คำต่อคำ:: นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 'นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ' รมว.คมนาคม กรณีการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด CTX9000::

ข่าวการเมือง Monday June 27, 2005 11:27 —พรรคประชาธิปัตย์

          ท่านประธานที่เคารพ  กระผมอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  พรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร  กระผมและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้าน  ขอเสนอญัญติ ขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้บริหารราชการแผ่นดิน จนเกิดความผิดพลาดอย่างร้ายแรง  เป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง เกียรติภูมิของประเทศชาติ  ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศไทยในสายตาชาวโลก  และกระทบต่อความเชื่อมั่นในการในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศโดยรวม   กล่าวคือนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  ในฐานะผู้บริหารสูงสุดของกระทรวงคมนาคม  และรับผิดชอบโครงการสุวรรณภูมิ  ได้ประพฤติ ปฏิบัติ บกพร่องต่อหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ดังต่อไปนี้
1.บริการโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ บกพร่องผิดพลาดจนเกิดการทุจริต ในโครงการระบบสายพานและระบบตรวจวัตถุระเบิด
2. เมื่อมีการเปิดเผยข่าวการทุจริตดังกล่าว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กลับละเลยไม่ใส่ใจดำเนินการให้เกิดการตรวจสอบ เพื่อให้ได้ผู้กระทำความผิด และยังล้มเหลว ในการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา
3. นอกจากความผิดพลาดข้างต้นแล้ว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการระทรวงคมนาคม ยังมีพฤติกรรมปกป้องการกระทำที่ผิดพลาดของตนเอง และพวกพ้อง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการตรวจสอบตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุจากการบริหารราชการแผ่นดินของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในกรณีดังกล่าว หากปล่อยให้มีการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ และประชาชนอย่างร้ายแรง และกระทบต่อนโยบายการปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลอย่างยิ่ง
ท่านประธานที่เคารพครับ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเกิดขึ้นวันนี้ถือเป็นการทำหน้าที่ของตัวแทนของประชาชน ซึ่งจะต้องติดตามตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล แต่กระผมกราบเรียนท่านประธานในเบื้องต้นว่า การอภิปรายครั้งนี้ค่อนข้างจะพิเศษซักนิดหนึ่ง ครั้งนี้ไม่มีเสียงค่อนขอดจากท่านนายกฯ ว่าเป็นการอภิปรายตามฤดูกาล เพราะครั้งนี้ ก็ค่อนข้างผิดปกติจริงๆ ถ้าท่านประธานไปตรวจสอบดูว่า เมื่อใดที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้าน ส่วนใหญ่แล้วเราจะไม่เปิดอภิปรายในสมัยประชุมแรก