กรุงเทพ--13 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ว่า บริษัท Fitness แห่งหนึ่งได้ยื่นคำร้องขอให้สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ ประทับตรารับรองสัญญาว่าจ้างระหว่างบริษัทฯ กับหญิงไทย 3 คน เพื่อไปทำงานในตำแหน่งพนักงานนวด ครูฝึกสอนการนวดแผนโบราณ และผู้ฝึกหัดด้านการกีฬา โดยจากการติดตามตรวจสอบของสถานกงสุลใหญ่ฯ พบว่าบริษัทดังกล่าวตั้งอยู่ที่รัฐอัจมาน ซึ่งเป็นรัฐเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากเมืองดูไบ มีหญิงชาวจีนเป็นคนบริหารงานทั้งหมด โดยก่อนหน้านี้ เคยมีการนำหญิงไทยไปทำงานด้วยโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยวซึ่งถือว่าผิดกฏหมาย นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับทราบจากคนท้องถิ่นว่า มีการแฝงให้บริการทางเพศโดยใช้ธุรกิจนวดบังหน้า โดยสถานที่ประกอบการดังกล่าวเป็นอพาร์ทเมนท์ 3 ห้องนอน และการว่าจ้างดังกล่าวเป็นการ ติดต่อโดยตรงกับหญิงไทยไม่ได้ผ่านบริษัทจัดหางาน และมีค่าจ้างเดือนละ 1,000 เดอร์แฮม (ประมาณ 11,000 บาท)เกี่ยวกับเรื่องนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ให้ข้อสังเกตเพิ่มเติมว่าการนำหญิงไทยเข้าไปทำงานในลักษณะดังกล่าวค่อนข้างล่อแหลมต่อชื่อเสียงของประเทศไทยในลักษณะที่อาจจะเกี่ยวพันกับการขายบริการทางเพศในขณะเดียวกัน การส่งเสริมให้หญิงไทยไปทำงานบริการด้านการนวดเพื่อสุขภาพควรจะคำนึงถึงรายได้ที่เหมาะสมตลอดจนสภาพแวดล้อมของสถานที่ที่ให้บริการซึ่งในทางปฏิบัติควรจะเป็นโรงแรมระดับสูงหรือชมรมเพื่อสุขภาพซึ่งเป็นสถานที่เปิดเผยและมุ่งเน้นให้บริการเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง นอกจากนี้ แม้ว่าภายหลังจากที่พิจารณาแล้ว สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ปฏิเสธการรับรองเอกสารดังกล่าวข้างต้นไป แต่เชื่อว่าผู้เป็นเจ้าของธุรกิจบริการดังกล่าวข้างต้นคงจะไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะนำหญิงไทยเข้าไปทำงานทั้งโดยถูกกฏหมายและผิดกฏหมายและสองฝ่ายอาจสมยอมเพื่อประโยชน์ร่วมกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้บุคคลดังกล่าวก็เคยยื่นคำร้องในลักษณะนี้กับสถานกงสุลใหญ่ฯ มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ฯ จะได้ติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป--จบ--
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ว่า บริษัท Fitness แห่งหนึ่งได้ยื่นคำร้องขอให้สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ ประทับตรารับรองสัญญาว่าจ้างระหว่างบริษัทฯ กับหญิงไทย 3 คน เพื่อไปทำงานในตำแหน่งพนักงานนวด ครูฝึกสอนการนวดแผนโบราณ และผู้ฝึกหัดด้านการกีฬา โดยจากการติดตามตรวจสอบของสถานกงสุลใหญ่ฯ พบว่าบริษัทดังกล่าวตั้งอยู่ที่รัฐอัจมาน ซึ่งเป็นรัฐเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากเมืองดูไบ มีหญิงชาวจีนเป็นคนบริหารงานทั้งหมด โดยก่อนหน้านี้ เคยมีการนำหญิงไทยไปทำงานด้วยโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยวซึ่งถือว่าผิดกฏหมาย นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับทราบจากคนท้องถิ่นว่า มีการแฝงให้บริการทางเพศโดยใช้ธุรกิจนวดบังหน้า โดยสถานที่ประกอบการดังกล่าวเป็นอพาร์ทเมนท์ 3 ห้องนอน และการว่าจ้างดังกล่าวเป็นการ ติดต่อโดยตรงกับหญิงไทยไม่ได้ผ่านบริษัทจัดหางาน และมีค่าจ้างเดือนละ 1,000 เดอร์แฮม (ประมาณ 11,000 บาท)เกี่ยวกับเรื่องนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ให้ข้อสังเกตเพิ่มเติมว่าการนำหญิงไทยเข้าไปทำงานในลักษณะดังกล่าวค่อนข้างล่อแหลมต่อชื่อเสียงของประเทศไทยในลักษณะที่อาจจะเกี่ยวพันกับการขายบริการทางเพศในขณะเดียวกัน การส่งเสริมให้หญิงไทยไปทำงานบริการด้านการนวดเพื่อสุขภาพควรจะคำนึงถึงรายได้ที่เหมาะสมตลอดจนสภาพแวดล้อมของสถานที่ที่ให้บริการซึ่งในทางปฏิบัติควรจะเป็นโรงแรมระดับสูงหรือชมรมเพื่อสุขภาพซึ่งเป็นสถานที่เปิดเผยและมุ่งเน้นให้บริการเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง นอกจากนี้ แม้ว่าภายหลังจากที่พิจารณาแล้ว สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ปฏิเสธการรับรองเอกสารดังกล่าวข้างต้นไป แต่เชื่อว่าผู้เป็นเจ้าของธุรกิจบริการดังกล่าวข้างต้นคงจะไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะนำหญิงไทยเข้าไปทำงานทั้งโดยถูกกฏหมายและผิดกฏหมายและสองฝ่ายอาจสมยอมเพื่อประโยชน์ร่วมกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้บุคคลดังกล่าวก็เคยยื่นคำร้องในลักษณะนี้กับสถานกงสุลใหญ่ฯ มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ฯ จะได้ติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป--จบ--