กรุงเทพ--13 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (13 ตุลาคม) นายดอน ปรมัตถ์วินัย อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการหารือระหว่าง ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่า-การกระทรวงการต่างประเทศกับ อู ลา หม่อง เอกอัครราชทูตพม่าประจำประเทศไทย สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ ได้เชิญเอกอัครราชทูตพม่ามาพบเพื่อขอทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับผลการดำเนินการของรัฐบาลพม่ากรณีการปิดด่านชายแดนไทย-พม่าและการยกเลิกสัมปทาน ประมงร่วมไทย-พม่านับจากการหารือระหว่างกันเมื่อวันศุกร์ที่ 8ตุลาคม ที่ผ่านมา
2. เอกอัครราชทูตพม่าได้แจ้งว่า เหตุการณ์ด้านชายแดนไทย-พม่า โดยเฉพาะเขตแดนทางบกนั้นช่วงเดือนตุลาคมเป็นช่วงของการสับเปลี่ยนกองกำลังทหารของพม่า อาจทำให้มองว่าพม่ามีการเสริมกองกำลังทหารบริเวณชายแดนในเรื่องประมงนั้น พม่าอยู่ในระหว่างการจัดระเบียบประมงใหม่และวันนี้ (13 ตุลาคม) จะมีเจ้าหน้าที่จากกรุงย่างกุ้งเดินทางไปเกาะสองเพื่อหารือเรื่องนี้
3. เอกอัครราชทูตพม่าเน้นว่าปัญหาการปิดด่านชายแดนไทย-พม่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้มีส่วนที่มาจากเหตุการณ์การบุกยึดสถานทูตพม่าของกลุ่มคน 5 คน ซึ่งลอยนวลอยู่ในขณะนี้ โดยพม่าเห็นว่าบุคคลเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงและทรัพย์สินของพม่า
4. ดร. สุรินทร์ฯ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-พม่าในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดี โดยมีการแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างกันและประเทศไทยก็ได้ผลักดันเรื่อง โครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources Development) และการพัฒนาประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (Mekong Agenda) ในการประชุมระดับรัฐมนตรี อาเซียน ระหว่างวันที่ 19-28 กรกฎาคม 2542 ที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นโครงการที่เน้นการส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในประเทศพม่าค่อนข้างมากอย่างไรก็ดี เหตุการณ์บุกยึดสถานทูตพม่าได้ทำให้เกิดความไม่ปกติขึ้น แต่สถานการณ์เช่นนี้ไม่ควร จะยืดเยื้อ
5. อธิบดีกรมสารนิเทศได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว สรุปได้ว่า
5.1 การจับตัวกลุ่มคน 5 คนในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ยึดสถานทูตพม่ากับการจับคนทั้ง 5 ในขณะนี้เป็นเรื่องต้องแยกจากกัน กล่าวคือ การปล่อยตัวกลุ่มคนดังกล่าวในสถานการณ์นั้นเพราะเป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงการ แลกเปลี่ยนตัวประกันทั้งหมดแต่ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มคนดังกล่าวมิได้กระทำผิดกฎหมายไทยฉะนั้นจึงได้มีความพยายามจับกุมตัวคนทั้ง 5 ในฐานะที่ทำผิดกฎหมายโดยได้มีการออกหมายจับไปแล้ว