เพราะเราถือว่ารัฐบาลพึ่งเข้ามาทำหน้าที่และเราก็เชื่อว่าความผิดพลาดในการบริหารราชการ คงไม่เกิดขึ้นรุนแรงถึงขั้นที่ต้องใช้มาตรการ ที่แรงที่สุดในรัฐธรรมนูญ คือการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ครั้งนี้เป็นข้อยกเว้น ที่ต้องเป็นข้อยกเว้นเพราะว่า เหตุปัญหาที่เกิดขึ้นในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่โด่งดังไปทั่งโลกกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศเป็นอย่างมาก และเรื่องนี้ก็ได้ติดตามตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน ข้อเท็จจริงต่างๆแล้ว กราบเรียนท่านประธานว่าบ่งบอกชัดเจนถึงปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้น ซึ่งถ้าฝ่ายค้านไม่ดำเนินการ และถ้าจากนี้รัฐบาลไม่ดำเนินการต่อไป เราคงหวังอะไรไม่ได้ จากนโยบายป้องกันและปรามราบการทุจริต
ท่านประธานครับ จึงเป็นการอภิปรายรัฐมนตรีเพียงท่านเดียว และเรื่องเดียว กราบเรียนท่านประธาน ผ่านไปยังท่านรัฐมนตรีด้วยว่า เราพูดเฉพาะเรื่องนี้จริงๆครับ เรื่องอื่นจะมีอะไรอีกก็ตาม แต่วันนี้เราจะชี้ให้เห็นชัดๆว่าเกิดปัญหาขึ้นในโครงการนี้ ในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างเกี่ยวข้องกับเครื่องตรวจวัตถุระเบิด และกระผมกราบเรียนว่าก่อนที่พวกกระผมจะมีโอกาสทำหน้าที่ในวันนี้ ผมได้ฟังเสียงตอบโต้ สบประมาทมากมายว่าจะเป็นเรื่องของสำนวนโวหาร จะเป็นเรื่องของการเอาข้อมูลเก่าๆมา อีกไม่กี่ชั่วโมงจากนี้ไปจะเป็นข้อพิสูจน์ เป็นอย่างนั้นหรือไม่ แต่ขอกราบเรียนก่อนว่าพวกกระผมทำงานบนพื้นฐานของข้อมูล และท่านไม่ต้องห่วงเลยครับ ท่านลุกขึ้นมาชี้แจง ท่านบอกว่าท่านพูดไม่เก่งท่านว่าอย่างนั้น กระผมกราบเรียนว่าพวกกระผมไม่ถือสาหรอกครับถ้าท่นจะพูดจาตะกุกตะกัก หรือไม่ชัด แต่กระผมขอให้ท่านพูดความจริง และขอให้ท่านตอบตรงประเด็น และสำคัญที่สุดข้อมูลการชี้แจงทั้งหลาย ขอให้ท่านนำเสนออย่างมี หิริ โอตะปะ มีความรู้สึกละอายต่อสิ่งที่เป็นความผิดทั้งหลายที่เกิดขึ้น
ท่านประธานที่เคารพครับผมให้ความมั่นใจกับท่านประธานในเบื้องต้นว่าการอภิปรายของพวกกระผม จะอยู่บนพื้นฐานข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ ที่ได้ไปเสาะแสวงหามา และเราจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและตามข้อบังคับอย่างเคร่งครัดทุกประการ ผมอยากให้กระบวนการการทำหน้าที่ ของทั้ง 2 ฝ่ายในวันนี้เป็นกระบวนการที่สร้างสรร ที่ทำให้ประชาชน เห็นคุณค่าของวิถีทางในระบบรัฐสภา ผมหวังว่าจะไม่มีการใช้ระบบการเมืองเก่าๆ ระบบน้ำเน่า หรือระบบอะไรที่ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของพวกเราวันนี้ไม่เป็นไปตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ
