แท็ก
เครื่องใช้ไฟฟ้า
บทสรุปสำหรับนักลงทุน
อุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ควบคุมแรงดันไฟฟ้าให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทั้งภายในบ้านและในโรงงานต่างๆ ให้ได้รับแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสม ซึ่งส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้าที่ไม่มากหรือน้อยเกินไปและเกิดความประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 15-20% ต่อเดือน ทั้งนี้การติดตั้งอุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้ามีต้นทุนในการซื้ออุปกรณ์ในระยะแรก แต่จะมีจุดคุ้มทุนภายใน 2 ปีของการใช้งานเท่านั้น ดังนั้นในระยะยาวผู้ใช้จะได้รับผลดีในแง่ของการประหยัดค่าไฟฟ้า 15-20% ตลอดไป
ตลาดหลักของอุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้าในปัจจุบัน คือ สถานประกอบการต่างๆ ที่มีการใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมากซึ่งการใช้อุปกรณ์ปรับแรงดันจะทำให้สามารถลดต้นทุนในการผลิตและสามารถแข่งขันในด้านราคาต้นทุนสินค้าได้ ในอนาคตตลาดจะขยายตัวมากขึ้นเข้าไปในระดับผู้ประกอบการขนาด SME เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้สนับสนุนผู้ประกอบการในการลดต้นทุนการผลิตหลายๆ ประการ รวมทั้งส่งเสริมให้ใช้อุปกรณ์ที่สามารถลดการใช้พลังงานและอุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้าก็เป็นสินค้าตัวหนึ่งที่ได้รับการส่งเสริมให้มีการใช้ในโรงงานอุตสาหกรรรมของผู้ประกอบการ SME ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก
อุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้าที่มีจำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบันมีทั้งที่ผลิตได้ภายในประเทศและที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ทั้งนี้ผู้ผลิตในประเทศ 8 ราย โดยเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กมีเงินทุนไม่เกิน 10 ล้านบาท ผลิตสินค้าคุณภาพปานกลางถึงต่ำ ซึ่งราคาจะถูกกว่าสินค้านำเข้าประมาณ 7-8 เท่า ทั้งนี้สินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกรดดี จากญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ส่วนสินค้านำเข้า เกรดล่างจะมาจากประเทศจีน ซึ่งราคาจะถูกกว่าของไทยแต่คุณภาพใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ผู้ผลิตของไทยควรพัฒนาคุณภาพให้สามารถรักษาตลาดในระดับผู้ประกอบการ SME ให้ได้ และยกระดับการผลิตสินค้าเกรดดี เพื่อให้ทดแทนการนำเข้าให้ได้ โดยวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต เช่น IC, PCB, หม้อแปลง สามารถหาได้จากแหล่งวัตถุดิบในประเทศทั้งสิ้น ส่วนเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการทดสอบคุณภาพ เช่น Oscilloscope, Analysis meter, EMC test สามารถซื้อได้จากผู้ขายในประเทศเช่นกัน ส่วนการจำหน่ายนั้นผู้ผลิตสามารถจำหน่ายตรงไปยังโรงงานต่างๆ หรือให้บริษัทตัวแทนจำหน่ายที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้กระจายสินค้าให้ ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะจำหน่ายทั้งสินค้าจากผู้ผลิตในประเทศและสินค้านำเข้า
ด้านการลงทุนนั้น ผู้ประกอบการขนาดเล็กที่มีเงินทุนตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปก็สามารถประกอบกิจการได้ โดยใช้เงินลงทุนด้านสินทรัพย์ถาวรค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 30%) เนื่องจากการผลิตชนิดนี้ ใช้อุปกรณ์เครื่องจักรที่ไม่ซับซ้อน ดังนั้นเงินทุนส่วนใหญ่ประมาณ 70% จะใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งเป็นค่าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาดประมาณ 30% ของค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ณ เงินลงทุนขั้นต้น 2,000,000 บาท โดยทำการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ปรับแรงดัน 600 เครื่อง/ปี มีระดับราคาจำหน่ายเฉลี่ย 4,000 บาท/เครื่อง จะคืนทุนในระยะเวลา 1-2 ปี ณ อายุโครงการ 5 ปี โดยได้รับผลตอบแทนสุทธิเท่ากันตลอดอายุโครงการ จากกำไรสุทธิประมาณ 40%ของรายได้จาก การขาย จะมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน 38.6% ส่วนบุคลากรที่เกี่ยวข้องมีจำนวนน้อย คือ ช่างอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อประกอบกันเป็นอุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้า ทั้งนี้ผู้ผลิตที่สนใจดำเนินการผลิตอุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้าสามารถขอคำแนะนำด้านเทคนิคได้จากฝ่ายปฏิบัติการด้านการใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือสามารถศึกษาได้จากตำราวิชาการต่างๆ ในภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าของมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยการผลิตสินค้าประเภทนี้ปัจจุบันยังไม่ต้องการมาตรฐานใดๆ ประกอบตัวสินค้าจึงมีความสะดวกในการผลิตของผู้ประกอบการขนาดเล็ก
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
อุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ควบคุมแรงดันไฟฟ้าให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทั้งภายในบ้านและในโรงงานต่างๆ ให้ได้รับแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสม ซึ่งส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้าที่ไม่มากหรือน้อยเกินไปและเกิดความประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 15-20% ต่อเดือน ทั้งนี้การติดตั้งอุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้ามีต้นทุนในการซื้ออุปกรณ์ในระยะแรก แต่จะมีจุดคุ้มทุนภายใน 2 ปีของการใช้งานเท่านั้น ดังนั้นในระยะยาวผู้ใช้จะได้รับผลดีในแง่ของการประหยัดค่าไฟฟ้า 15-20% ตลอดไป
ตลาดหลักของอุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้าในปัจจุบัน คือ สถานประกอบการต่างๆ ที่มีการใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมากซึ่งการใช้อุปกรณ์ปรับแรงดันจะทำให้สามารถลดต้นทุนในการผลิตและสามารถแข่งขันในด้านราคาต้นทุนสินค้าได้ ในอนาคตตลาดจะขยายตัวมากขึ้นเข้าไปในระดับผู้ประกอบการขนาด SME เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้สนับสนุนผู้ประกอบการในการลดต้นทุนการผลิตหลายๆ ประการ รวมทั้งส่งเสริมให้ใช้อุปกรณ์ที่สามารถลดการใช้พลังงานและอุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้าก็เป็นสินค้าตัวหนึ่งที่ได้รับการส่งเสริมให้มีการใช้ในโรงงานอุตสาหกรรรมของผู้ประกอบการ SME ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก
อุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้าที่มีจำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบันมีทั้งที่ผลิตได้ภายในประเทศและที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ทั้งนี้ผู้ผลิตในประเทศ 8 ราย โดยเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กมีเงินทุนไม่เกิน 10 ล้านบาท ผลิตสินค้าคุณภาพปานกลางถึงต่ำ ซึ่งราคาจะถูกกว่าสินค้านำเข้าประมาณ 7-8 เท่า ทั้งนี้สินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกรดดี จากญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ส่วนสินค้านำเข้า เกรดล่างจะมาจากประเทศจีน ซึ่งราคาจะถูกกว่าของไทยแต่คุณภาพใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ผู้ผลิตของไทยควรพัฒนาคุณภาพให้สามารถรักษาตลาดในระดับผู้ประกอบการ SME ให้ได้ และยกระดับการผลิตสินค้าเกรดดี เพื่อให้ทดแทนการนำเข้าให้ได้ โดยวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต เช่น IC, PCB, หม้อแปลง สามารถหาได้จากแหล่งวัตถุดิบในประเทศทั้งสิ้น ส่วนเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการทดสอบคุณภาพ เช่น Oscilloscope, Analysis meter, EMC test สามารถซื้อได้จากผู้ขายในประเทศเช่นกัน ส่วนการจำหน่ายนั้นผู้ผลิตสามารถจำหน่ายตรงไปยังโรงงานต่างๆ หรือให้บริษัทตัวแทนจำหน่ายที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้กระจายสินค้าให้ ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะจำหน่ายทั้งสินค้าจากผู้ผลิตในประเทศและสินค้านำเข้า
ด้านการลงทุนนั้น ผู้ประกอบการขนาดเล็กที่มีเงินทุนตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปก็สามารถประกอบกิจการได้ โดยใช้เงินลงทุนด้านสินทรัพย์ถาวรค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 30%) เนื่องจากการผลิตชนิดนี้ ใช้อุปกรณ์เครื่องจักรที่ไม่ซับซ้อน ดังนั้นเงินทุนส่วนใหญ่ประมาณ 70% จะใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งเป็นค่าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาดประมาณ 30% ของค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ณ เงินลงทุนขั้นต้น 2,000,000 บาท โดยทำการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ปรับแรงดัน 600 เครื่อง/ปี มีระดับราคาจำหน่ายเฉลี่ย 4,000 บาท/เครื่อง จะคืนทุนในระยะเวลา 1-2 ปี ณ อายุโครงการ 5 ปี โดยได้รับผลตอบแทนสุทธิเท่ากันตลอดอายุโครงการ จากกำไรสุทธิประมาณ 40%ของรายได้จาก การขาย จะมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน 38.6% ส่วนบุคลากรที่เกี่ยวข้องมีจำนวนน้อย คือ ช่างอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อประกอบกันเป็นอุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้า ทั้งนี้ผู้ผลิตที่สนใจดำเนินการผลิตอุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้าสามารถขอคำแนะนำด้านเทคนิคได้จากฝ่ายปฏิบัติการด้านการใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือสามารถศึกษาได้จากตำราวิชาการต่างๆ ในภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าของมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยการผลิตสินค้าประเภทนี้ปัจจุบันยังไม่ต้องการมาตรฐานใดๆ ประกอบตัวสินค้าจึงมีความสะดวกในการผลิตของผู้ประกอบการขนาดเล็ก
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--