5.2 ประเทศไทยได้เชิญรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศพม่าผ่านเอกอัครราชทูตอูลา หม่อง มาเยือนประเทศไทยเพราะรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศพม่าเป็นผู้ที่ได้ร่วมหารือกับฝ่ายไทยนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์และเห็นชอบกับมาตรการดำเนินการของไทยฉะนั้นจึงย่อมเป็นประโยชน์ที่จะหารือกันในเรื่องที่ค้างคาและสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ดังกล่าว
5.3 สำหรับการตอบโต้ฝ่ายพม่านั้น อธิบดีกรมสารนิเทศกล่าวว่าการปิดด่านชายแดนไทย-พม่าแม้จะส่งผลกระทบด้านการค้าและเศรษฐกิจบริเวณชายแดนและสร้างความไม่สะดวกให้แก่การประกอบอาชีพของประชาชนของทั้งสองประเทศแต่ก็ไม่ถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและอธิปไตยของไทยการจะมีท่าทีแข็งกร้าวหรือตอบโต้ประการใดจึงต้องเหมาะสมกับภาวะการณ์โดยต้องพิจารณาประเด็นเหล่านี้ประกอบด้วย
6. ต่อข้อซักถามเป็นการเฉพาะของสื่อมวลชนว่าเอกอัครราชทูตพม่าได้ยื่นเงื่อนไขขอให้ทางการไทยจับตัวกลุ่มผู้ก่อการทั้ง 5 หรือไม่ เนื่องจากเอกอัครราชทูตพม่าได้กล่าวเช่นนั้นกับสื่อมวลชนหลังการพบกับ ดร. สุรินทร์ฯ นายดอนฯ ได้ตอบว่า มิได้มีการยกเรื่องคนทั้ง 5 ขึ้นพูดในลักษณะเป็นเงื่อนไขของการยุติปัญหาการปิดด่านชายแดนแต่อย่างไร หากเอกอัครราชทูตพม่าได้พูดเช่นนั้นกับผู้สื่อข่าวก็คงจะเป็นการสะท้อนความเห็นของตนหรือของพม่าต่อคำถามของผู้สื่อข่าวเอง มิใช่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในการหารือส่วนที่พาดพิงเกี่ยวกับผู้ก่อการทั้ง 5 ในระหว่างการหารือก็มีเพียงคำกล่าวของเอกอัครราชทูตพม่าว่าการปิดด่านชายแดนก็เพื่อควบคุมสถานการณ์อันเกิดจากการกระทำของบุคคลทั้ง 5 ที่บุกยึดสถานทูตพม่า--จบ--
วันนี้ (13 ตุลาคม) นายดอน ปรมัตถ์วินัย อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการหารือระหว่าง ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่า-การกระทรวงการต่างประเทศกับ อู ลา หม่อง เอกอัครราชทูตพม่าประจำประเทศไทย สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ ได้เชิญเอกอัครราชทูตพม่ามาพบเพื่อขอทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับผลการดำเนินการของรัฐบาลพม่ากรณีการปิดด่านชายแดนไทย-พม่าและการยกเลิกสัมปทาน ประมงร่วมไทย-พม่านับจากการหารือระหว่างกันเมื่อวันศุกร์ที่ 8ตุลาคม ที่ผ่านมา
2. เอกอัครราชทูตพม่าได้แจ้งว่า เหตุการณ์ด้านชายแดนไทย-พม่า โดยเฉพาะเขตแดนทางบกนั้นช่วงเดือนตุลาคมเป็นช่วงของการสับเปลี่ยนกองกำลังทหารของพม่า อาจทำให้มองว่าพม่ามีการเสริมกองกำลังทหารบริเวณชายแดนในเรื่องประมงนั้น พม่าอยู่ในระหว่างการจัดระเบียบประมงใหม่และวันนี้ (13 ตุลาคม) จะมีเจ้าหน้าที่จากกรุงย่างกุ้งเดินทางไปเกาะสองเพื่อหารือเรื่องนี้
3. เอกอัครราชทูตพม่าเน้นว่าปัญหาการปิดด่านชายแดนไทย-พม่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้มีส่วนที่มาจากเหตุการณ์การบุกยึดสถานทูตพม่าของกลุ่มคน 5 คน ซึ่งลอยนวลอยู่ในขณะนี้ โดยพม่าเห็นว่าบุคคลเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงและทรัพย์สินของพม่า