ท่านประธานครับ ผมขออนุญาตว่าในการอภิปรายของพวกกระผมในเบื้องต้นจำเป็นจะต้องใช้เอกสาร ในบ้างช่วงบางขณะก็จำเป็นจะต้องอ่านเอกสาร และขณะเดียวกันจะขอใช้สื่อคอมพิวเตอร์ ในการให้ท่านสมาชิกทั้งหลายและประชาชนทางบ้านมองเห็นเอกสารให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ท่านประธานครับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดซื้ออุปกรณ์ตรวจวัตถุระเบิด CTX 9000 เป็นเรื่องที่ถูกเปิดโปงขึ้นมา ครั้งแรกไม่ใช่ในประเทศไทย เกิดขึ้นที่ สหรัฐฯอเมริกา เหตุผลที่เรื่องนี้ไปโด่งดังในสหรัฐฯ ก็เพราะว่าบริษัทั้ผลิตและขายอุปกรณ์ชิ้นนี้ คือบริษัทอินวิชั้น เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในสหรัฐ บังเอิญในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทนี้ จะมีการดำเนินการควบรวมกิจการกับบริษัทจีอี ในช่วงที่มีการควบรวมกิจการ ในช่วงที่มีการตรวจสอบทางบัญชีทั้งหมด ก็ได้เกิดการร้องเรียนขึ้นมาเป็นข้อเท็จจริงขึ้นมาว่าบริษัทอินวิชั่นนั้นได้กระทำการละเมิดหรือฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการทุจริตในต่างประเทศ จากการการร้องเรียนว่ามีการทำละเมิดกฎหมายฉบับนั้น ก็นำไปสู่การตรวจสอบภายในของบริษัท และนำไปสู่การสืบสวน สอบสวน ของหน่วยงานของ สหรัฐฯ 2 หน่วยงาน คือกระทรวงยุติธรรม และกลต. จนกระทั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว ทางกระทรวงยุติธรรมจึงได้มีข้อยุติกับบริษัทเกี่ยวกับคดีนี้ ซึ่งกระผมจะได้กราบเรียนต่อไป และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาก็มีข้อยุติที่เกิดขึ้นกับ กลต. เช่นเดียวกัน ข้อยุติในทางคดีที่ว่านี้ผมขอกราบเรียนในเบื้องต้นว่านำไปสู่การปรับหรือการลงโทษ ซึ่งหมายถึงว่าได้เกิดการกระทำความผิด ตามกฎหมายของสหรัฐฯ จึงเป็นเหตุให้เราต้องมาติดตามว่าความผิดที่เกิดขึ้น มาเกี่ยวข้องกับคนของเราหรือไม่
ท่านประธานครับกฎหมายว่าด้วยการทุจริตในต่างประเทศของสหรัฐฯเขาบัญญัติขึ้นมาก็เพราะว่า เขาต้องการให้ระบบเศรษฐกิจของเขาเป็นระบบที่โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และเขารู้ว่าบริษัทของเขาต้องทำธุรกิจไปทั่วโลก สิ่งใดๆที่เขาไม่ยอมรับที่เกิดในประเทศของเขาในแง่ทุจริต เช่นการติดสินบน การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมในลักษณะของการไปเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เขาก็ไม่ต้องการให้บริษัทของเขานั้นมาทำสิ่งนั้นในต่างประเทศ เพราะฉะนั้นความผิดที่เกิดขึ้นครั้งนี้มันจึงเป็นเรื่องของความผิดที่เกิดขึ้นในเรื่องของการทุจริตจริงๆ และกระผมเชื่อว่าตั้งแต่เรื่องนี้เป็นข่าวคราวมา เมื่อเดือน ก.พ. มี.ค. เม.ย. ในปีนี้ พี่น้องประชาชนคนไทย แม้กระทั่งท่านประธานเองก็ได้เห็นเอกสารหลายฉบับ ทั้งที่เป็นเอกสารการแถลงข่าว แม้กระทั่งเอกสารที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการในศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ กลต.ดำเนินการ
แต่มันมีเอกสารอยู่ฉบับหนึ่งครับ ท่านประธานครับ ซึ่งผมถือว่าเป็นหัวใจของเรื่องนี้ เป็นเอกสารซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่ได้มีการเผยแพร่ต่อสาธารณชนในประเทศไทย แม้ว่าจริงๆไม่ใช่เป็นเอกสารลับ เอกสารฉบับนี้ผมถือว่าเป็นเอกสารสำคัญที่สุดที่เราจะใช้ในการตรวจสอบว่าเรื่องนี้มีการทุจริตหรือไม่
