'นคร มาฉิม' อึดอัด กกต.พิษณุโลก วางตัวไม่เป็นกลาง แปลก! เปิดเผยชื่อพยานเรื่องการทุจริตเลือกตั้งของพรรคการเมืองใหญ่ ทำให้พยานขวัญเสียเพราะถูกคุกคามหนัก
นายนคร มาฉิม ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 5 จังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกับ ‘ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์’ ถึงการที่ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กกต.จังหวัดพิษณุโลก โดยเล่าว่า ตนได้ยื่นร้องเรียนผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตเดียวกัน คือ นายไกรสิทธิ์ ไกรสิทธิพงศ์ หมายเลข 9 พรรคไทยรักไทย ว่ากระทำความผิดต่อกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. พ.ศ.2541 โดยได้นำพยานซึ่งเป็นชาวบ้านจำนวน 3 คน ที่ได้รับแจกสิ่งของและเงินเข้าให้ปากคำต่อเจ้าพนักงาน กกต.จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2548 ซึ่งพยานทั้งหมดให้ปากคำด้วยความสมัครใจและตามความเป็นจริง โดยมีเจ้าหน้าที่กกต.คือ ร.ต.อ.อนุศิษย์ ปารมีวิสิต เป็นผู้สอบปากคำพยาน
ต่อมาภายหลังการสอบปากคำเสร็จแล้วทราบว่า ร.ต.อ.อนุศิษย์ฯ ได้ส่งมอบสำนวนการสอบสวนดังกล่าวให้แก่ ร.ต.อ.ชนะชัย แสงศิริ และ ร.ต.อ.บุญทิ้ง อินทุภูติ พนักงานสอบสวน สภ.อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก ต่อมาภายหลัง ตนไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ กกต.คนใดนำเรื่องราวทั้งหมดที่ร้องเรียน และรายละเอียดที่พยานให้การไว้พร้อมรายชื่อพยานไปทำการเปิดเผยแก่ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทย และครูศูนย์เด็กเล็ก ที่บ้านแก่งทุ่ง หมู่ 4 ตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทยทราบ ต่อมาบุคคลดังกล่าวได้ไปข่มขู่พยานโดยวิธีการต่าง ๆ จนเกิดความหวาดกลัว และบังคับขู่เข็ญให้ไปกลับคำให้การทั้งหมดเสีย โดยไม่ปิดบังไว้เป็นความลับให้แก่พยาน
นายนครกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้พยานถูกฆ่าปิดปากได้ซึ่งจะทำให้ผู้พบเห็นการกระทำความผิดอื่น ๆ ไม่กล้าให้การเป็นพยานต่อเจ้าพนักงาน กกต.ได้ ทั้งยังจะส่งผลให้มีการกระทำผิดทุจริตการเลือกตั้งได้โดยง่าย และอาจจะทำให้ทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนี้หรือครั้งต่อ ๆ ไปไม่เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรมตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปการมืองและกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นตนจึงขอให้มีการดำเนินการตรวจสอบหรือทำการสอบสวนในเรื่องดังกล่าวโดยด่วนที่สุด รวมทั้งดำเนินการแก้ไขและป้องกันปัญหาที่จะเกิดเช่นกรณีดังกล่าวนี้
