นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า สหรัฐฯ กำหนดกฎระเบียบการนำสินค้าเครื่องดื่มประเภทชาเข้าสหรัฐ โดยสินค้านี้อยู่ภายใต้กฎหมาย 2 ฉบับคือ Federal Food, Drug and Cosmetic Act และ Tea Importation Act.
สินค้าเครื่องดื่มชา หมายถึง ชา (Thea Sinensis) และสินค้าที่ถูกระบุว่าเป็นชา (The Sinensis) สำหรับเครื่องดื่มที่กลั่นมาจากใบของต้นไม้ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ Thea Sinensis อาจจะติดฉลากว่าเป็น “ชา (tea) ” โดยระบุชื่อเฉพาะของ ต้นไม้และต้องแสดงความแตกต่างที่ชัดเจนจากความหมายของคำว่า “ ชา (Thea Sinensis) ” ทั่วไป หรือแตกต่างจาก “ชาที่มีรสต่าง ๆ (Flavoured Tea)” เช่น Lemon Tea หรือ Respberry Tea ซึ่งชาทั้งสองชนิดนี้มีส่วนผสมของ Thea Sinensis ทั้งนี้ เครื่องดื่มที่เป็น “ ชา ” จะต้องไม่ติดฉลากบรรยายสรรพคุณใดๆ เช่น ginseng tea ต้องไม่บรรยายสรรพคุณว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ บำรุงกำลัง มีผลต่อระบบประสาท มิฉะนั้นสินค้าจะถูกพิจารณาว่าเป็น “ยา” และต้องปฏิบัติตามระเบียบการนำเข้ายารักษาโรค ซึ่งจะมีกระบวนการซับซ้อนยุ่งยากมากขึ้น
ตามกฎหมาย Federal Food, Drug and Cosmetic Act กำหนดว่า “ ชา ” ที่นำเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐฯ จะต้องผ่านกระบวนการผลิตตามมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) และ HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Pont) โดยต้องมีหลักฐานแสดงว่าสินค้าได้ผลิตตาม HACCP จริง ไม่มีสารเจือปน (Contamination) หากมีการใช้สีผสมอาหารต้องเป็นสีที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงาน USFDA ต้องปิดฉลากที่แสดงชื่อ/ที่อยู่ผู้ผลิต ผู้บรรจุ หรือผู้ทำการแทนผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย แสดงน้ำหนัก ระบุชื่อสามัญ (Common Name) ระบุส่วนผสม สี หรือเครื่องปรุงแต่ง (Food Additive) ซึ่งต้องเป็นไปตามระเบียบของ FDA ที่ควบคุมสินค้าอาหาร ระบุคุณค่าทางอาหาร ในส่วนของระเบียบปฏิบัติในการนำเข้าตามกฎหมาย Tea Importation Act ผู้นำเข้าหรือผู้รับสินค้าจะต้องวางเงินค้ำประกัน ณ ด่านนำเข้า เพื่อตรวจสอบความบริสุทธิ์ คุณภาพ โดยผู้นำเข้าต้องเสียค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบ และนำตัวอย่างสินค้าตามที่ระบุใน Invoice พร้อมเอกสารรับรองของผู้นำเข้าว่าสินค้านั้นมีคุณภาพตรงตามที่ระบุ กรณีสินค้าไม่ผ่านการตรวจสอบ สินค้าจะถูกส่งไปยัง United States Board of Tea Appeals เพื่อพิจารณา โดยปกติใช้เวลา 3 วัน หากผลการตรวจสอบยืนยันว่าสินค้าไม่สามารถนำเข้าสหรัฐฯ ได้ ผู้นำเข้าต้องวางเงินประกันเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่ง สินค้ากลับประเทศต้นทางภายใน 6 เดือน และหากพ้น 6 เดือนสินค้าจะถูกทำลายในสหรัฐฯ
นายราเชนทร์ พจนสุนทร กล่าวเพิ่มเติมว่าไทยมีส่วนแบ่งตลาดสินค้านี้ในสหรัฐฯ มากเป็นอันดับที่ 3 รองจากไต้หวันและเนเธอร์แลนด์ โดยในปี 2547 ไทยส่งออกสินค้าประเภทชามูลค่ารวม 75.85 ล้านบาท ส่งไปสหรัฐฯ มูลค่า 8.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 1.1 เท่า และในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2548 ไทยส่งออกสินค้าชาได้ทั้งสิ้น 19.11 ล้านบาท ส่งไปสหรัฐฯ มูลค่า 1.27 ล้านบาท
