วานนี้ ที่พรรคประชาธิปัตย์ ม.ล.อภิมงคล โสณกุล รองโฆษก ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าเนื่องจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติได้หารือถึงเรื่องแผนการระดมทุนของบริษัท กฟผ.จำกัด มหาชน ในการหารือมีประเด็นสำคัญหลายประเด็น อาทิ แนวโน้มลักษณะธุรกิจของกฟผ.ในอนาคต หรือ แนวโน้มอัตราค่าไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งพรรคมีความเป็นห่วงว่าแนวโน้มที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่จะไม่สร้างประโยชน์ที่แท้จริงให้กับประชาชนผู้บริโภค แต่กลับเป็นการผลักดันเพื่อให้การขายหุ้นของกฟผ.ประสบผลสำเร็จ
‘ในประเด็นที่มีการถกเถียงกันในเรื่องค่าไฟฟ้าซึ่งมีกระแสข่าวออกมาว่าจะมีการปรับค่าไฟฟ้าฐานขึ้น โดยข้ออ้างว่าเพื่อให้อัตราผลตอบแทนต่อการลงทุนของหุ้นกฟผ.นั้นอยู่ในระดับดี กล่าวคือจะทำให้ราคาหุ้นของ กฟผ.สูงขึ้น อย่างไรก็ตามจากกรณีดังกล่าวผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือประชาชน ผู้บริโภค ที่ต้องใช้ไฟฟ้าและจะต้องเป็นผู้รับภาระอัตราค่าไฟฟ้าที่แพงกว่าความเป็นจริง ตรงนี้เป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นห่วงที่สุด’ม.ล.อภิมงคล กล่าว
ม.ล.อภิมงคล กล่าวต่อว่า กฟผ.ยังมีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจงเกี่ยวกับตัวเลขค่าเอฟที 4,800 ล้านบาท ก่อนที่จะมีการกระจายหุ้นเข้าไปในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนจับตามองว่าศักยภาพในการคิดการบริหารเงินของกฟผ.เป็นอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนกำลังมองว่าการเข้ามาแทรกแซงของรัฐ ในการที่จะเข้าไปตรึงค่าไฟฟ้านั้นมีมากน้อยแค่ไหน ประเด็นต่อมา คือการทีให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตนั้น สามารถที่จะต้องผลิตไฟฟ้าในอัตราร้อยละ 50 ของกำลังการผลิตโดยรวมของประเทศทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่สำคัญมาก เพราะถือว่าเป็นการผูกขาดธุรกิจการผลิตไฟฟ้าไว้กับ กฟผ. ซึ่งความจริงก็มีการผูกขาดด้านอื่นมากแล้ว
มล.อภิมงคล กล่าวอีกว่า การไปกำหนดว่า กฟผ.จะได้ผลิตไฟฟ้าอีกร้อยละ 50 ตลอดเวลาในอนาคตถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะผลกระทบจากการผูกขาดผู้รับภาระ คือประชาชน ประเด็นสุดท้ายคือ การที่ทางรัฐบาลได้ออกมา แสดงเจตนาที่จะกระจายหุ้นของ กฟผ. ภายในปลายปีนี้ อย่างไรก็ตามพรรคมองว่าการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า ซึ่งยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ ‘วันนี้แม้จะมีความพยายามที่จะจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการไฟฟ้าที่เป็นอิสระ ที่กฎหมายรองรับ แต่ก็ยังไม่เป็นรูปธรรม ตรงนี้เป็นประเด็นที่นักลงทุนและผู้บริโภคจับตามองอยู่ และตั้งข้อสงสัยไว้มาก ตนคิดว่าก่อนที่จะมีการกระจายหุ้น รัฐบาลต้องสร้างความชัดเจนและที่สำคัญเรื่องรัฐบาลต้องเร่งพิจารณาให้รอบคอบด้วย
ม.ล.อภิมงคล ยังกล่าวถึงรายการ "นายกฯ พบสื่อมวลชน" ว่าเป็นเรื่องที่ดีที่นายกรัฐมนตรีจะได้ทำความเข้าใจกับสื่อ แต่การจัดงานครั้งที่ผ่านมารู้สึกเป็นห่วงรูปแบบของการจัดงาน โดยเฉพาะกรณีที่นายกรัฐมนตรีชูป้ายว่าคำถามใดสร้างสรรค์หรือไม่สร้างสรรค์ ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะการที่นายกรัฐมนตรีนำสัญลักษณ์ดังกล่าวออกมาถือเป็นการไม่ให้เกียจผู้สื่อข่าว เกิดเป็นภาพที่ไม่ดีต่อประเทศไทย โดยเฉพาะในงานนี้มีสื่อต่างประเทศมาด้วย และการมองว่าคำถามของสื่อสร้างสรรค์หรือไม่ น่าจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี หากเห็นว่าไม่สร้างสรรค์ก็สามารถที่จะปฎิเสธไม่ตอบคำถามก็ได้ และขอให้ถือว่าการพบปะสื่อมวลชนเป็นเรื่องของทางการไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 ส.ค. 2548--จบ--