‘ถ้าทำแบบนั้นก็เหมือนกับกกต.นั่งอยู่บนภู แล้วปล่อยให้ผู้สมัครกัดกันให้ตายไปข้างหนึ่ง ฆ่ากันให้ตายเลย เสร็จแล้วก็เอาไปพิพากษาว่าใครรอดชีวิต คนนั้นก็จะได้รับใบเหลืองหรือใบแดง ผมถึงบอกว่าในเมื่อกกต.ให้ผู้สมัครไปฆ่ากันให้ตายในสนามรบก่อน ผมก็พร้อม ผมก็บอกว่าผมจะตายผมไม่ว่า แต่ขออย่างเดียวขอให้ปกปิดพยานเป็นความลับที่สุด แต่ต่อมากกต.ก็กลับเปิดเผยชื่อพยานหมด ผมก็เลยบอกว่าถ้าเจ้าหน้าที่กกต.ไม่ปิดความลับให้กับพยานแบบนี้ จะมีในโลกสักกี่คนที่จะกล้าไปเป็นพยานเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต ผมเสียใจกับพฤติกรรมกกต.บางคน ผมเสียใจกับกฎเกณฑ์กกต.ที่ปล่อยให้ผู้สมัครไปฆ่ากันตายในสนามการแข่งขันเสียก่อน ผมเลยบอกว่ากระบวนการแบบนี้อย่าไปฝันเลยว่าการเลือกตั้งจะสุจริตและเที่ยงธรรม รอให้เลือดเต็มแผ่นดินเสียก่อน และยิ่งในปัจจุบันนอกเหนือจากพยานแล้ว คนของผมที่เป็นผู้วิ่งป้ายประชาสัมพันธ์ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารบางคน ไปข่มขู่ไปตามหาตัวบอกว่าคุณสนับสนุนเบอร์ 4 ก็เตรียมตัวเดือดร้อน ผมก็บอกว่ายุคนี้มันไม่ใช่ยุคประชาธิไตยแล้วหรือ มันเป็นยุคบ้านป่าเมืองเถื่อนครองเมื่อแล้วหรือ ผมก็ขอถือโอกาสนี้พูดผ่านสื่อ ขอให้อย่าให้ใช้อิทธิพลเถื่อนเลย ถ้าเกิดว่าจะฆ่าพยานจะฆ่าคนของผม จะปิดปากคนของผม ผมจะยืนให้ยิง ให้ผมตายก่อน มายิงผมได้เลย นายนคร มาฉิม เบอร์ 4 เขต 5 จังหวัดพิษณุโลก มายิงผมให้ตาย แล้วก็ไม่ต้องมีการแข่งขัน ให้เอาตำแหน่งไปเลย ผมตายทุกอย่างก็จบ ขออย่างเดียวอย่าให้พยานผมเดือดร้อน’ นายนครกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 ก.พ. 2548--จบ--
-ดท-
นายนคร มาฉิม ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 5 จังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกับ ‘ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์’ ถึงการที่ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กกต.จังหวัดพิษณุโลก โดยเล่าว่า ตนได้ยื่นร้องเรียนผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตเดียวกัน คือ นายไกรสิทธิ์ ไกรสิทธิพงศ์ หมายเลข 9 พรรคไทยรักไทย ว่ากระทำความผิดต่อกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. พ.ศ.2541 โดยได้นำพยานซึ่งเป็นชาวบ้านจำนวน 3 คน ที่ได้รับแจกสิ่งของและเงินเข้าให้ปากคำต่อเจ้าพนักงาน กกต.จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2548 ซึ่งพยานทั้งหมดให้ปากคำด้วยความสมัครใจและตามความเป็นจริง โดยมีเจ้าหน้าที่กกต.คือ ร.ต.อ.อนุศิษย์ ปารมีวิสิต เป็นผู้สอบปากคำพยาน
