ความต้องการใช้
ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 3,307 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 107 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และเดือนมกราคมปีก่อน ร้อยละ 0.5 และ 10.0 ตามลำดับ โดย ปตท. มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง (รวมปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตาให้ กฟผ. 457 ล้านลิตร) รองลงมาได้แก่ เอสโซ่ เชลล์ และ คาลเท็กซ์ ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 37.4 17.3 16.9 และ 7.8 ตามลำดับ
การจัดหา
การจัดหาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และก๊าซแอลพีจี มีปริมาณทั้งสิ้น 3,236 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 104 ล้านลิตร ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาร้อยละ 7.8 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 0.8 โดยการจัดหาดังกล่าวได้มาจากการผลิตภายในประเทศ 2,504 ล้านลิตร และจากการนำเข้าจากต่าง ประเทศอีก 732 ล้านลิตร ซึ่งแหล่งนำเข้าส่วนใหญ่มาจากสิงคโปร์ร้อยละ 86.5 รองลงมาคือจาก เกาหลีร้อยละ 5.8 และอื่น ๆ อีกร้อยละ 7.7
สำหรับน้ำมันดิบนำเข้าจากต่างประเทศมีปริมาณ 2,486 ล้านลิตร (15.6 ล้านบาเรล) เฉลี่ยวันละ 80 ล้านลิตร มูลค่า 7,581 ล้านบาท โดยเป็นการนำเข้าจากประเทศแถบตะวันออกกลาง ร้อยละ 60.5 ตะวันออกไกลร้อยละ 37.4 และอื่น ๆ อีกร้อยละ 2.0
ความต้องการใช้
1. ภายในประเทศ ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซแอลพีจีของเดือนนี้ มีปริมาณรวม ทั้งสิ้น 3,307 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 107 ล้านลิตร หรือ 671,045 บาเรลต่อวัน โดยปริมาณความ ต้องการใช้ก๊าซแอลพีจีได้รวมปริมาณที่ ปตท.จำหน่ายให้ บริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NPC นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต จำนวน 7,943 เมตริกตัน
เปรียบเทียบกับปริมาณความต้องการใช้ของเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน
- เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2538 ปริมาณ 16 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 0.5 โดย ผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้เพิ่มขึ้น ได้แก่ เจพี 1 (AAT) อากาศยาน 100/130 ก๊าซแอลพีจี น้ำมันก๊าด ดีเซล หมุนเร็ว และเบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว คิดเป็นอัตราร้อยละ 367.0 107.9 8.3 6.0 0.8 และ 0.4 ตามลำดับ
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ลดลงได้แก่ เจพี 1 เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วชนิดที่ 2 น้ำมันเตา เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วชนิดที่ 1 และดีเซลหมุนช้า คิดเป้นอัตราร้อยละ 3.3 2.3 0.8 0.6 และ 0.6 ตามลำดับ
- เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2538 ปริมาณ 300 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 10.0 โดย ผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้เพิ่มขึ้น ได้แก่ อากาศยาน 100/130 เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วชนิดที่ 1 ก๊าซแอลพีจี ดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันเตา และ เจพี 1 คิดเป็นอัตราร้อยละ 120.3 49.7 19.6 12.5 6.7 และ 1.7 ตามลำดับ
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ลดลงได้แก่ ดีเซลหมุนช้า น้ำมันก๊าด และเบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว คิดเป็นอัตราร้อยละ 16.4 11.9 และ 2.6 ตามลำดับ
