กรุงเทพ--23 ธ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ตามที่เมื่อ 16 เมษายน 2541 เรือโชคมณีนาวาถูกเจ้าหน้าที่จังหวัดเกียนยางของ เวียดนามจับกุมพร้อมลูกเรือ 23 คน ประกอบด้วยลูกเรือประมงไทย 6 คน และลูกเรือประมงกัมพูชาอีก 17 คน ในข้อหาประกอบการประมงโดยรุกล้ำน่านน้ำเวียดนาม ซึ่งคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเกียนยางพิจารณาคิดค่าปรับตามกฎหมายเวียดนามในอัตรา 10,000 เหรียญสหรัฐ และปรับไต้ก๋งเรือ 5,000 เหรียญสหรัฐและยึดอุปกรณ์จับปลา อุปกรณ์สื่อสารและปลาทั้งหมด นั้น กระทรวงฯ ขอเรียนผลการดำเนินการดังนี้
1. ระหว่างพฤษภาคม - ธันวาคม 2541 นายสุวิทย์ สายเชื้อ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเจรจากับทางฝ่ายเวียดนามอย่างต่อเนื่อง มีผลให้คณะกรรมการจังหวัดเกียนยาง ปรับเรือดังกล่าว 10,000 เหรียญสหรัฐ โดยยกเว้นค่าปรับไต้ก๋ง 5,000 เหรียญสหรัฐดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขว่าเจ้าของเรือโชคมณีนาวาจะต้องเสียค่าปรับเรือ ดังกล่าวภายในวันที่ 8 ตุลาคม 2541 มิเช่นนั้นทางการเวียดนามจะยึดและขายทอดตลาดเรือ
2. เดือนกันยายน 2541สถานกงสุลใหญ่ฯ พิจารณาเห็นว่าระยะเวลาการชำระ ค่าปรับเรือดังกล่าวกระชั้นชิดเกินไป จึงมีหนังสือแจ้งพร้อมกับเจรจากับคณะกรรมการจังหวัดเกียนยางขอให้ผ่อนผันกำหนดวันชำระค่าปรับดังกล่าวออกไปอีก ซึ่งทางฝ่ายเวีดยนามตกลงที่จะขยายวันชำระค่าปรับเป็น 8 พฤศจิกายน 2541
3. อย่างไรก็ตาม เจ้าของเรือโชคมณีนาวาไม่สามารถหาเงินชำระค่าปรับดังกล่าว ได้ ทั้งที่ฝ่ายเวียดนามได้ผ่อนผันอย่างเต็มที่และในที่สุดก็ได้มีหนังสือแจ้งสถานกงสุลใหญ่ฯ เมื่อ 1 ธันวาคม 2541 ว่า ฝ่ายเวียดนามจำเป็นจะต้องดำเนินการยึดเรือดังกล่าวและขายทอดตลาด ต่อไป และจะปล่อยลูกเรือชาวไทยและชาวกัมพูชารวม 23 คนเป็นอิสระ
โดยในส่วนของลูกเรือชาวไทย 6 คน มีรายชื่อดังนี้
1) นายวิมล เนตรกิ่งแก้ว ภูมิลำเนา จ. ประจวบคีรีขันธ์
2) นายโรจน์ ปาลาเมา ภูมิลำเนา จ. สกลนคร
3) นายชุมพล ศิษย์ประคอง ภูมิลำเนา จ. สุรินทร์
4) นายสม ทองแท้ ภูมิลำเนา จ. เชียงราย
5) นายน้อย ทาอุ่น ภูมิลำเนา จ. ประจวบคีรีขันธ์
6) นายสุพิณ (ไม่ทราบนามสกุล) ภูมิลำเนา จ. ประจวบคีรีขันธ์
4. ในวันนี้ (23 ธันวาคม 2541) นายสุวิทย์ สายเชื้อ กงสุลใหญ่ฯ จะเจรจากับประธานคณะกรรมการจังหวัดเกียนยางเพื่อจะรับคืนและช่วยเหลือลูกเรือประมงดังกล่าวในฐานะ ผู้ตกทุกข์ได้ยาก เมื่อได้รับมอบตัวจากจังหวัดเกียนยางแล้ว สถานกงสุลใหญ่ฯ จะนำลูกเรือ ดังกล่าวไปยังนครโฮจิมินห์และออกหนังสือรับรอง (C.I.) และจะจัดส่งลูกเรือเดินทางกลับประเทศไทย โดย สายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 681 ซึ่งจะถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 24 ธันวาคม 2541 เวลา 15.50 น. โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ จะสำรองค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน ค่าเสื้อผ้า ค่าอาหารให้ก่อน
5. ในส่วนของลูกเรือกัมพูชา 17 คน สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ติดต่อกับกงสุลใหญ่กัมพูชาเพื่อให้ช่วยรับมอบลูกเรือกัมพูชาทั้ง 17 คนแล้ว โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ จะอำนวยความสะดวกนำส่งมอบให้ที่ชายแดนติดต่อระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา ซึ่งกงสุลใหญ่กัมพูชาก็พร้อมที่จะเดินทางไปรับลูกเรือกัมพูชากลับประเทศในวันนี้ต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--