เอกสารที่ว่าคือข้อตกลงระหว่างกระทรวงยุติธรรมกับบ.อินวิชั่น และกับ บ.จีอี ซึ่งได้ทำการตกลงกันเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ช่วงปลายปี เป็นเอกสารที่กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐทำข้อตกลงกับบริษัท โดยมีเงื่อนไขจากทั้ง 2 ฝ่าย ในฝ่ายของกระทรวงยุติธรรมก็คือ ภายใต้ข้อตกลงนี้ก็จะไม่ดำเนินคดีกับ บ.อินวิชั่น หรือ บ.จีอี แต่อาจจะมีการดำเนินคดีเมื่อใดก็ได้ในช่วง 1 ปี หรือ 2 ปี หลังจากข้อตกลงนี้ใช้บังคับ ถ้าหากว่าฝ่ายบริษัทละเมิดข้อตกลง ขณะเดียวกันแม้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐจะไม่ดำเนินคดีกับทางบริษัท ก็ยังมีสิทธิที่จะดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง จะเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัท หรือเป็นใครก็ตามที่มีส่วนในการละเมิดกฎหมาย
เอกสารฉบับนี้แบ่งเป็น 3 ส่วนครับ ท่านประธานครับ มีจดหมายนำ มีเป็นข้อตกลง และที่สำคัญคือมีภาคผนวก กระผมขออนุญาตที่จะหยิบข้อความบางตอนเพื่อแสดงให้เห็นว่าเอกสารฉบับบนี้นั้นมีความสำคัญอย่างไร
ในส่วนของจดหมายนำนั้น เขาเขียนไว้ชัดเจนครับว่า ข้อตกลงนี้มีผลทำให้กระทรวงยุติธรรมนั้น ตกลงที่จะไม่ดำเนินคดีกับ บ.อินวิชั่นภายใต้กฎหมายการทุจริตในต่างประเทศ ทั้งที่มีพฤติกรรมซึ่งถือได้ว่าเป็นการละเมิดกฎหมายดังกล่าว โดยพฤติกรรมเหล่านั้นเกิดขึ้นในประเทศไทย ประเทศจีน และฟิลิปปินส์ ซึ่งจะมีรายละเอียดอยู่ในภาคผนวก ในข้อตกลงนี้ยังมีการระบุต่อไปว่า บ.จีอี ยอมรับข้อเท็จจริงทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในภาคผนวก นั่นคือบรรดาข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในภาคผนวกนั้นจะไม่มีการโต้แย้งจากบริษัท และตกลงด้วยว่าจีอีจะไม่เสนอข้อมูลอะไรต่อสาธารณะที่เป็นการขัดกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ในภาคผนวกที่ได้แนบมา ข้อตกลงนี้เมื่อเราไปดูเอกสารข้อตกลงจริง ก็จะลงไปในรายละเอียดมากขึ้น ได้บอกว่ามีการบรรยายถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้นใน 3 ประเทศ แยกจากกันนะครับ
ฉะนั้นใครที่เคยเข้าใจว่าเอกสารสหรัฐบอกมีการทุจริตพูดรวมๆ 3 ประเทศ ไม่ใช่ครับ เขาแยกเป็นแต่ละประเทศว่า ในแต่ละประเทศมีพฤติกรรมอย่างไร และเขาก็บอกว่าโดยสรุปกระทรวงยุติธรรมเชื่อว่า บ.อินวิชั่น โดยการดำเนินงานของพนักงาน ของตัวแทน หรือผู้จัดการจำหน่าย ได้ใช้วิธีการอันเป็นการทุจริตในการเสนอ ในการสัญญาที่จะจ่ายเงิน หรือสิ่งอื่นใดที่มีมูลค่า แก่เจ้าหน้าที่ในต่างประเทศ เพื่อที่จะประกอบธุรกิจ หรือได้ธุรกิจในประเทศไทย จีน และฟิลิปปินส์ และภายใต้ข้อตกลงนี้ก็ไปผูกมัดเลยครับว่า สำหรับกรณีของประเทศไทยนั้น ถ้าบริษัทยังจะขายอุปกรณ์หรือสินค้าตัวนี้ให้กับประเทศไทยนั้น จะต้องขายตรงเท่านั้น ไม่มีการขายผ่านตัวแทน เหตุผลก็จะปรากฏชัดเจนว่าอะไร เมื่อเราได้เข้าไปดูในภาคผนวก