สำหรับส่วนแบ่งการตลาดของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง จะเห็นได้ว่าปตท. มีส่วน แบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งคือร้อยละ 37.4 (รวมปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตาให้ กฟผ. คิดเป็น อัตราร้อยละ 55.2 ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตารวม ของประเทศ) รองลงมาได้แก่ เอสโซ่ เชลล์ และคาลเท็กซ์ ร้อยละ 17.3 16.9 และ 7.8 ตามลำดับ
2. ส่งออกไปต่างประเทศ การส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 114 ล้านลิตร โดยเป็นน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี 53 ล้านลิตร นอกจากนี้ยังมีการส่งออก รีฟอร์เมท คอนเดนเสท และ ไอโซมอร์เรต อีก 61 ล้านลิตร
การจัดหา
ปริมาณการจัดหาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปได้มาจากการผลิตจากโรงกลั่น และโรงแยกก๊าซฯ ภายใน ประเทศร้อยละ 77.4 และการนำเข้าอีกร้อยละ 22.6 โดยแยกรายละเอียดดังนี้
1. การผลิต
การผลิตภายในประเทศปริมาณ 2,504 ล้านลิตร (รวมปริมาณ MTBE NGL ฝางเรสิดิว รี ฟอร์เมท และน้ำมันปนเปื้อนที่นำมาผลสมจำนวน 71 ล้านลิตร) เฉลี่ยวันละ 81 ล้านลิตร หรือ 508,044 บาเรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน 12 และ 115 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 0.5 และ 4.8 ตามลำดับ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ผลิตได้ในเดือนนี้แยกเป็น
1.1 จากโรงกลั่น ปริมาณ 2,286 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 7.4 ล้านลิตร หรือ 463,770 บาเรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน 26 ล้านลิตร และ 88 ล้านลิตรคิด เป็นอัตราร้อยละ 1.2 และ 4.0 ตามลำดับ
1.2 จากโรงแยกก๊าซและบริษัทกรุงเทพซินเธติกส์ จำกัด ปริมาณ 79,250 เมตริกตัน (147 ล้านลิตร) เฉลี่ยวันละ 2,556 เมตริกตัน (5 ล้านลิตร) ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาและเดือน เดียวกันของปีก่อน 5,161 เมตริกตัน (10 ล้านลิตร) และ 3,932 เมตริกตัน (7 ล้านลิตร) คิดเป็น อัตราร้อยละ 3.3 และ 2.6 ตามลำดับ
อนึ่งโรงแยกก๊าซฯ หน่วนที่ 4 ของปตท ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เริ่มดำเนินการผลิตแล้วตั้งแต่กลางเดือนที่ผ่านมา โดยจะผลิตก๊าซแอลพีจีได้วันละ 500 เมตริกตัน ซี่งจะสามารถสนองความต้องการใช้ก๊าซแอลพีจี ในเขตจังหวัดภาคใต้ได้อย่างเพียงพอ
เปรียบเทียบกับปริมาณการผลิตของเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน
- เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2538 ปริมาณ 12 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 0.5 โดย ผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตเพิ่มขึ้นได้แก่ น้ำมันก๊าด ดีเซลหมุนช้า เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วชนิดที่ 2 เจพี 1 และ น้ำมันเตา คิดเป็นร้อยละ 160.8 112.3 10.5 4.3 และ 3.4 ตามลำดับ
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตลดลงได้แก่ เบนซินธรรมดา ดีเซลหมุนเร็ว เบนซินพิเศษไร้สาร ตะกั่วชนิดที่ 1 เบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว และก๊าซแอลพีจี คิดเป็นอัตราร้อยละ 63.2 4.4 2.8 2.0 และ 0.02 ตามลำดับ
- เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2538 ปริมาณ 115 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 4.8 โดย ผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตเพิ่มขึ้นได้แก่ เบนซินธรรมดา ดีเซลหมุนช้า เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่ว ชนิดที่ 1 น้ำมัน ก๊าด เจพี 1 ดีเซลหมุนเร็ว และก๊าซแอลพีจี คิดเป็นอัตราร้อยละ 4,268.8 91.8 64.3 53.7 11.4 9.3 และ 8.0 ตามลำดับ
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตลดลงได้แก่ เบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว และน้ำมันเตา คิดเป็น อัตราร้อยละ 13.6 และ 11.1 ตามลำดับ
