เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ม.ค. 42 ณ พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการประชุมนัดพิเศษขึ้น จัดแถลงข่าวผล การประ ชุม โดย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รองโฆษกพรรคดังมีรายละเอียดต่อไปนี้
"ผมอยากที่จะเรียนกับพี่น้องสื่อมวลชน เกี่ยวกับเรื่องที่วันนี้ที่จะมีการประชุมของสมาชิกบางส่วน ที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยเรื่องที่จะชี้แจงให้สาธารณะชนเข้าใจนั้นมีทั้งสิ้น 3 ประเด็นด้วยกัน ประเด็นที่ 1 ต้อง ขอเรียนนะครับว่าการประชุมในวันนี้ ไม่ได้เป็นการประชุมที่พรรคประชาธิปัตย์ มีคำสั่งให้ประชุม และไม่ใช่ การประชุม ซึ่งรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจได้มีคำสั่งให้มีการประชุม แต่เป็นเรื่องที่สมาชิกของพรรค กลุ่ม หนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกซึ่งเป็นกลุ่มหนุ่มสาวในพรรคนั้นประมาณ 30 ท่าน ได้มีความเป็นห่วงเป็นใย ต่อ สถานการณ์การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งก่อนอภิปราย ช่วงอภิปราย และหลังการอภิปราย ซึ่งจะต้องรับฟังเสียง ของพี่น้องประชาชน ที่สะท้อนออกมาจากการอภิปรายด้วย ดังนั้นจึงได้มีการนัดประชุมกันอย่างไม่เป็นทางการ โดยวันนี้ได้มีสมาชิกมาประชุมรวมทั้งสิ้น 37 ท่าน และก็มีท่านชุมพล กาญจนะ ส.ส.จ.สุราษฎร์ธานี ได้ทำหน้าที่ เป็นผู้นำในการประชุมครั้งนี้ ประเด็นที่ 2 ที่มีการประชุมในวันนี้ ที่อยากจะเรียนชี้แจงก็คือว่าในวันนี้ความเป็น ห่วงของสมาชิกแต่ละท่านของพรรคนั้น ก็ได้เชิญให้เลขานุการรัฐมนตรี แต่ละกระทรวงที่จะถูกอภิปราย ได้มา สรุปประเด็นการอภิปรายซึ่งคาดว่า ฝ่ายค้านจะใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ และ ได้ขอให้เพื่อนสมาชิกซึ่งมีข้อมูล ที่ ทราบว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายในเรื่องใดได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเลขานุการรัฐ มนตรี ซึ่งตลอดระยะเวลา ที่มีการ คุย กันนั้น ทั้ง 3 กระทรวงก็ได้ให้ความมั่นใจกับสมาชิกว่า มีการเตรียมการอย่างรอบครอบ และสามารถตอบ ข้อซัก ถามทุกคำถามได้อย่างชัดเจน แต่ประเด็นที่เป็นห่วงก็คืออาจจะมีการสร้างเรื่อง หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง โดย เฉพาะ อย่างยิ่งการอาศัยช่องของรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่สามารถที่จะฟ้องร้องได้ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาเป็น การสร้างเรื่องบิดเบือนเพื่อสร้างความเสื่อมเสียกับรัฐมนตรีหลายท่าน ที่ประชุมในวันนี้จึงได้มีแนวทาง ที่จะ เสนอไปกับที่ประชุม ซึ่งจะไปเสนอต่อที่ประชุมพรรคต่อไปว่า กรณีซึ่งอาจจะมีการกล่าวหาว่าเรื่องนั้น เรื่องนี้ผิด แล้วต้องดำเนินคดีนั้น ก็จะเรียกร้องให้มีการดำเนินคดี มากกว่าที่จะให้พูดลอย