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
สินค้าเครื่องดื่มชา หมายถึง ชา (Thea Sinensis) และสินค้าที่ถูกระบุว่าเป็นชา (The Sinensis) สำหรับเครื่องดื่มที่กลั่นมาจากใบของต้นไม้ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ Thea Sinensis อาจจะติดฉลากว่าเป็น “ชา (tea) ” โดยระบุชื่อเฉพาะของ ต้นไม้และต้องแสดงความแตกต่างที่ชัดเจนจากความหมายของคำว่า “ ชา (Thea Sinensis) ” ทั่วไป หรือแตกต่างจาก “ชาที่มีรสต่าง ๆ (Flavoured Tea)” เช่น Lemon Tea หรือ Respberry Tea ซึ่งชาทั้งสองชนิดนี้มีส่วนผสมของ Thea Sinensis ทั้งนี้ เครื่องดื่มที่เป็น “ ชา ” จะต้องไม่ติดฉลากบรรยายสรรพคุณใดๆ เช่น ginseng tea ต้องไม่บรรยายสรรพคุณว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ บำรุงกำลัง มีผลต่อระบบประสาท มิฉะนั้นสินค้าจะถูกพิจารณาว่าเป็น “ยา” และต้องปฏิบัติตามระเบียบการนำเข้ายารักษาโรค ซึ่งจะมีกระบวนการซับซ้อนยุ่งยากมากขึ้น
ตามกฎหมาย Federal Food, Drug and Cosmetic Act กำหนดว่า “ ชา ” ที่นำเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐฯ จะต้องผ่านกระบวนการผลิตตามมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) และ HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Pont) โดยต้องมีหลักฐานแสดงว่าสินค้าได้ผลิตตาม HACCP จริง ไม่มีสารเจือปน (Contamination) หากมีการใช้สีผสมอาหารต้องเป็นสีที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงาน USFDA ต้องปิดฉลากที่แสดงชื่อ/ที่อยู่ผู้ผลิต ผู้บรรจุ หรือผู้ทำการแทนผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย แสดงน้ำหนัก ระบุชื่อสามัญ (Common Name) ระบุส่วนผสม สี หรือเครื่องปรุงแต่ง (Food Additive) ซึ่งต้องเป็นไปตามระเบียบของ FDA ที่ควบคุมสินค้าอาหาร ระบุคุณค่าทางอาหาร ในส่วนของระเบียบปฏิบัติในการนำเข้าตามกฎหมาย Tea Importation Act ผู้นำเข้าหรือผู้รับสินค้าจะต้องวางเงินค้ำประกัน ณ ด่านนำเข้า เพื่อตรวจสอบความบริสุทธิ์ คุณภาพ โดยผู้นำเข้าต้องเสียค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบ และนำตัวอย่างสินค้าตามที่ระบุใน Invoice พร้อมเอกสารรับรองของผู้นำเข้าว่าสินค้านั้นมีคุณภาพตรงตามที่ระบุ กรณีสินค้าไม่ผ่านการตรวจสอบ สินค้าจะถูกส่งไปยัง United States Board of Tea Appeals เพื่อพิจารณา โดยปกติใช้เวลา 3 วัน หากผลการตรวจสอบยืนยันว่าสินค้าไม่สามารถนำเข้าสหรัฐฯ ได้ ผู้นำเข้าต้องวางเงินประกันเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่ง สินค้ากลับประเทศต้นทางภายใน 6 เดือน และหากพ้น 6 เดือนสินค้าจะถูกทำลายในสหรัฐฯ
นายราเชนทร์ พจนสุนทร กล่าวเพิ่มเติมว่าไทยมีส่วนแบ่งตลาดสินค้านี้ในสหรัฐฯ มากเป็นอันดับที่ 3 รองจากไต้หวันและเนเธอร์แลนด์ โดยในปี 2547 ไทยส่งออกสินค้าประเภทชามูลค่ารวม 75.85 ล้านบาท ส่งไปสหรัฐฯ มูลค่า 8.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 1.1 เท่า และในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2548 ไทยส่งออกสินค้าชาได้ทั้งสิ้น 19.11 ล้านบาท ส่งไปสหรัฐฯ มูลค่า 1.27 ล้านบาท
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-