นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ผลการสำรวจความนิยมของประชาชนจากหลายสำนัก ออกมาระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ค่อนข้างจะได้จำนวนส.ส.ต่ำกว่าเป้าที่คาดไว้ว่า ถึงโพลจะออกมาอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ก็ขอยืนยันทำงานจนนาทีสุดท้าย ทั้งนี้หากจำนวนที่นั่งไม่ได้ตามเป้าหมายที่พรรควางไว้ 201 เสียง ก็จะกระทบในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล อย่างไรก็ตามพรรคยังหวังว่าจะได้ 201 เสียง เพราะมีประชาชน และนักวิชาการ หรือขาประจำของนายกฯ ออกมาแสดงความเห็น เพราะห่วงใยและให้ความสำคัญในเรื่องการถ่วงดุลอำนาจ ในระบอบประชาธิปไตย เพราะ 4 ปีที่ผ่านมาชัดเจนมาก ว่า ภายใต้การถ่วงดุลในระบอบประชาธิปไตยขาดความสมดุล เป็นเหตุให้หัวหน้าฝ่ายบริหารเหลิงอำนาจ ลืมตัว ทำอะไรตามอำเภอใจมากขึ้นจนอาจจะทำให้ประเทศชาติเสียหาย
‘ผมว่าขณะนี้สถานการณ์น่าห่วงใยกว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพราะจากประวัติศาสตร์ทางการเมืองของทุกประเทศ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ผู้นำที่มีอำนาจ แล้วกลับมามีอำนาจอีกครั้งหนึ่ง ความเชื่อมั่นที่ได้รับครั้งที่ 2 จะยิ่งเป็นตัวส่งเสริมให้เหลิงอำนาจมากขึ้น เพราะฉะนั้นเมื่อเราสันนิษฐานว่า ภาวะการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น ความจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนการถ่วงดุล ให้มีดุลยภาพมากขึ้น ก็เป็นเรื่องสำคัญ’ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่หัวหน้าพรรคไทยรักไทยประกาศบนเวทีปราศรัยหาเสียงที่ จ.ภูเก็ตว่าจะเป็นรัฐบาลต่อไปอีก 10 ปี เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่พร้อมที่จะบริหารประเทศ เนื่องจากยังสับสนในตัวผู้นำ นายบัญญัติกล่าวว่า จะเป็น 20 หรือ 30 ปีก็เชิญ ถ้าคนไทยทั้งประเทศพร้อม ให้พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ก็สามารถเป็นได้เรื่อยๆ แต่ตนคิดว่า การประกาศเช่นนี้ คงเป็นเรื่องความเมามันในอำนาจ เพลินจนเกิดความย่ามใจ ทั้งที่ความจริงการลงคะแนนเสียงยังไม่ได้เกิดขึ้น จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนจะต้องเก็บไปคิด
‘เป็นเรื่องธรรมดาที่นายกฯคนนี้ นอกจากจะเป็นคนที่เชื่อมั่นในอำนาจ เพลิดเพลินกับการใช้อำนาจแล้ว ยังมีความถนัดในการดูถูก ดูหมิ่นคนอื่น หรือพูดจาเยาะเย้ยคนอื่น และยิ่งใกล้เลือกตั้งมากเท่าไหร่ ก็พยายามที่จะลดความน่าเชื่อถือของพรรคประชาธิปัตย์ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ คงกลัวการตรวจสอบ กลัวเลข 201 ฉะนั้นถ้าสวามาถทำให้ตัวเลขนี้ ลดลงได้น้อยเท่าไหร่ ด้วยการสร้างเรื่อง ให้เกิดความสับสน อย่างเช่น เรื่องที่ทำให้นายกฯทักษิณลำบากวันนี้ คือการใส่ความว่าประชาธิปัตย์ทำสติ๊กเกอร์บิดเบือน เพื่อทำลายล้างพรรคไทยรักไทย’ นายบัญญัติกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 ก.พ. 2548--จบ--
-ดท-
‘ผมว่าขณะนี้สถานการณ์น่าห่วงใยกว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพราะจากประวัติศาสตร์ทางการเมืองของทุกประเทศ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ผู้นำที่มีอำนาจ แล้วกลับมามีอำนาจอีกครั้งหนึ่ง ความเชื่อมั่นที่ได้รับครั้งที่ 2 จะยิ่งเป็นตัวส่งเสริมให้เหลิงอำนาจมากขึ้น เพราะฉะนั้นเมื่อเราสันนิษฐานว่า ภาวะการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น ความจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนการถ่วงดุล ให้มีดุลยภาพมากขึ้น ก็เป็นเรื่องสำคัญ’ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่หัวหน้าพรรคไทยรักไทยประกาศบนเวทีปราศรัยหาเสียงที่ จ.ภูเก็ตว่าจะเป็นรัฐบาลต่อไปอีก 10 ปี เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่พร้อมที่จะบริหารประเทศ เนื่องจากยังสับสนในตัวผู้นำ นายบัญญัติกล่าวว่า จะเป็น 20 หรือ 30 ปีก็เชิญ ถ้าคนไทยทั้งประเทศพร้อม ให้พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ก็สามารถเป็นได้เรื่อยๆ แต่ตนคิดว่า การประกาศเช่นนี้ คงเป็นเรื่องความเมามันในอำนาจ เพลินจนเกิดความย่ามใจ ทั้งที่ความจริงการลงคะแนนเสียงยังไม่ได้เกิดขึ้น จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนจะต้องเก็บไปคิด
‘เป็นเรื่องธรรมดาที่นายกฯคนนี้ นอกจากจะเป็นคนที่เชื่อมั่นในอำนาจ เพลิดเพลินกับการใช้อำนาจแล้ว ยังมีความถนัดในการดูถูก ดูหมิ่นคนอื่น หรือพูดจาเยาะเย้ยคนอื่น และยิ่งใกล้เลือกตั้งมากเท่าไหร่ ก็พยายามที่จะลดความน่าเชื่อถือของพรรคประชาธิปัตย์ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ คงกลัวการตรวจสอบ กลัวเลข 201 ฉะนั้นถ้าสวามาถทำให้ตัวเลขนี้ ลดลงได้น้อยเท่าไหร่ ด้วยการสร้างเรื่อง ให้เกิดความสับสน อย่างเช่น เรื่องที่ทำให้นายกฯทักษิณลำบากวันนี้ คือการใส่ความว่าประชาธิปัตย์ทำสติ๊กเกอร์บิดเบือน เพื่อทำลายล้างพรรคไทยรักไทย’ นายบัญญัติกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 ก.พ. 2548--จบ--
-ดท-