กรุงเทพ--27 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ด้วยในวันที่ 31 ตุลาคม และ 14 พฤศจิกายน 2542 กระทรวงการต่างประเทศจะได้อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายยังวัดพุทธศาสนาในต่างประเทศรวม 2 วัด คือ ณ วัดจาคัต ไว ปริยัติ (Kyakhat Wain Pariyatti Monastery)เมืองพะโค ประเทศสหภาพพม่า และวัดพุทธิ (Puti Temple) เมืองหมางซื่อเขตปกครองตนเองชนชาติไตและจิ่งโพเต๋อหง มณฑลยูนนานประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้งและรองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกระทรวงกิจการศาสนาของประเทศสหภาพพม่าและสำนักงานการต่างประเทศมณฑลยูนนานของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่ออัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายยังวัดทั้งสองดังกล่าว นอกจากผ้าพระกฐินพระราชทานดังกล่าวแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องบริขารพระกฐิน และเงินบำรุงอารามวัดละ 10,000 บาท ให้แก่วัดทั้งสองด้วย กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายยังวัดพุทธศาสนาในประเทศเพื่อนบ้านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 โดยได้อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายยังวัดพุทธศาสนาในประเทศลาว กัมพูชา พม่า จีน (ที่เมืองเชียงรุ่ง เขตสิบสองปันนา ในมณฑลยูนนาน) และศรีลังกา เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางศาสนาและวัฒนธรรมที่ประเทศไทยมีอยู่กับประเทศดังกล่าวนี้ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากรัฐบาลของทั้ง 5 ประเทศดังกล่าว ผ่านทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศนั้น ๆ นับได้ว่าเป็นความร่วมมือกันด้วยดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศดังกล่าวข้างต้น ในการทำนุบำรุงพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองและให้ดำรงอยู่สืบไป นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังได้รับความร่วมมือจากชุมชนไทยและภาคเอกชนไทยที่ประกอบธุรกิจอยู่ในประเทศดังกล่าวมาร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลกับกระทรวงการต่างประเทศในการอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายยังวัดพุทธศาสนาในประเทศเหล่านี้ทุกครั้งทำให้เห็นได้ว่าศาสนาและวัฒนธรรมเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่สามารถก่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีต่อกันในทุกระดับทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชนและทั้งระหว่างประชาชนในประเทศเดียวกันและต่างประเทศอีกด้วย--จบ--
ด้วยในวันที่ 31 ตุลาคม และ 14 พฤศจิกายน 2542 กระทรวงการต่างประเทศจะได้อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายยังวัดพุทธศาสนาในต่างประเทศรวม 2 วัด คือ ณ วัดจาคัต ไว ปริยัติ (Kyakhat Wain Pariyatti Monastery)เมืองพะโค ประเทศสหภาพพม่า และวัดพุทธิ (Puti Temple) เมืองหมางซื่อเขตปกครองตนเองชนชาติไตและจิ่งโพเต๋อหง มณฑลยูนนานประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้งและรองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกระทรวงกิจการศาสนาของประเทศสหภาพพม่าและสำนักงานการต่างประเทศมณฑลยูนนานของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่ออัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายยังวัดทั้งสองดังกล่าว นอกจากผ้าพระกฐินพระราชทานดังกล่าวแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องบริขารพระกฐิน และเงินบำรุงอารามวัดละ 10,000 บาท ให้แก่วัดทั้งสองด้วย กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายยังวัดพุทธศาสนาในประเทศเพื่อนบ้านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 โดยได้อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายยังวัดพุทธศาสนาในประเทศลาว กัมพูชา พม่า จีน (ที่เมืองเชียงรุ่ง เขตสิบสองปันนา ในมณฑลยูนนาน) และศรีลังกา เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางศาสนาและวัฒนธรรมที่ประเทศไทยมีอยู่กับประเทศดังกล่าวนี้ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากรัฐบาลของทั้ง 5 ประเทศดังกล่าว ผ่านทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศนั้น ๆ นับได้ว่าเป็นความร่วมมือกันด้วยดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศดังกล่าวข้างต้น ในการทำนุบำรุงพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองและให้ดำรงอยู่สืบไป นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังได้รับความร่วมมือจากชุมชนไทยและภาคเอกชนไทยที่ประกอบธุรกิจอยู่ในประเทศดังกล่าวมาร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลกับกระทรวงการต่างประเทศในการอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายยังวัดพุทธศาสนาในประเทศเหล่านี้ทุกครั้งทำให้เห็นได้ว่าศาสนาและวัฒนธรรมเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่สามารถก่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีต่อกันในทุกระดับทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชนและทั้งระหว่างประชาชนในประเทศเดียวกันและต่างประเทศอีกด้วย--จบ--