กรุงเทพ--20 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
นายอิซูเกะ ซากากิบารา (Mr. Eisuke Sakakibara) อดีตปลัดกระทรวงการคลังญี่ปุ่นและ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์การเงินการคลังของญี่ปุ่น ได้นำคณะผู้นำเยาวชนญี่ปุ่นจำนวน 26 คน เข้าพบ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2548 โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศร่วมเข้าพบนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความยินดีต้อนรับกลุ่มนักเรียนญี่ปุ่นกลุ่มนี้ ที่ได้รับการคัดเลือกมาจากทั่วประเทศญี่ปุ่น และยินดีที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนรุ่นใหม่ นายซากากิบาราได้กล่าวว่า กลุ่มเยาวชนเหล่านี้เปรียบเสมือนมันสมองของญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 21 และการเข้าพบนายกรัฐมนตรีครั้งนี้จึงถือเป็นประสบการณ์อันดียิ่ง เช่นเดียวกับที่ประธานาธิบดีคลินตันในสมัยที่เป็นนักศึกษา ได้เคยพบประธานาธิบดีเคนเนดี้ เยาวชนรุ่นนี้ก็จะเติบโตขึ้นเป็นผู้นำญี่ปุ่นต่อไป
นายกรัฐมนตรีได้เล่าถึงชีวิตวัยเยาว์ในชนบทซึ่งทำให้มีแรงบันดาลใจที่จะเข้ามารับใช้ชาติ และเข้าใจปัญหาของคนชนบทที่ขาดโอกาส นายกรัฐมนตรีจึงพยายามส่งเสริมการศึกษา เพื่อให้คนในชนบทสามารถใช้ศักยภาพได้อย่างสูงสุด สำหรับคนรุ่นใหม่นั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความสำคัญของการสามารถเข้าถึงความรู้และข้อมูล โดยที่สังคมปัจจุบันเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และสังคมข่าวสาร นอกจากนั้นคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ควรรับฟังคนรุ่นเก่าด้วย
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการกระจายรายได้ การพัฒนาประเทศไทยไปพร้อมกันกับประเทศเพื่อนบ้านรอบข้าง และได้เสนอให้ญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทร่วมในการสร้างงานและการพัฒนาภูมิภาคแถบนี้กับไทย นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงนโยบาย Dual track ของรัฐบาลไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชนบทให้ควบคู่ไปกับการส่งออก และลดช่องว่างระหว่างชนบทกับเมือง นายกรัฐมนตรีชื่นชมบทบาทของญี่ปุ่นระหว่างเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี พ.ศ. 2540 โดยบริษัทญี่ปุ่นกลับเพิ่มการลงทุนในไทย และประสงค์ให้ญี่ปุ่นส่งเสริมให้นายทุนชาวญี่ปุ่นไปลงทุนในประเทศกำลังพัฒนาที่ขาดทุนทรัพย์ในการพัฒนาประเทศ และนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการที่ไทยให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชีย กล่าวคือ ความร่วมมือในกรอบ Asia Cooperation Dialogue - ACD ที่สำคัญที่สุดที่ผู้นำต้องมีก็คือการมีจิตใจที่ดี มีความเข้าใจและเป็นห่วงประชาชนอย่างแท้จริง
นายกรัฐมนตรีอธิบายเหตุผลที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเกษตร และสินค้า OTOP ว่า คนไทยมีความผูกพันกับการเกษตร โดยมีธรรมชาติเป็น "สมบัติ" อีกทั้งมีฝีมือทางด้านหัตถกรรม ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ในการพัฒนาประเทศ จำเป็นต้องใช้ศักยภาพที่มีอยู่แล้วก่อนเป็นพื้นฐานในการพัฒนา
นายซากากิบาราได้กล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีว่าเป็นหนึ่งในผู้นำที่ได้รับความนิยมในภูมิภาคเอเชีย และมีความสามารถในการจัดการด้านการบริหาร จนประสบความสำเร็จ พร้อมทั้งได้เรียนเชิญให้ นายกรัฐมนตรีเดินทางไปร่วมค่ายฤดูร้อนของคณะผู้นำเยาวชนญี่ปุ่น ครั้งที่ 3 ที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2548 ที่นครฟุกุโอกะ
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้คณะผู้นำเยาวชนญี่ปุ่นเข้าชมทำเนียบรัฐบาลและห้องทำงาน พร้อมถ่ายรูปร่วมกัน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