สิ่งที่ผมอยากจะกราบเรียนย้ำก็คือว่า ในข้อตกลงนี้ไม่ใช่เรื่องทำเล่นๆนะครับ กว่าจะมาสรุปเป็นข้อตกลงนี้ เขาก็มีการสืบสวน สอบสวน หาข้อเท็จจริงพฤติกรรมต่างๆ และสถานะของเอกสารชุดนี้ ไม่ใช่แค่ว่าตกลงแล้ว แล้วกันไป ในเอกสารฉบับนี้ยังเขียนต่อไปครับว่า ถ้าเมื่อใดก็ตามบริษัทละเมิดข้อตกลงนี้ ให้ถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ในภาคผนวกนั้น เป็นคำสารภาพที่ผูกมัดบริษัทในการดำเนินคดีต่อไป ท่านประธานต้องเข้าใจนะครับ นั่นหมายความว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ในข้อตกลงนี้ ภาคผนวกนี้ ผ่านกระบวนการการกลั่นกรอง สืบสวน สอบสวนมาดีเพียงพอที่บริษัทจะไม่โต้แย้ง และถ้าหากช่วงที่มีการทำข้อตกลงนี้ บริษัทละเมิดข้อตกลง เขาจะถือว่าเป็นคำสารภาพที่ผูกมัดในการดำเนินคดีต่อไปเรื่อยๆ ไม่เรียกว่าเป็นข้อตกลงที่มาจากการสอบสวนเบื้องต้นอะไรล่ะครับ พูดง่ายๆข้อตกลงนี้เหมือนกับว่าบริษัทสารภาพเพื่อขอลดหย่อนผ่อนโทษ จึงนำไปสู่การปรับ เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจึงต้องไปดูว่าในภาคผนวก เขาบรรยายว่าอะไรเกิดขึ้นในประเทศไทย
ผมขออนุญาตใช้เวลาตรงนี้สักนิดครับท่านประธานครับ ในการที่จะอ่านหรือแปลเอกสารที่เป็นภาคผนวก A และบรรยาย กระผมกราบเรียนว่า ผมจะแปลอย่างเคร่งครัด และเมื่อผมพูดถึงบริษัท หรือตัวบุคคล แล้วปรากฏเป็นอักษรย่อ ไม่ใช่กระผมทำเอง ภาคผนวกอันนี้เขาใช้อักษรย่อ เพราะเป็นเอกสารที่ลงลึกไปถึงตัวบุคคล และเป็นเอกสารสาธารณะ ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาการฟ้องร้องครับ ส่วนวิธีที่จะเอาชื่อของคนที่มีตัวย่อในนี้ ทำอย่างไร กระผมจะกราบเรียบท่านประธานต่อไป เขาบรรยายไว้อย่างนี้ครับ ท่านประธานครับ
กรณีของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2539 รัฐบาลไทยได้เริ่มต้นในการวางแผน เพื่อก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ในกรุงเทพ เพื่อการนี้รัฐบาลไทยได้ตั้งบริษัทขึ้นมาบริษัทหนึ่ง เรียกว่า บริษัท A ซึ่งมีหน้าที่ในการที่จะทำสัญญาต่างๆเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างสนามบินนี้ บริษัท A มีรัฐบาลไทยเป็นผู้ควบคุมและเป็นเจ้าของ ในปี พ.ศ. 2545 หรือ 2546 บริษัท Aได้ว่าจ้างผู้รับเหมาใหญ่ A เพื่อก่อสร้างอาคารที่พักอากาศยาน และอาคารที่พักผู้โดยสาร ผู้รับเหมาใหญ่ A ได้ทำการว่าจ้างช่วงในเรื่องของการออกแบบ ผลิต จัดหา ติดตั้ง ทดสอบ และการทำงานของระบบการตรวจสอบกระเป๋าสำหรับอาคาร ระบบนี้จะรวมไปถึงการตรวจวัตถุระเบิดในระบบของการตรวจกระเป๋าทั้งหมด
ผู้รับเหมาช่วง A โดยการคาดคะเนว่าจะได้รับการว่าจ้างตรงนี้ ได้ทำสัญญา ในช่วงประมาณเดือน พ.ศ. 2536 และต่อมาได้มีการแก้ไขสัญญาในปี พ.ศ.2546 แก้ไขในปี 2547 กับ บ.อินวิชั่น โดยผู้รับเหมาช่วง A จะได้รับการแต่งตั้งจากอินวิชั่นให้เป้นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบการตรวจสอบกระเป๋า ประมาณเดือน มี.ค. 2547 ผู้รับเหมาใหญ่ A ก็ได้ทำสัญญากับผู้รับเหมาช่วง A สำหรับการดำเนินงานระบบตรวจสอบกระเป๋านี้ และเดือน เม.