลา 22.30 น. ต่อมาเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2548 รอง ผอ. สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทยในไทเป ได้นำอัยการ 2 คนเข้าหารือกับหัวหน้าอัยการเขตเกาสง และแจ้งว่าสาเหตุของการจลาจลเป็นเพราะแรงงานไทยถูกกดขี่จากนายจ้าง จึงขอให้อัยการไต้หวันพิจารณาด้วยความเห็นใจ พร้อมทั้งยืนยันว่าฝ่ายไทยเคารพกฎหมายไต้หวัน ซึ่งอัยการเขตเกาสงรับว่าจะพิจารณาคำขอด้วยดี
เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2548 นางนวลพรรณ มหาคุณ ผอ. สำนักงานฯ พร้อมคณะทั้งหมดได้เข้าพบหารือกับผู้แทนบริษัท KRTC และผู้แทนกรมแรงงานเกาสง เพื่อเจรจาเกี่ยวกับปัญหาด้านสวัสดิการ ค่าตอบแทน และความเป็นอยู่ของแรงงานไทย ให้แก่แรงงานไทยประมาณ 150 คน ซึ่งไม่ยอมไปทำงานเพราะถูกผู้รับเหมาช่วงทำร้ายร่ายกายและด่าว่าอย่างหยาบคาย ผลปรากฏว่า ผู้แทนบริษัทฯ ซึ่งจะเข้ามาดูแลแรงงานไทยโดยตรงรับจะแก้ปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะ การจ่ายค่าตอบแทน จัดทำใบแจ้งเงินเดือนที่จะทำให้แรงงานไทยเข้าใจง่ายขึ้น รวมทั้งจะยกเลิกการบังคับแรงงานไทยทำประกันชีวิตนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ ทางการเกาสงจะย้ายแรงงานไทย 500 คนไปที่พักแห่งใหม่ สำหรับแรงงานที่เหลืออีก 1,100 คน จะยังคงพักอยู่ที่ค่ายพักกังซัน โดยจะมีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยมากขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
หลังจากที่แรงงานไทยในไต้หวันได้ก่อเหตุการณ์ประท้วงนายจ้างโดยมีสาเหตุมาจากการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำงานจนเป็นข่าวใหญ่โตออกไปทั่วโลกนั้น ได้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ซึ่งนับว่าเป็นนิมิตรหมายทอันดีในด้านแรงงานก็ว่าได้ ที่ทางการไต้หวันและทางการไทยได้ร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาแรงงานไทยอย่างจริงจัง โดยไม่ได้มุ่งที่จะเอาผิดกับแรงงานไทยที่ทำการประท้วงและก่อการจลาจลเท่านั้น แต่ยังมุ่งประเด็นเรื่องการเก็บ “ค่าหัว” จากแรงงานไทย การละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการเอารัดเอาเปรียบแรงงานไทย โดยผ่านบริษัทจัดหางานของไทยและไต้หวันอีกด้วย
ขณะนี้ยังมีแรงงานไทยจำนวน 18 คน ที่ยังอยู่ระหว่างรอการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเกาสง ทีมประเทศไทยในกรุงไทเปจึงได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจแก่แรงงานไทยที่ค่ายพักในเขต“กังซัน”และได้แจ้งให้แรงงานไทยทราบว่าทางการตำรวจเมืองเกาสงจะนำตัวแรงงานไทยดังกล่าวไปสอบปากคำในวันที่ 5 กันยายน 2548 ซึ่งทางฝ่ายไทยได้เตรียมได้เตรียมล่ามและทนายไว้ให้แล้ว และระหว่างการสอบปากคำ ทีมประทศไทยฯ ทั้งคณะที่เดินทางไปเมืองเกาสงก็ได้นั่งรออยู่ในห้องที่ทางตำรวจจัดไว้ให้ ตั้งแต่เวลา 10.30 น.จนเสร็จสิ้นการสอบสวนในเวลา 22.30 น. ต่อมาเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2548 รอง ผอ. สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทยในไทเป ได้นำอัยการ 2 คนเข้าหารือกับหัวหน้าอัยการเขตเกาสง และแจ้งว่าสาเหตุของการจลาจลเป็นเพราะแรงงานไทยถูกกดขี่จากนายจ้าง จึงขอให้อัยการไต้หวันพิจารณาด้วยความเห็นใจ พร้อมทั้งยืนยันว่าฝ่ายไทยเคารพกฎหมายไต้หวัน ซึ่งอัยการเขตเกาสงรับว่าจะพิจารณาคำขอด้วยดี
เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2548 นางนวลพรรณ มหาคุณ ผอ. สำนักงานฯ พร้อมคณะทั้งหมดได้เข้าพบหารือกับผู้แทนบริษัท KRTC และผู้แทนกรมแรงงานเกาสง เพื่อเจรจาเกี่ยวกับปัญหาด้านสวัสดิการ ค่าตอบแทน และความเป็นอยู่ของแรงงานไทย ให้แก่แรงงานไทยประมาณ 150 คน ซึ่งไม่ยอมไปทำงานเพราะถูกผู้รับเหมาช่วงทำร้ายร่ายกายและด่าว่าอย่างหยาบคาย ผลปรากฏว่า ผู้แทนบริษัทฯ ซึ่งจะเข้ามาดูแลแรงงานไทยโดยตรงรับจะแก้ปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะ การจ่ายค่าตอบแทน จัดทำใบแจ้งเงินเดือนที่จะทำให้แรงงานไทยเข้าใจง่ายขึ้น รวมทั้งจะยกเลิกการบังคับแรงงานไทยทำประกันชีวิตนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ ทางการเกาสงจะย้ายแรงงานไทย 500 คนไปที่พักแห่งใหม่ สำหรับแรงงานที่เหลืออีก 1,100 คน จะยังคงพักอยู่ที่ค่ายพักกังซัน โดยจะมีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยมากขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-