2. การนำเข้า
น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซแอลพีจี และน้ำมันดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 3,217 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 104 ล้านลิตร หรือ 652,787 บาเรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่า 10,328 ล้านบาท (ไม่รวมปริมาณนำเข้า MTBE ที่นำเข้ามาจากสิงคโปร์ 19 ล้านลิตร มูลค่า 103 ล้านบาท) แยกรายละเอียดได้ดังนี้
2.1 น้ำมันดิบ ปริมาณ 2,486 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 80 ล้านลิตร หรือ 504,319 บา เรลต่อวัน ราคาเฉลี่ย 19.18 เหรียญสหรัฐ/บาเรล คิดเป็นมูลค่าการนำเข้า 7,581 ล้านบาท
เปรียบเทียบกับปริมาณและมูลค่าการนำเข้าของเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน
- ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา ปริมาณ 47 ล้านลิตร มูลค่า 582 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 1.9 และ 8.3 ตามลำดับ โดยราคานำเข้าเฉลี่ยในเดือนนี้สูงกว่าเดือนที่ผ่านมา 1.08 เหรียญ/บาเรล
- ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ปริมาณ 445 ล้านลิตร มูลค่า 2,072 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 21.8 และ 37.6 ตามลำดับ โดยราคานำเข้าเฉลี่ยในเดือนนี้ สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน 2.07 เหรียญสหรัฐ/บาเรล
ปริมาณและแหล่งนำเข้าน้ำมันดิบ แหล่งนำเข้า ปริมาณ/ล้านลิตร ราคาเฉลี่ย(เหรียญสหรัฐ/บาเรล) ร้อยละ ตะวันออกกลาง 1,505 10.06 60.5 ตะวันออกไกล 930 20.70 37.4 อื่น ๆ 51 20.80 2.0 รวม 2,486 19.18 100.0
2.2 น้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี ปริมาณรวมทั้งสิ้น 732 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 24 ล้านลิตร หรือ 148,469 บาเรลต่อวัน มูลค่า 2,747 ล้านบาท
เปรียบเทียบกับปริมาณและมูลค่าการนำเข้าของเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน
- ปริมาณและมูลค่าลดลงจากเดือนที่ผ่านมา ปริมาณลดลง 285 ล้านลิตร มูลค่าลดลง 600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 28.0 และ 17.9 ตามลำดับ โดยมีรายละเอียดดังนี้
น้ำมันเตา ปริมาณนำเข้าลดลงร้อยละ 53.3 มูลค่านำเข้าลดลงร้อยละ 48.6
เบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว " 33.3 " 31.8 ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีการจำเข้าเพิ่มขึ้นมีรายละเอียดดังนี้
เจพี 1 ปริมาณนำเข้าลดลงร้อยละ 100.3 มูลค่านำเข้าลดลงร้อยละ 118.4
เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วชนิดที่ 1 " 17.8 " 13.4
ดีเซลหมุนเร็ว 3.0 " 8.9
- ปริมาณลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 91 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 11.0 ส่วนมุลค่ากลับเพิ่มขึ้น 110 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 4.2 โดยมีรายละเอียดดังนี้
เจพี 1 ปริมาณนำเข้าลดลงร้อยละ 79.6 มูลค่านำเข้าลดลงร้อยละ 72.3
เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วชนิดที่ 1 " 68.0 " 67.6
เบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว " 40.6 " 37.0
ดีเซลหมุนเร็ว " 7.3 มูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5
ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นมีเพียงชนิดเดียวคือ น้ำมันเตา ซึ่งมีปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้น ในอัตราร้อยละ 8.8 และ 28.2 ตามลำดับ
ปริมาณและแหล่งนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี
แหล่งนำเข้า ปริมาณ (ล้านลิตร) ร้อยละ
สิงคโปร์ 633 86.5
เกาหลี 42 5.8
อื่น ๆ 57 7.7
รวม 732 100.0
