เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 17, 2005 11:03 —กรมส่งเสริมการส่งออก

          นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มั่นใจว่าการส่งออกรถยนต์ของไทยไปออสเตรเลีย ปี 2548 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากรถยนต์ที่ส่งไปจากเมืองไทยจะได้เปรียบคู่แข่งขันด้านราคาจากอัตราภาษีที่ลดลง 
ปัจจุบันออสเตรเลียมีปริมาณการขายรถยนต์ประมาณ 8 แสนคันต่อปี โดยมีการผลิตได้ภายในประเทศประมาณ 4 แสนคัน ส่วนที่เหลือเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าจากไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และสหภาพยุโรป
ด้านนายสุรพร สิมะกุลธร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เตรียมการส่งออกสินค้าไปออสเตรเลียกันแล้ว จึงเชื่อมั่นอย่างแน่นอนว่าจะสามารถส่งออกไปออสเตรเลียได้เพิ่มขึ้น แต่ไทยยังมีคู่แข่งขันที่น่ากลัวคือจีนซึ่งต้องแข่งขันทั้งในด้านราคาและคุณภาพ
ส่วนนายสุนัย สถาพร นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวว่า หลายกลุ่มสินค้าจะได้รับผลประโยชน์จากเอฟทีเอไทย-ออสเตรเลียในครั้งนี้ แต่ในกลุ่มสินค้ามันสำปะหลังคงจะไม่ได้รับผลประโยชน์ เพราะออสเตรเลียมีมาตรฐานบังคับให้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังนำเข้าต้องผ่านความร้อน 98 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3 ชม. ซึ่งไม่สามารถทำได้ เพราะคงจะไหม้หมด จึงถือเป็นข้อกีดกันการค้าที่ออสเตรเลียยังไม่ได้แก้ไขให้ไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งฝ่ายไทยและออสเตรเลียมีแผนเจรจาเพื่ออำนวยความสะดวกระหว่างกันให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี
ประเด็นวิเคราะห์:
- สินค้าไทยภายใต้ข้อตกลง FTA โดยเฉพาะในกลุ่มยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ส่งออกไปออสเตรเลียในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไทยจะต้องแข่งขันกับจีนในเรื่องราคาและคุณภาพในกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอื่น ๆ
- สินค้ามันสำปะหลังคงยังไม่ได้รับผลประโยชน์ เพราะออสเตรเลียมีฐานบังคับใช้ที่ไทยยังไม่สามารถปฏิบัติได้และทั้งฝ่ายไทยและออสเตรเลียมีแผนเจรจาเพื่ออำนวยความสะดวกระหว่างกันให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี
ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