ตามที่เมื่อ 16 เมษายน 2541 เรือโชคมณีนาวาถูกเจ้าหน้าที่จังหวัดเกียนยางของ เวียดนามจับกุมพร้อมลูกเรือ 23 คน ประกอบด้วยลูกเรือประมงไทย 6 คน และลูกเรือประมงกัมพูชาอีก 17 คน ในข้อหาประกอบการประมงโดยรุกล้ำน่านน้ำเวียดนาม ซึ่งคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเกียนยางพิจารณาคิดค่าปรับตามกฎหมายเวียดนามในอัตรา 10,000 เหรียญสหรัฐ และปรับไต้ก๋งเรือ 5,000 เหรียญสหรัฐและยึดอุปกรณ์จับปลา อุปกรณ์สื่อสารและปลาทั้งหมด นั้น กระทรวงฯ ขอเรียนผลการดำเนินการดังนี้
1. ระหว่างพฤษภาคม - ธันวาคม 2541 นายสุวิทย์ สายเชื้อ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเจรจากับทางฝ่ายเวียดนามอย่างต่อเนื่อง มีผลให้คณะกรรมการจังหวัดเกียนยาง ปรับเรือดังกล่าว 10,000 เหรียญสหรัฐ โดยยกเว้นค่าปรับไต้ก๋ง 5,000 เหรียญสหรัฐดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขว่าเจ้าของเรือโชคมณีนาวาจะต้องเสียค่าปรับเรือ ดังกล่าวภายในวันที่ 8 ตุลาคม 2541 มิเช่นนั้นทางการเวียดนามจะยึดและขายทอดตลาดเรือ
2. เดือนกันยายน 2541สถานกงสุลใหญ่ฯ พิจารณาเห็นว่าระยะเวลาการชำระ ค่าปรับเรือดังกล่าวกระชั้นชิดเกินไป จึงมีหนังสือแจ้งพร้อมกับเจรจากับคณะกรรมการจังหวัดเกียนยางขอให้ผ่อนผันกำหนดวันชำระค่าปรับดังกล่าวออกไปอีก ซึ่งทางฝ่ายเวีดยนามตกลงที่จะขยายวันชำระค่าปรับเป็น 8 พฤศจิกายน 2541
3. อย่างไรก็ตาม เจ้าของเรือโชคมณีนาวาไม่สามารถหาเงินชำระค่าปรับดังกล่าว ได้ ทั้งที่ฝ่ายเวียดนามได้ผ่อนผันอย่างเต็มที่และในที่สุดก็ได้มีหนังสือแจ้งสถานกงสุลใหญ่ฯ เมื่อ 1 ธันวาคม 2541 ว่า ฝ่ายเวียดนามจำเป็นจะต้องดำเนินการยึดเรือดังกล่าวและขายทอดตลาด ต่อไป และจะปล่อยลูกเรือชาวไทยและชาวกัมพูชารวม 23 คนเป็นอิสระ
โดยในส่วนของลูกเรือชาวไทย 6 คน มีรายชื่อดังนี้
1) นายวิมล เนตรกิ่งแก้ว ภูมิลำเนา จ. ประจวบคีรีขันธ์
2) นายโรจน์ ปาลาเมา ภูมิลำเนา จ. สกลนคร
3) นายชุมพล ศิษย์ประคอง ภูมิลำเนา จ. สุรินทร์
4) นายสม ทองแท้ ภูมิลำเนา จ. เชียงราย
5) นายน้อย ทาอุ่น ภูมิลำเนา จ. ประจวบคีรีขันธ์
6) นายสุพิณ (ไม่ทราบนามสกุล) ภูมิลำเนา จ. ประจวบคีรีขันธ์
4. ในวันนี้ (23 ธันวาคม 2541) นายสุวิทย์ สายเชื้อ กงสุลใหญ่ฯ จะเจรจากับประธานคณะกรรมการจังหวัดเกียนยางเพื่อจะรับคืนและช่วยเหลือลูกเรือประมงดังกล่าวในฐานะ ผู้ตกทุกข์ได้ยาก เมื่อได้รับมอบตัวจากจังหวัดเกียนยางแล้ว สถานกงสุลใหญ่ฯ จะนำลูกเรือ ดังกล่าวไปยังนครโฮจิมินห์และออกหนังสือรับรอง (C.I.) และจะจัดส่งลูกเรือเดินทางกลับประเทศไทย โดย สายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 681 ซึ่งจะถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 24 ธันวาคม 2541 เวลา 15.50 น. โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ จะสำรองค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน ค่าเสื้อผ้า ค่าอาหารให้ก่อน
5. ในส่วนของลูกเรือกัมพูชา 17 คน สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ติดต่อกับกงสุลใหญ่กัมพูชาเพื่อให้ช่วยรับมอบลูกเรือกัมพูชาทั้ง 17 คนแล้ว โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ จะอำนวยความสะดวกนำส่งมอบให้ที่ชายแดนติดต่อระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา ซึ่งกงสุลใหญ่กัมพูชาก็พร้อมที่จะเดินทางไปรับลูกเรือกัมพูชากลับประเทศในวันนี้ต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--