--กองน้ำมันเชื้อเพลิง กรมทะเบียนการค้า--
ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 3,307 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 107 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และเดือนมกราคมปีก่อน ร้อยละ 0.5 และ 10.0 ตามลำดับ โดย ปตท. มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง (รวมปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตาให้ กฟผ. 457 ล้านลิตร) รองลงมาได้แก่ เอสโซ่ เชลล์ และ คาลเท็กซ์ ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 37.4 17.3 16.9 และ 7.8 ตามลำดับ
การจัดหา
การจัดหาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และก๊าซแอลพีจี มีปริมาณทั้งสิ้น 3,236 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 104 ล้านลิตร ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาร้อยละ 7.8 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 0.8 โดยการจัดหาดังกล่าวได้มาจากการผลิตภายในประเทศ 2,504 ล้านลิตร และจากการนำเข้าจากต่าง ประเทศอีก 732 ล้านลิตร ซึ่งแหล่งนำเข้าส่วนใหญ่มาจากสิงคโปร์ร้อยละ 86.5 รองลงมาคือจาก เกาหลีร้อยละ 5.8 และอื่น ๆ อีกร้อยละ 7.7
สำหรับน้ำมันดิบนำเข้าจากต่างประเทศมีปริมาณ 2,486 ล้านลิตร (15.6 ล้านบาเรล) เฉลี่ยวันละ 80 ล้านลิตร มูลค่า 7,581 ล้านบาท โดยเป็นการนำเข้าจากประเทศแถบตะวันออกกลาง ร้อยละ 60.5 ตะวันออกไกลร้อยละ 37.4 และอื่น ๆ อีกร้อยละ 2.0
ความต้องการใช้
1. ภายในประเทศ ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซแอลพีจีของเดือนนี้ มีปริมาณรวม ทั้งสิ้น 3,307 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 107 ล้านลิตร หรือ 671,045 บาเรลต่อวัน โดยปริมาณความ ต้องการใช้ก๊าซแอลพีจีได้รวมปริมาณที่ ปตท.จำหน่ายให้ บริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NPC นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต จำนวน 7,943 เมตริกตัน
เปรียบเทียบกับปริมาณความต้องการใช้ของเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน
- เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2538 ปริมาณ 16 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 0.5 โดย ผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้เพิ่มขึ้น ได้แก่ เจพี 1 (AAT) อากาศยาน 100/130 ก๊าซแอลพีจี น้ำมันก๊าด ดีเซล หมุนเร็ว และเบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว คิดเป็นอัตราร้อยละ 367.0 107.9 8.3 6.0 0.8 และ 0.4 ตามลำดับ
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ลดลงได้แก่ เจพี 1 เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วชนิดที่ 2 น้ำมันเตา เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วชนิดที่ 1 และดีเซลหมุนช้า คิดเป้นอัตราร้อยละ 3.3 2.3 0.8 0.6 และ 0.6 ตามลำดับ
- เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2538 ปริมาณ 300 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 10.0 โดย ผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้เพิ่มขึ้น ได้แก่ อากาศยาน 100/130 เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วชนิดที่ 1 ก๊าซแอลพีจี ดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันเตา และ เจพี 1 คิดเป็นอัตราร้อยละ 120.3 49.7 19.6 12.5 6.7 และ 1.7 ตามลำดับ
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ลดลงได้แก่ ดีเซลหมุนช้า น้ำมันก๊าด และเบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว คิดเป็นอัตราร้อยละ 16.4 11.9 และ 2.6 ตามลำดับ