4. ดร. สุรินทร์ฯ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-พม่าในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดี โดยมีการแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างกันและประเทศไทยก็ได้ผลักดันเรื่อง โครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources Development) และการพัฒนาประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (Mekong Agenda) ในการประชุมระดับรัฐมนตรี อาเซียน ระหว่างวันที่ 19-28 กรกฎาคม 2542 ที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นโครงการที่เน้นการส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในประเทศพม่าค่อนข้างมากอย่างไรก็ดี เหตุการณ์บุกยึดสถานทูตพม่าได้ทำให้เกิดความไม่ปกติขึ้น แต่สถานการณ์เช่นนี้ไม่ควร จะยืดเยื้อ
5. อธิบดีกรมสารนิเทศได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว สรุปได้ว่า
5.1 การจับตัวกลุ่มคน 5 คนในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ยึดสถานทูตพม่ากับการจับคนทั้ง 5 ในขณะนี้เป็นเรื่องต้องแยกจากกัน กล่าวคือ การปล่อยตัวกลุ่มคนดังกล่าวในสถานการณ์นั้นเพราะเป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงการ แลกเปลี่ยนตัวประกันทั้งหมดแต่ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มคนดังกล่าวมิได้กระทำผิดกฎหมายไทยฉะนั้นจึงได้มีความพยายามจับกุมตัวคนทั้ง 5 ในฐานะที่ทำผิดกฎหมายโดยได้มีการออกหมายจับไปแล้ว
5.2 ประเทศไทยได้เชิญรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศพม่าผ่านเอกอัครราชทูตอูลา หม่อง มาเยือนประเทศไทยเพราะรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศพม่าเป็นผู้ที่ได้ร่วมหารือกับฝ่ายไทยนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์และเห็นชอบกับมาตรการดำเนินการของไทยฉะนั้นจึงย่อมเป็นประโยชน์ที่จะหารือกันในเรื่องที่ค้างคาและสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ดังกล่าว
5.3 สำหรับการตอบโต้ฝ่ายพม่านั้น อธิบดีกรมสารนิเทศกล่าวว่าการปิดด่านชายแดนไทย-พม่าแม้จะส่งผลกระทบด้านการค้าและเศรษฐกิจบริเวณชายแดนและสร้างความไม่สะดวกให้แก่การประกอบอาชีพของประชาชนของทั้งสองประเทศแต่ก็ไม่ถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและอธิปไตยของไทยการจะมีท่าทีแข็งกร้าวหรือตอบโต้ประการใดจึงต้องเหมาะสมกับภาวะการณ์โดยต้องพิจารณาประเด็นเหล่านี้ประกอบด้วย
6. ต่อข้อซักถามเป็นการเฉพาะของสื่อมวลชนว่าเอกอัครราชทูตพม่าได้ยื่นเงื่อนไขขอให้ทางการไทยจับตัวกลุ่มผู้ก่อการทั้ง 5 หรือไม่ เนื่องจากเอกอัครราชทูตพม่าได้กล่าวเช่นนั้นกับสื่อมวลชนหลังการพบกับ ดร. สุรินทร์ฯ นายดอนฯ ได้ตอบว่า มิได้มีการยกเรื่องคนทั้ง 5 ขึ้นพูดในลักษณะเป็นเงื่อนไขของการยุติปัญหาการปิดด่านชายแดนแต่อย่างไร หากเอกอัครราชทูตพม่าได้พูดเช่นนั้นกับผู้สื่อข่าวก็คงจะเป็นการสะท้อนความเห็นของตนหรือของพม่าต่อคำถามของผู้สื่อข่าวเอง มิใช่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในการหารือส่วนที่พาดพิงเกี่ยวกับผู้ก่อการทั้ง 5 ในระหว่างการหารือก็มีเพียงคำกล่าวของเอกอัครราชทูตพม่าว่าการปิดด่านชายแดนก็เพื่อควบคุมสถานการณ์อันเกิดจากการกระทำของบุคคลทั้ง 5 ที่บุกยึดสถานทูตพม่า--จบ--