ย. 2547 ผู้รับเหมาช่วง A ก็จึงทำสัญญากับบ.อินวิชั่น ในการซื้อ จัดส่ง ติดตั้ง ทดสอบ และการทำงานของอุปกรณ์ตรวจสอบกระเป๋า 26 เครื่อง รวมทั้งบริการที่เกี่ยวข้อง โดยมีราคาที่คิดประมาณ 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเจรจาในสัญญานี้สำหรับอินวิชั่น คือผู้บริหาร A และผู้จัดการ A ส่วนผู้รับเหมาช่วง A มีผู้เจรจา คือประธานและเจ้าของบริษัทคือตัวแทน A ตั้งนี้สำคัญต่อจากนี้ไป มีหลักฐานที่เพียงพอและเชื่อถือได้ว่าอินวิชั่นโดยผู้บริหาร A และผู้จัดการ A ได้รู้ว่ามีโอกาสสูงมากว่าจะมีการใช้เงินเพื่อเสนอหรือสัญญาว่าจะให้ ซึ่งกระทำโดยตัวแทน A ไปยังเจ้าหน้าที่โดยอาศัยส่วนต่างของราคาที่ซื้อจากอินวิชั่น และที่ไปขายต่อ ตามสัญญาที่เกิดขึ้นเป็นช่วง ๆ ผู้บริหาร A มิได้ดำเนินการใด ๆ เมื่อได้ล่วงรู้ถึงข้อมูลนี้ จึงเสมือนกับเห็นชอบที่จะให้ตัวแทน A ซึ่งตั้งใจที่จะใช้ส่วนต่างของราคานั้นไปจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้าที่ ย่อหน้าสุดท้ายดังนั้นจึงมีหลักฐานที่เพียงพอ และเชื่อถือได้ เริ่มต้นประมาณเดือนมกราคม 2546 ถึงประมาณเดือนมกราคม 2547 ว่าอินวิชั่นโดยการกระทำของผู้บริหาร A และผู้จัดการ A ได้ใช้จดหมายและเครื่องมือการสื่อสารทางการค้าข้ามอาณาเขตอื่น ๆ เช่น อีเมล์ และโทรศัพท์ โดยทุจริตเพื่อที่จะให้เกิดการนำเสนอหรือสัญญาว่าจะเสนอโดยตัวแทนเอในการจ่ายเงินหรือสิ่งของที่มีมูลค่าให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทย
และ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า AND พรรคการเมืองพรรคหนึ่งในประเทศไทย (หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมืองนั้น) ชัดเจนนะครับ ข้อเท็จจริงทั้งหมดไม่ได้เหมาร่วม 2 — 3 ประเทศอย่างที่พูดกัน ไม่ได้บอกหรือ บอกว่าจ่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทย และพรรคการเมืองไทย เพื่อที่จะก่อให้เกิดอิทธิพลต่อการกระทำหรือการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งหน้าที่เพื่อที่จะกระทำหรือละเว้นการกระทำ ซึ่งเป็นการทุจริตต่อหน้าที่เพื่อให้ได้รับความได้เปรียบโดยมิชอบ เพื่อจูงใจเจ้าหน้าที่ที่มีอิทธิพลต่อรัฐบาลไทยในการที่จะช่วยให้อินวิชั่นได้รับหรือคงไว้ซึ่งธุรกิจในประเทศไทย
ท่านประธานที่เคารพครับ เอกสารฉบับนี้รัฐบาลทราบดีว่ามีอยู่ แต่รัฐบาลไม่เคยเอาเอกสารนี้ออกมาเผยแพร่หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบต่อไปว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพื่อที่จะเอาคนที่กระทำผิดมาลงโทษ และกระผมกราบเรียนว่าเอกสารฉบับนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ และป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนต่อชื่อเสียงของประเทศของเรา และได้บ่งชี้ถึงความไม่ปกติของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเราอย่างมาก ผมไม่เสียเวลาของท่านประธานของสภามาก แต่ผมบอกสั้น ๆ ว่าผมได้เอกสารนี้มาจากเว็บไซต์เนติบัณฑิตยสภาของสหรัฐอเมริกาที่มันน่าอายคืออะไรครับ เอกสารนี้คือเอกสารประกอบหลักสูตรการอบรมเกี่ยวกับกฎหมายการทุจริตในต่างประเทศภาษาอังกฤษคือคอสแมคทีเรียว ใครเข้าอบรมวันนี้เขาแจกจ่ายเอกสารนี้ให้เป็นกรณีศึกษา