สำหรับส่วนแบ่งการตลาดของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง จะเห็นได้ว่าปตท. มีส่วน แบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งคือร้อยละ 37.4 (รวมปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตาให้ กฟผ. คิดเป็น อัตราร้อยละ 55.2 ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเตารวม ของประเทศ) รองลงมาได้แก่ เอสโซ่ เชลล์ และคาลเท็กซ์ ร้อยละ 17.3 16.9 และ 7.8 ตามลำดับ
2. ส่งออกไปต่างประเทศ การส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 114 ล้านลิตร โดยเป็นน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี 53 ล้านลิตร นอกจากนี้ยังมีการส่งออก รีฟอร์เมท คอนเดนเสท และ ไอโซมอร์เรต อีก 61 ล้านลิตร
การจัดหา
ปริมาณการจัดหาผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปได้มาจากการผลิตจากโรงกลั่น และโรงแยกก๊าซฯ ภายใน ประเทศร้อยละ 77.4 และการนำเข้าอีกร้อยละ 22.6 โดยแยกรายละเอียดดังนี้
1. การผลิต
การผลิตภายในประเทศปริมาณ 2,504 ล้านลิตร (รวมปริมาณ MTBE NGL ฝางเรสิดิว รี ฟอร์เมท และน้ำมันปนเปื้อนที่นำมาผลสมจำนวน 71 ล้านลิตร) เฉลี่ยวันละ 81 ล้านลิตร หรือ 508,044 บาเรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน 12 และ 115 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 0.5 และ 4.8 ตามลำดับ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ผลิตได้ในเดือนนี้แยกเป็น
1.1 จากโรงกลั่น ปริมาณ 2,286 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 7.4 ล้านลิตร หรือ 463,770 บาเรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน 26 ล้านลิตร และ 88 ล้านลิตรคิด เป็นอัตราร้อยละ 1.2 และ 4.0 ตามลำดับ
1.2 จากโรงแยกก๊าซและบริษัทกรุงเทพซินเธติกส์ จำกัด ปริมาณ 79,250 เมตริกตัน (147 ล้านลิตร) เฉลี่ยวันละ 2,556 เมตริกตัน (5 ล้านลิตร) ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาและเดือน เดียวกันของปีก่อน 5,161 เมตริกตัน (10 ล้านลิตร) และ 3,932 เมตริกตัน (7 ล้านลิตร) คิดเป็น อัตราร้อยละ 3.3 และ 2.6 ตามลำดับ
อนึ่งโรงแยกก๊าซฯ หน่วนที่ 4 ของปตท ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เริ่มดำเนินการผลิตแล้วตั้งแต่กลางเดือนที่ผ่านมา โดยจะผลิตก๊าซแอลพีจีได้วันละ 500 เมตริกตัน ซี่งจะสามารถสนองความต้องการใช้ก๊าซแอลพีจี ในเขตจังหวัดภาคใต้ได้อย่างเพียงพอ
เปรียบเทียบกับปริมาณการผลิตของเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน
- เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2538 ปริมาณ 12 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 0.5 โดย ผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตเพิ่มขึ้นได้แก่ น้ำมันก๊าด ดีเซลหมุนช้า เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วชนิดที่ 2 เจพี 1 และ น้ำมันเตา คิดเป็นร้อยละ 160.8 112.3 10.5 4.3 และ 3.4 ตามลำดับ
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตลดลงได้แก่ เบนซินธรรมดา ดีเซลหมุนเร็ว เบนซินพิเศษไร้สาร ตะกั่วชนิดที่ 1 เบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว และก๊าซแอลพีจี คิดเป็นอัตราร้อยละ 63.2 4.4 2.8 2.0 และ 0.02 ตามลำดับ
- เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2538 ปริมาณ 115 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 4.8 โดย ผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตเพิ่มขึ้นได้แก่ เบนซินธรรมดา ดีเซลหมุนช้า เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่ว ชนิดที่ 1 น้ำมัน ก๊าด เจพี 1 ดีเซลหมุนเร็ว และก๊าซแอลพีจี คิดเป็นอัตราร้อยละ 4,268.8 91.8 64.3 53.7 11.4 9.3 และ 8.0 ตามลำดับ
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตลดลงได้แก่ เบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว และน้ำมันเตา คิดเป็น อัตราร้อยละ 13.6 และ 11.1 ตามลำดับ
