การปรับปรุงประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องการใช้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) ในการประกอบธุรกิจของธนาคารพาณิชย์
ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ปรับปรุงประกาศ เรื่อง การใช้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) ในการประกอบธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ โดยยกเลิกประกาศฉบับ ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2542 และออกประกาศฉบับใหม่ ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2543 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายขอบเขต การใช้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) ในการประกอบธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ ให้สามารถ รองรับการให้บริการธุรกรรมผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) ซึ่งรวมทั้งธุรกรรมการธนาคารพาณิชย์และธุรกรรมที่เกี่ยวกับการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce) ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตอันใกล้
สาระสำคัญของประกาศฉบับดังกล่าวคือ
1. ขยายประเภทและขอบเขตธุรกรรมที่สามารถให้บริการผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) โดยให้ครอบคลุมธุรกรรมทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยตาม พระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ โดยต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนดำเนินการ และเมื่อธนาคารพาณิชย์ได้รับอนุญาตให้ใช้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) ในการประกอบธุรกิจแล้ว สามารถใช้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) ในการประกอบ ธุรกรรมอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตเป็นการเพิ่มเติมได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใช้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet)ในการประกอบธุรกิจอีก แต่ต้องปรับปรุงแผนการรองรับการประกอบธุรกรรมที่ให้บริการ เพิ่มเติมด้วย
2. ในการเชื่อมโยง Web Site ของธนาคารพาณิชย์กับธุรกิจอื่น ให้ธนาคารพาณิชย์สามารถแสดงเครื่องหมายการค้า (Logo) หรือข้อความของธุรกิจอื่นบน Web Site เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าผู้ใช้บริการ (ผู้ซื้อ) ทราบว่ามีธุรกิจอื่น(ผู้ขาย) ใดที่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารพาณิชย์ได้ หรือเพื่อเป็นช่องทางให้ลูกค้าเลือกเข้า Web Site ของธุรกิจอื่นได้ โดยต้องไม่เป็นการแสดงเครื่องหมายการค้า (Logo) หรือข้อความของธุรกิจอื่นเพื่อการโฆษณา หรือชี้ชวนการขายในลักษณะเชิงรุก (Proactive Selling) ตามเงื่อนไข ดังนี้
2.1 ไม่ให้แสดงเครื่องหมายการค้า (Logo) หรือข้อความของธุรกิจอื่นบนหน้าจอภาพแรกซึ่งเป็นหน้าจอภาพหลักของ Web Site ของธนาคารพาณิชย์
2.2 ไม่ให้มีรายได้จากการแสดงเครื่องหมายการค้า (Logo) หรือข้อความของธุรกิจอื่นดังกล่าว ซึ่งเสมือนเป็นการโฆษณาให้ธุรกิจอื่น
2.3 ไม่ให้กระทำการใดๆในลักษณะที่เป็นการโฆษณาหรือชี้ชวนให้ลูกค้าเข้าไปใช้บริการใน Web Site ของธุรกิจอื่นที่ธนาคารพาณิชย์มีการเชื่อมโยง เช่น การส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) หรือโทรสารไปยังผู้บริโภคโดยตรง การแสดงข้อมูลของสินค้าหรือบริการของธุรกิจอื่น เช่น รูปภาพ สัญญลักษณ์ เครื่องหมาย หรือข้อความ เพื่อแสดง ชื่อ รหัส ลักษณะ ราคา คำอธิบายหรือสรรพคุณของสินค้าหรือบริการของธุรกิจอื่น เป็นต้น
3. เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาหรือกรณีพิพาทที่อาจเกิดจากขั้นตอนการตกลงซื้อขายสินค้าหรือบริการของธุรกิจอื่น ระหว่างลูกค้าผู้ใช้บริการ (ผู้ซื้อ) และธุรกิจอื่น (ผู้ขาย) จึงกำหนดไม่ให้ขั้นตอนการซื้อขายสินค้าหรือบริการของธุรกิจอื่นกระทำที่ Web Site ของธนาคารพาณิชย์
4. ในการคิดค่าธรรมเนียมการให้บริการผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) จากลูกค้าผู้ใช้บริการและธุรกิจอื่น ธนาคารพาณิชย์ต้องจัดให้เป็นไปตามกลไกตลาดเพื่อให้เกิดการแข่งขัน และต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมต่อลูกค้าผู้ใช้บริการ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/15 พฤศจิกายน 2543--