และในการอบรมนี้มีการอภิปรายผ่านทางเว็บไซต์เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง โดยผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย CPA ในการบรรยายเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้หยิบยกกรณีของอินวิชั่นและประเทศไทยขึ้นมาพูดเป็นการเฉพาะว่ากรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างที่ซับซ้อนกว่าปัญหาการทุจริตหรือการละเมิดกฎหมายการทุจริตของสหรัฐในอดีต ซับซ้อนกว่าเพราะว่าเขาบอกว่าบริษัทนึกว่าการมาใช้ผู้จัดจำหน่ายมาดำเนินธุรกิจหรือมาทำอะไรผิดสามารถที่จะตัดตอนให้บริษัทของตัวเองพ้นผิดได้ แต่บัดนี้จากข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรม จากคดีที่ยุติในศาลแฝงแคลิฟอร์เนียกรณีของ กลต.นั้นได้ชี้ชัดแล้วว่าวิธีเลี่ยงกฎหมายของบริษัทสหรัฐอย่างนี้ใช้ไม่ได้ทางการสหรัฐไม่ยอม เวลานี้ท่านถึงเปิดเว็บไซต์กฎหมายของสหรัฐอเมริกา กรณีนี้มันจะเป็นกรณีที่โด่งดังมาก เขาบอกเลยว่ากรณีประเทศไทยการทุจริตมันซับซ้อนกว่าที่อื่นไม่เหมือนจีน ไม่เหมือนฟิลิปปินส์ เดี๋ยวผมจะชี้ให้เห็นว่าทำไมไม่เหมือน จึงมีบริษัทกฎหมายที่เขาไปอธิบายเลยบอกว่าในอดีตที่ผ่านมาการติดสินบนที่ทำให้เกิดปัญหากับบริษัทของสหรัฐติดสินบนโดยตรงผิดอยู่แล้ว ต่อมาเลี่ยงไปใช้บริษัทที่ปรึกษา ต่อมาเลี่ยงไปใช้บริษัที่เรียกว่าเอเยนต์หรือตัวแทนก็ถูกอีก ถูกเล่นงาน แต่ครั้งนี้ผู้จัดจำหน่าย ซึ่งแตกต่างจากตัวแทนคือมาซื้ออุปกรณ์ไปแล้วจากบริษัทแล้วไปขายต่อที่เคยนำว่าตัดตอนกันได้ไม่ผิดตามกฎหมายบัดนี้สหรัฐถือว่าเป็นการทุจริต ผมไม่เสียเวลาไปอ่านรายละเอียดแต่ว่ามีเยอะ ผมถึงบอกว่าเรื่องนี้กระทบกระเทือนความเสียหายของประเทศ เมื่อเอกสารเหล่านี้ปรากฏออกไปแล้วและเป็นหลักฐานที่ผ่านกระบวนการของการสืบสวนสอบสวนกลั่นกรองถูกนำไปใช้ได้ในกระบวนการยุติธรรมในสหรัฐ
พวกกระผมก็ต้องมาดูต่อว่ามันมีการทุจริตเกิดขึ้นในโครงการนี้จริงหรือไม่ และเมื่อปรากฏข่าวขึ้นมาท่านรัฐมนตรีหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทำอะไร ผมขอตั้งประเด็นเพื่อพิสูจน์ต่อไปว่าที่เขากล่าวหาว่ามีการทุจริตมันทุจริตจริงๆ คือ
1. ผมจะพาท่านประธานไปดูกระบวนการของการอนุมัติโครงการนี้ว่ามันถูกต้องไหม มันเปิดช่องให้เกิดการทุจริตอย่างที่เขากล่าวหาหรือไม่เมื่อ บทม.คือบริษัทที่รับผิดชอบเรื่องท่าอากาศยานทั้งหมดไปว่าจ้างผู้รับเหมาใหญ่คือ ITO ไปว่าจ้างผู้รับเหมาช่วงคือบริษัท แพทริออต ไปซื้ออุปกรณ์มาจากบริษัท อินวิชั่น โดยผู้รับเหมาช่วงคือบริษัท แพทริออตนั้นผู้ดำเนินการก็คือ คุณวรพจน์ ที่พี่น้องประชาชนรู้จักกันว่าคุณเช และบริษัท อินวิชั่น ก็มีผู้บริหารชื่อ คุณเดวิดพินเลอร์ และผู้จัดการที่ชื่อ นายวี และเขาบอกว่าเอาส่วนต่างราคาอินวิชั่นขายให้ แพทริออต แพทริออตเขาให้ไอทีโอ ไอทีโอมาขายให้พวกเราคือสนามบินมีส่วนต่างราคาเอาเงินไปจ่ายเจ้าหน้าที่รัฐและพรรคการเมืองไทย ผมจะดูว่ากระบวนการอนุมัติโครงการนี้ทำไมต้องทำอย่างนี้ ทำไมต้องซื้อกันสองทอดสามทอด นั่นเป็นประเด็นแรกที่ผมจะชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติที่เป็นความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้น