2. การนำเข้า
น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซแอลพีจี และน้ำมันดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศมีปริมาณรวมทั้งสิ้น 3,217 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 104 ล้านลิตร หรือ 652,787 บาเรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่า 10,328 ล้านบาท (ไม่รวมปริมาณนำเข้า MTBE ที่นำเข้ามาจากสิงคโปร์ 19 ล้านลิตร มูลค่า 103 ล้านบาท) แยกรายละเอียดได้ดังนี้
2.1 น้ำมันดิบ ปริมาณ 2,486 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 80 ล้านลิตร หรือ 504,319 บา เรลต่อวัน ราคาเฉลี่ย 19.18 เหรียญสหรัฐ/บาเรล คิดเป็นมูลค่าการนำเข้า 7,581 ล้านบาท
เปรียบเทียบกับปริมาณและมูลค่าการนำเข้าของเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน
- ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา ปริมาณ 47 ล้านลิตร มูลค่า 582 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 1.9 และ 8.3 ตามลำดับ โดยราคานำเข้าเฉลี่ยในเดือนนี้สูงกว่าเดือนที่ผ่านมา 1.08 เหรียญ/บาเรล
- ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ปริมาณ 445 ล้านลิตร มูลค่า 2,072 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 21.8 และ 37.6 ตามลำดับ โดยราคานำเข้าเฉลี่ยในเดือนนี้ สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน 2.07 เหรียญสหรัฐ/บาเรล
ปริมาณและแหล่งนำเข้าน้ำมันดิบ แหล่งนำเข้า ปริมาณ/ล้านลิตร ราคาเฉลี่ย(เหรียญสหรัฐ/บาเรล) ร้อยละ ตะวันออกกลาง 1,505 10.06 60.5 ตะวันออกไกล 930 20.70 37.4 อื่น ๆ 51 20.80 2.0 รวม 2,486 19.18 100.0
2.2 น้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี ปริมาณรวมทั้งสิ้น 732 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 24 ล้านลิตร หรือ 148,469 บาเรลต่อวัน มูลค่า 2,747 ล้านบาท
เปรียบเทียบกับปริมาณและมูลค่าการนำเข้าของเดือนที่ผ่านมาและเดือนเดียวกันของปีก่อน
- ปริมาณและมูลค่าลดลงจากเดือนที่ผ่านมา ปริมาณลดลง 285 ล้านลิตร มูลค่าลดลง 600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 28.0 และ 17.9 ตามลำดับ โดยมีรายละเอียดดังนี้
น้ำมันเตา ปริมาณนำเข้าลดลงร้อยละ 53.3 มูลค่านำเข้าลดลงร้อยละ 48.6
เบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว " 33.3 " 31.8 ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีการจำเข้าเพิ่มขึ้นมีรายละเอียดดังนี้
เจพี 1 ปริมาณนำเข้าลดลงร้อยละ 100.3 มูลค่านำเข้าลดลงร้อยละ 118.4
เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วชนิดที่ 1 " 17.8 " 13.4
ดีเซลหมุนเร็ว 3.0 " 8.9
- ปริมาณลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 91 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 11.0 ส่วนมุลค่ากลับเพิ่มขึ้น 110 ล้านลิตร คิดเป็นอัตราร้อยละ 4.2 โดยมีรายละเอียดดังนี้
เจพี 1 ปริมาณนำเข้าลดลงร้อยละ 79.6 มูลค่านำเข้าลดลงร้อยละ 72.3
เบนซินพิเศษไร้สารตะกั่วชนิดที่ 1 " 68.0 " 67.6
เบนซินธรรมดาไร้สารตะกั่ว " 40.6 " 37.0
ดีเซลหมุนเร็ว " 7.3 มูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5
ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นมีเพียงชนิดเดียวคือ น้ำมันเตา ซึ่งมีปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้น ในอัตราร้อยละ 8.8 และ 28.2 ตามลำดับ
ปริมาณและแหล่งนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซแอลพีจี
แหล่งนำเข้า ปริมาณ (ล้านลิตร) ร้อยละ
สิงคโปร์ 633 86.5
เกาหลี 42 5.8
อื่น ๆ 57 7.7
รวม 732 100.0
--กองน้ำมันเชื้อเพลิง กรมทะเบียนการค้า--