นายอิซูเกะ ซากากิบารา (Mr. Eisuke Sakakibara) อดีตปลัดกระทรวงการคลังญี่ปุ่นและ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์การเงินการคลังของญี่ปุ่น ได้นำคณะผู้นำเยาวชนญี่ปุ่นจำนวน 26 คน เข้าพบ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2548 โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศร่วมเข้าพบนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความยินดีต้อนรับกลุ่มนักเรียนญี่ปุ่นกลุ่มนี้ ที่ได้รับการคัดเลือกมาจากทั่วประเทศญี่ปุ่น และยินดีที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนรุ่นใหม่ นายซากากิบาราได้กล่าวว่า กลุ่มเยาวชนเหล่านี้เปรียบเสมือนมันสมองของญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 21 และการเข้าพบนายกรัฐมนตรีครั้งนี้จึงถือเป็นประสบการณ์อันดียิ่ง เช่นเดียวกับที่ประธานาธิบดีคลินตันในสมัยที่เป็นนักศึกษา ได้เคยพบประธานาธิบดีเคนเนดี้ เยาวชนรุ่นนี้ก็จะเติบโตขึ้นเป็นผู้นำญี่ปุ่นต่อไป
นายกรัฐมนตรีได้เล่าถึงชีวิตวัยเยาว์ในชนบทซึ่งทำให้มีแรงบันดาลใจที่จะเข้ามารับใช้ชาติ และเข้าใจปัญหาของคนชนบทที่ขาดโอกาส นายกรัฐมนตรีจึงพยายามส่งเสริมการศึกษา เพื่อให้คนในชนบทสามารถใช้ศักยภาพได้อย่างสูงสุด สำหรับคนรุ่นใหม่นั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความสำคัญของการสามารถเข้าถึงความรู้และข้อมูล โดยที่สังคมปัจจุบันเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และสังคมข่าวสาร นอกจากนั้นคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ควรรับฟังคนรุ่นเก่าด้วย
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการกระจายรายได้ การพัฒนาประเทศไทยไปพร้อมกันกับประเทศเพื่อนบ้านรอบข้าง และได้เสนอให้ญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทร่วมในการสร้างงานและการพัฒนาภูมิภาคแถบนี้กับไทย นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงนโยบาย Dual track ของรัฐบาลไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชนบทให้ควบคู่ไปกับการส่งออก และลดช่องว่างระหว่างชนบทกับเมือง นายกรัฐมนตรีชื่นชมบทบาทของญี่ปุ่นระหว่างเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี พ.ศ. 2540 โดยบริษัทญี่ปุ่นกลับเพิ่มการลงทุนในไทย และประสงค์ให้ญี่ปุ่นส่งเสริมให้นายทุนชาวญี่ปุ่นไปลงทุนในประเทศกำลังพัฒนาที่ขาดทุนทรัพย์ในการพัฒนาประเทศ และนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการที่ไทยให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชีย กล่าวคือ ความร่วมมือในกรอบ Asia Cooperation Dialogue - ACD ที่สำคัญที่สุดที่ผู้นำต้องมีก็คือการมีจิตใจที่ดี มีความเข้าใจและเป็นห่วงประชาชนอย่างแท้จริง
นายกรัฐมนตรีอธิบายเหตุผลที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเกษตร และสินค้า OTOP ว่า คนไทยมีความผูกพันกับการเกษตร โดยมีธรรมชาติเป็น "สมบัติ" อีกทั้งมีฝีมือทางด้านหัตถกรรม ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ในการพัฒนาประเทศ จำเป็นต้องใช้ศักยภาพที่มีอยู่แล้วก่อนเป็นพื้นฐานในการพัฒนา
นายซากากิบาราได้กล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีว่าเป็นหนึ่งในผู้นำที่ได้รับความนิยมในภูมิภาคเอเชีย และมีความสามารถในการจัดการด้านการบริหาร จนประสบความสำเร็จ พร้อมทั้งได้เรียนเชิญให้ นายกรัฐมนตรีเดินทางไปร่วมค่ายฤดูร้อนของคณะผู้นำเยาวชนญี่ปุ่น ครั้งที่ 3 ที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2548 ที่นครฟุกุโอกะ
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้คณะผู้นำเยาวชนญี่ปุ่นเข้าชมทำเนียบรัฐบาลและห้องทำงาน พร้อมถ่ายรูปร่วมกัน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-