‘ในประเด็นที่มีการถกเถียงกันในเรื่องค่าไฟฟ้าซึ่งมีกระแสข่าวออกมาว่าจะมีการปรับค่าไฟฟ้าฐานขึ้น โดยข้ออ้างว่าเพื่อให้อัตราผลตอบแทนต่อการลงทุนของหุ้นกฟผ.นั้นอยู่ในระดับดี กล่าวคือจะทำให้ราคาหุ้นของ กฟผ.สูงขึ้น อย่างไรก็ตามจากกรณีดังกล่าวผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือประชาชน ผู้บริโภค ที่ต้องใช้ไฟฟ้าและจะต้องเป็นผู้รับภาระอัตราค่าไฟฟ้าที่แพงกว่าความเป็นจริง ตรงนี้เป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นห่วงที่สุด’ม.ล.อภิมงคล กล่าว
ม.ล.อภิมงคล กล่าวต่อว่า กฟผ.ยังมีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจงเกี่ยวกับตัวเลขค่าเอฟที 4,800 ล้านบาท ก่อนที่จะมีการกระจายหุ้นเข้าไปในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนจับตามองว่าศักยภาพในการคิดการบริหารเงินของกฟผ.เป็นอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนกำลังมองว่าการเข้ามาแทรกแซงของรัฐ ในการที่จะเข้าไปตรึงค่าไฟฟ้านั้นมีมากน้อยแค่ไหน ประเด็นต่อมา คือการทีให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตนั้น สามารถที่จะต้องผลิตไฟฟ้าในอัตราร้อยละ 50 ของกำลังการผลิตโดยรวมของประเทศทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่สำคัญมาก เพราะถือว่าเป็นการผูกขาดธุรกิจการผลิตไฟฟ้าไว้กับ กฟผ. ซึ่งความจริงก็มีการผูกขาดด้านอื่นมากแล้ว
มล.อภิมงคล กล่าวอีกว่า การไปกำหนดว่า กฟผ.จะได้ผลิตไฟฟ้าอีกร้อยละ 50 ตลอดเวลาในอนาคตถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะผลกระทบจากการผูกขาดผู้รับภาระ คือประชาชน ประเด็นสุดท้ายคือ การที่ทางรัฐบาลได้ออกมา แสดงเจตนาที่จะกระจายหุ้นของ กฟผ. ภายในปลายปีนี้ อย่างไรก็ตามพรรคมองว่าการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า ซึ่งยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ ‘วันนี้แม้จะมีความพยายามที่จะจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการไฟฟ้าที่เป็นอิสระ ที่กฎหมายรองรับ แต่ก็ยังไม่เป็นรูปธรรม ตรงนี้เป็นประเด็นที่นักลงทุนและผู้บริโภคจับตามองอยู่ และตั้งข้อสงสัยไว้มาก ตนคิดว่าก่อนที่จะมีการกระจายหุ้น รัฐบาลต้องสร้างความชัดเจนและที่สำคัญเรื่องรัฐบาลต้องเร่งพิจารณาให้รอบคอบด้วย
ม.ล.อภิมงคล ยังกล่าวถึงรายการ "นายกฯ พบสื่อมวลชน" ว่าเป็นเรื่องที่ดีที่นายกรัฐมนตรีจะได้ทำความเข้าใจกับสื่อ แต่การจัดงานครั้งที่ผ่านมารู้สึกเป็นห่วงรูปแบบของการจัดงาน โดยเฉพาะกรณีที่นายกรัฐมนตรีชูป้ายว่าคำถามใดสร้างสรรค์หรือไม่สร้างสรรค์ ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะการที่นายกรัฐมนตรีนำสัญลักษณ์ดังกล่าวออกมาถือเป็นการไม่ให้เกียจผู้สื่อข่าว เกิดเป็นภาพที่ไม่ดีต่อประเทศไทย โดยเฉพาะในงานนี้มีสื่อต่างประเทศมาด้วย และการมองว่าคำถามของสื่อสร้างสรรค์หรือไม่ น่าจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี หากเห็นว่าไม่สร้างสรรค์ก็สามารถที่จะปฎิเสธไม่ตอบคำถามก็ได้ และขอให้ถือว่าการพบปะสื่อมวลชนเป็นเรื่องของทางการไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 ส.ค. 2548--จบ--