ๆเฉพาะในสภา เท่านั้นและใน กรณีที่อาจจะมีการใช้เอกสารที่ไม่ถูกต้อง ก็จะต้องมีการเรียกร้องกับทางสภา เพื่อให้มีการตรวจสอบเอกสาร นั้น ด้วย เพราะไม่อยากจะให้การอภิปรายเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา ประเด็นที่ 3 ที่อยากจะเรียนชี้แจงก็คือว่า สมาชิก ซึ่งมาพบกันในวันนี้ เราต้องการเห็นการอภิปรายที่สร้างสรรค์ เราไม่ได้เป็นการตั้งกลุ่มหรือตั้งแก๊ง มาเพื่อ ทำการ ก่อกวนหรือการประท้วงในสภา แต่เราต้องการเห็นการอภิปรายซึ่งใช้ข้อมูลข้อเท็จจริง หลักฐานเอกสาร ดังนั้น หากว่ามีการใช้เอกสารถูกต้องในการอภิปรายแล้ว ก็จะไม่มีการประท้วงหรือใช้สิทธิก่อกวนโดยไม่จำเป็น จาก สมาชิกของพรรคแต่ประการใด พวกเราจะฟังการอภิปรายของสมาชิกฝ่ายค้านด้วยความเข้าใจ ว่านี่เป็นกระบวน การตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ และจะไม่มีการขัดขวนกระบวนการอภิปรายแต่ประการใดทั้งสิ้น อันนี้เป็น 3 เรื่อง หลัก ๆ ที่มีการพูดคุยกันในวันนี้ ดังนั้นก็ขอให้ความมั่นใจกับประชาชน กลุ่มสมาชิกของพรรคซึ่งเคลื่อน ไหววันนี้นั้น เป็นความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ในประเด็นหลังสุดที่ที่มีการหารือกันก็คือว่า กลุ่ม นั้น ได้มีความเห็น ในการที่จะให้ติดตามหลังจากการอภิปรายว่า เรื่องใดบ้างที่ประชาชนยังมีความไม่เข้าใจ หรือ มี ความสับสนในข้อมูล ก็หน้าที่จะแต่ละกระทรวงจะได้ชี้แจงทำความเข้าใจให้เกิดขึ้น ต่อไป ดังนั้นก็มี 3 เรื่อง หลักที่คุยกัน ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้ครับ"--จบ--
"ผมอยากที่จะเรียนกับพี่น้องสื่อมวลชน เกี่ยวกับเรื่องที่วันนี้ที่จะมีการประชุมของสมาชิกบางส่วน ที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยเรื่องที่จะชี้แจงให้สาธารณะชนเข้าใจนั้นมีทั้งสิ้น 3 ประเด็นด้วยกัน ประเด็นที่ 1 ต้อง ขอเรียนนะครับว่าการประชุมในวันนี้ ไม่ได้เป็นการประชุมที่พรรคประชาธิปัตย์ มีคำสั่งให้ประชุม และไม่ใช่ การประชุม ซึ่งรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจได้มีคำสั่งให้มีการประชุม แต่เป็นเรื่องที่สมาชิกของพรรค กลุ่ม หนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกซึ่งเป็นกลุ่มหนุ่มสาวในพรรคนั้นประมาณ 30 ท่าน ได้มีความเป็นห่วงเป็นใย ต่อ สถานการณ์การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งก่อนอภิปราย ช่วงอภิปราย และหลังการอภิปราย ซึ่งจะต้องรับฟังเสียง ของพี่น้องประชาชน ที่สะท้อนออกมาจากการอภิปรายด้วย ดังนั้นจึงได้มีการนัดประชุมกันอย่างไม่เป็นทางการ โดยวันนี้ได้มีสมาชิกมาประชุมรวมทั้งสิ้น 37 ท่าน และก็มีท่านชุมพล กาญจนะ ส.ส.จ.