ต่อมาภายหลังการสอบปากคำเสร็จแล้วทราบว่า ร.ต.อ.อนุศิษย์ฯ ได้ส่งมอบสำนวนการสอบสวนดังกล่าวให้แก่ ร.ต.อ.ชนะชัย แสงศิริ และ ร.ต.อ.บุญทิ้ง อินทุภูติ พนักงานสอบสวน สภ.อ.นครไทย จังหวัดพิษณุโลก ต่อมาภายหลัง ตนไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ กกต.คนใดนำเรื่องราวทั้งหมดที่ร้องเรียน และรายละเอียดที่พยานให้การไว้พร้อมรายชื่อพยานไปทำการเปิดเผยแก่ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทย และครูศูนย์เด็กเล็ก ที่บ้านแก่งทุ่ง หมู่ 4 ตำบลบ่อโพธิ์ อำเภอนครไทยทราบ ต่อมาบุคคลดังกล่าวได้ไปข่มขู่พยานโดยวิธีการต่าง ๆ จนเกิดความหวาดกลัว และบังคับขู่เข็ญให้ไปกลับคำให้การทั้งหมดเสีย โดยไม่ปิดบังไว้เป็นความลับให้แก่พยาน
นายนครกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้พยานถูกฆ่าปิดปากได้ซึ่งจะทำให้ผู้พบเห็นการกระทำความผิดอื่น ๆ ไม่กล้าให้การเป็นพยานต่อเจ้าพนักงาน กกต.ได้ ทั้งยังจะส่งผลให้มีการกระทำผิดทุจริตการเลือกตั้งได้โดยง่าย และอาจจะทำให้ทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนี้หรือครั้งต่อ ๆ ไปไม่เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรมตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปการมืองและกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นตนจึงขอให้มีการดำเนินการตรวจสอบหรือทำการสอบสวนในเรื่องดังกล่าวโดยด่วนที่สุด รวมทั้งดำเนินการแก้ไขและป้องกันปัญหาที่จะเกิดเช่นกรณีดังกล่าวนี้
‘ถ้าทำแบบนั้นก็เหมือนกับกกต.นั่งอยู่บนภู แล้วปล่อยให้ผู้สมัครกัดกันให้ตายไปข้างหนึ่ง ฆ่ากันให้ตายเลย เสร็จแล้วก็เอาไปพิพากษาว่าใครรอดชีวิต คนนั้นก็จะได้รับใบเหลืองหรือใบแดง ผมถึงบอกว่าในเมื่อกกต.ให้ผู้สมัครไปฆ่ากันให้ตายในสนามรบก่อน ผมก็พร้อม ผมก็บอกว่าผมจะตายผมไม่ว่า แต่ขออย่างเดียวขอให้ปกปิดพยานเป็นความลับที่สุด แต่ต่อมากกต.ก็กลับเปิดเผยชื่อพยานหมด ผมก็เลยบอกว่าถ้าเจ้าหน้าที่กกต.ไม่ปิดความลับให้กับพยานแบบนี้ จะมีในโลกสักกี่คนที่จะกล้าไปเป็นพยานเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต ผมเสียใจกับพฤติกรรมกกต.บางคน ผมเสียใจกับกฎเกณฑ์กกต.ที่ปล่อยให้ผู้สมัครไปฆ่ากันตายในสนามการแข่งขันเสียก่อน ผมเลยบอกว่ากระบวนการแบบนี้อย่าไปฝันเลยว่าการเลือกตั้งจะสุจริตและเที่ยงธรรม รอให้เลือดเต็มแผ่นดินเสียก่อน และยิ่งในปัจจุบันนอกเหนือจากพยานแล้ว คนของผมที่เป็นผู้วิ่งป้ายประชาสัมพันธ์ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารบางคน ไปข่มขู่ไปตามหาตัวบอกว่าคุณสนับสนุนเบอร์ 4 ก็เตรียมตัวเดือดร้อน ผมก็บอกว่ายุคนี้มันไม่ใช่ยุคประชาธิไตยแล้วหรือ มันเป็นยุคบ้านป่าเมืองเถื่อนครองเมื่อแล้วหรือ ผมก็ขอถือโอกาสนี้พูดผ่านสื่อ ขอให้อย่าให้ใช้อิทธิพลเถื่อนเลย ถ้าเกิดว่าจะฆ่าพยานจะฆ่าคนของผม จะปิดปากคนของผม ผมจะยืนให้ยิง ให้ผมตายก่อน มายิงผมได้เลย นายนคร มาฉิม เบอร์ 4 เขต 5 จังหวัดพิษณุโลก มายิงผมให้ตาย แล้วก็ไม่ต้องมีการแข่งขัน ให้เอาตำแหน่งไปเลย ผมตายทุกอย่างก็จบ ขออย่างเดียวอย่าให้พยานผมเดือดร้อน’ นายนครกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 ก.พ. 2548--จบ--
-ดท-