-ยก-
ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ปรับปรุงประกาศ เรื่อง การใช้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) ในการประกอบธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ โดยยกเลิกประกาศฉบับ ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2542 และออกประกาศฉบับใหม่ ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2543 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายขอบเขต การใช้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) ในการประกอบธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ ให้สามารถ รองรับการให้บริการธุรกรรมผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) ซึ่งรวมทั้งธุรกรรมการธนาคารพาณิชย์และธุรกรรมที่เกี่ยวกับการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce) ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตอันใกล้
สาระสำคัญของประกาศฉบับดังกล่าวคือ
1. ขยายประเภทและขอบเขตธุรกรรมที่สามารถให้บริการผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) โดยให้ครอบคลุมธุรกรรมทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยตาม พระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ โดยต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนดำเนินการ และเมื่อธนาคารพาณิชย์ได้รับอนุญาตให้ใช้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) ในการประกอบธุรกิจแล้ว สามารถใช้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) ในการประกอบ ธุรกรรมอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตเป็นการเพิ่มเติมได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใช้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet)ในการประกอบธุรกิจอีก แต่ต้องปรับปรุงแผนการรองรับการประกอบธุรกรรมที่ให้บริการ เพิ่มเติมด้วย
2. ในการเชื่อมโยง Web Site ของธนาคารพาณิชย์กับธุรกิจอื่น ให้ธนาคารพาณิชย์สามารถแสดงเครื่องหมายการค้า (Logo) หรือข้อความของธุรกิจอื่นบน Web Site เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าผู้ใช้บริการ (ผู้ซื้อ) ทราบว่ามีธุรกิจอื่น(ผู้ขาย) ใดที่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารพาณิชย์ได้ หรือเพื่อเป็นช่องทางให้ลูกค้าเลือกเข้า Web Site ของธุรกิจอื่นได้ โดยต้องไม่เป็นการแสดงเครื่องหมายการค้า (Logo) หรือข้อความของธุรกิจอื่นเพื่อการโฆษณา หรือชี้ชวนการขายในลักษณะเชิงรุก (Proactive Selling) ตามเงื่อนไข ดังนี้
2.1 ไม่ให้แสดงเครื่องหมายการค้า (Logo) หรือข้อความของธุรกิจอื่นบนหน้าจอภาพแรกซึ่งเป็นหน้าจอภาพหลักของ Web Site ของธนาคารพาณิชย์
2.2 ไม่ให้มีรายได้จากการแสดงเครื่องหมายการค้า (Logo) หรือข้อความของธุรกิจอื่นดังกล่าว ซึ่งเสมือนเป็นการโฆษณาให้ธุรกิจอื่น
2.3 ไม่ให้กระทำการใดๆในลักษณะที่เป็นการโฆษณาหรือชี้ชวนให้ลูกค้าเข้าไปใช้บริการใน Web Site ของธุรกิจอื่นที่ธนาคารพาณิชย์มีการเชื่อมโยง เช่น การส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) หรือโทรสารไปยังผู้บริโภคโดยตรง การแสดงข้อมูลของสินค้าหรือบริการของธุรกิจอื่น เช่น รูปภาพ สัญญลักษณ์ เครื่องหมาย หรือข้อความ เพื่อแสดง ชื่อ รหัส ลักษณะ ราคา คำอธิบายหรือสรรพคุณของสินค้าหรือบริการของธุรกิจอื่น เป็นต้น
3. เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาหรือกรณีพิพาทที่อาจเกิดจากขั้นตอนการตกลงซื้อขายสินค้าหรือบริการของธุรกิจอื่น ระหว่างลูกค้าผู้ใช้บริการ (ผู้ซื้อ) และธุรกิจอื่น (ผู้ขาย) จึงกำหนดไม่ให้ขั้นตอนการซื้อขายสินค้าหรือบริการของธุรกิจอื่นกระทำที่ Web Site ของธนาคารพาณิชย์
4. ในการคิดค่าธรรมเนียมการให้บริการผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) จากลูกค้าผู้ใช้บริการและธุรกิจอื่น ธนาคารพาณิชย์ต้องจัดให้เป็นไปตามกลไกตลาดเพื่อให้เกิดการแข่งขัน และต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมต่อลูกค้าผู้ใช้บริการ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/15 พฤศจิกายน 2543--
-ยก-