สุราษฎร์ธานี ได้ทำหน้าที่ เป็นผู้นำในการประชุมครั้งนี้ ประเด็นที่ 2 ที่มีการประชุมในวันนี้ ที่อยากจะเรียนชี้แจงก็คือว่าในวันนี้ความเป็น ห่วงของสมาชิกแต่ละท่านของพรรคนั้น ก็ได้เชิญให้เลขานุการรัฐมนตรี แต่ละกระทรวงที่จะถูกอภิปราย ได้มา สรุปประเด็นการอภิปรายซึ่งคาดว่า ฝ่ายค้านจะใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ และ ได้ขอให้เพื่อนสมาชิกซึ่งมีข้อมูล ที่ ทราบว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายในเรื่องใดได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเลขานุการรัฐ มนตรี ซึ่งตลอดระยะเวลา ที่มีการ คุย กันนั้น ทั้ง 3 กระทรวงก็ได้ให้ความมั่นใจกับสมาชิกว่า มีการเตรียมการอย่างรอบครอบ และสามารถตอบ ข้อซัก ถามทุกคำถามได้อย่างชัดเจน แต่ประเด็นที่เป็นห่วงก็คืออาจจะมีการสร้างเรื่อง หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง โดย เฉพาะ อย่างยิ่งการอาศัยช่องของรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่สามารถที่จะฟ้องร้องได้ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาเป็น การสร้างเรื่องบิดเบือนเพื่อสร้างความเสื่อมเสียกับรัฐมนตรีหลายท่าน ที่ประชุมในวันนี้จึงได้มีแนวทาง ที่จะ เสนอไปกับที่ประชุม ซึ่งจะไปเสนอต่อที่ประชุมพรรคต่อไปว่า กรณีซึ่งอาจจะมีการกล่าวหาว่าเรื่องนั้น เรื่องนี้ผิด แล้วต้องดำเนินคดีนั้น ก็จะเรียกร้องให้มีการดำเนินคดี มากกว่าที่จะให้พูดลอย ๆเฉพาะในสภา เท่านั้นและใน กรณีที่อาจจะมีการใช้เอกสารที่ไม่ถูกต้อง ก็จะต้องมีการเรียกร้องกับทางสภา เพื่อให้มีการตรวจสอบเอกสาร นั้น ด้วย เพราะไม่อยากจะให้การอภิปรายเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา ประเด็นที่ 3 ที่อยากจะเรียนชี้แจงก็คือว่า สมาชิก ซึ่งมาพบกันในวันนี้ เราต้องการเห็นการอภิปรายที่สร้างสรรค์ เราไม่ได้เป็นการตั้งกลุ่มหรือตั้งแก๊ง มาเพื่อ ทำการ ก่อกวนหรือการประท้วงในสภา แต่เราต้องการเห็นการอภิปรายซึ่งใช้ข้อมูลข้อเท็จจริง หลักฐานเอกสาร ดังนั้น หากว่ามีการใช้เอกสารถูกต้องในการอภิปรายแล้ว ก็จะไม่มีการประท้วงหรือใช้สิทธิก่อกวนโดยไม่จำเป็น จาก สมาชิกของพรรคแต่ประการใด พวกเราจะฟังการอภิปรายของสมาชิกฝ่ายค้านด้วยความเข้าใจ ว่านี่เป็นกระบวน การตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ และจะไม่มีการขัดขวนกระบวนการอภิปรายแต่ประการใดทั้งสิ้น อันนี้เป็น 3 เรื่อง หลัก ๆ ที่มีการพูดคุยกันในวันนี้ ดังนั้นก็ขอให้ความมั่นใจกับประชาชน กลุ่มสมาชิกของพรรคซึ่งเคลื่อน ไหววันนี้นั้น เป็นความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ในประเด็นหลังสุดที่ที่มีการหารือกันก็คือว่า กลุ่ม นั้น ได้มีความเห็น ในการที่จะให้ติดตามหลังจากการอภิปรายว่า เรื่องใดบ้างที่ประชาชนยังมีความไม่เข้าใจ หรือ มี ความสับสนในข้อมูล ก็หน้าที่จะแต่ละกระทรวงจะได้ชี้แจงทำความเข้าใจให้เกิดขึ้น ต่อไป ดังนั้นก็มี 3 เรื่อง หลักที่คุยกัน ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้ครับ"--จบ--