ประเด็นที่ 2 คือเมื่อเขากล่าวหาว่าสินบนมันออกมาจากส่วนต่างของราคา ผมก็จะพิสูจน์ให้เห็นว่ามันมีการสร้างส่วนต่างของราคาโดยปราศจากเหตุผลจริง ๆ จึงมีจำนวนเงินอยู่สองก้อนที่อาจจะถูกนำไปใช้ในการให้สินบนตามแนวทางที่เขาสรุปในเอกสารที่ผมกราบเรียนท่านประธานไป
ประการที่ 3 ที่ผมจะพิสูจน์ให้เห็นคือว่าการที่สหรัฐเขายอมตกลงกับบริษัทอินวิชั่น และบริษัท จีอี เหตุผลหนึ่งที่เขาไม่ดำเนินคดี เพราะเขานึกว่าเมื่อเขาทำมาถึงขั้นนี้แล้วเขาจะหยุดยั้งการดำเนินการตามโครงการนี้ต่อได้ก็จะได้ไม่มีเงินไปจ่ายสินบน แต่พวกกระผมไปตรวจสอบแล้วจะชี้ให้ท่านประธานเห็นว่าแม้มีเหตุการณ์เล่านี้เกิดขึ้นแล้ว รัฐบาลเดินหน้าตั้งตาว่าต้องจ่ายเงินก้อนนี้ออกมาให้ได้
และประเด็นสุดท้ายที่ผมต้องกราบเรียนท่านประธานก็คือว่าแนวทางการดำเนินงานของท่านรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ตรงกันข้ามกับความพยายามที่จะหาคนผิดมาลงโทษหรือค้นหาความจริง แต่มีการบิดเบือน มีการเบี่ยงเบนด้วยวิธีการต่างๆ นานา ซึ่งกระผมจะได้กราบเรียนต่อไป แต่ว่าทั้ง 4 ประเด็นนี้ครับ จะเป็นการสมคบกันเพื่อให้เกิดการว่าจ้าง จะเป็นการบวกราคาส่วนต่าง จะเป็นการจ่ายเงินโดยมิชอบ หรือจะเป็นการบิดเบือน เบี่ยงเบนประเด็นนั้น กระผมยืนยันว่าไม่มีทางเลยว่าพวกกระผมจะสามารถไว้วางใจให้ท่านรัฐมนตรีทำงานต่อได้
ประเด็นแรกครับท่านประธานครับ อย่างที่กระผมกราบเรียนว่า โครงการนี้ก็ต้องเริ่มจาก บทม. คือ บริษัทที่รับผิดชอบเรื่องของสนามบิน ซึ่งรัฐบาลตั้งขึ้นมา กระผมกราบเรียนว่าหัวใจของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่า สนามบินจะรองรับคน 30 ล้านคน หรือ 45 ล้านคน หัวใจของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่า ท่านจะซื้อยี่ห้อแอล 3 หรือจะซื้อยี่ห้อซีทีเอ็กซ์ หรือยี่ห้อไหนดีกว่ากัน ผมกราบเรียนเพื่อที่จะบอกผ่านไปยังท่านรัฐมนตรีไม่ต้องเสียเวลาชี้แจงสภาเลย เรื่อง 30 ล้าน เป็น 45 ล้าน คุณสมบัติแอล 3 คุณสมบัติซีทีเอ็กซ์ คำชี้แจงท่านจะได้ไม่ต้องวกวนเหมือนสายพานกระเป๋าที่กำลังจะสร้างที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ที่กระผมสนใจก็คือว่า ทำไมโครงการนี้ต้องมีการอนุมัติว่าจ้างแบบนี้ พวกกระผมยืนยันว่า พวกกระผมก็ต้องการสนามบินใหญ่ รองรับผู้โดยสารมาก พวกกระผมยืนยันว่าพวกกระผมต้องการสนามบินที่ทันสมัย มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นที่มั่นใจของชาวโลก มาตรฐานสูงสุด ถ้าเรามีเงินพวกระผมก็ยินดีสนับสนุนให้เราใช้ พวกกระผมก็สนับสนุนให้การก่อสร้างสนามบินนี้เป็นไปโดยเร็วที่สุดตามนโยบายของรัฐบาลว่า จะต้องพยายามเปิดสนามบินนี้ให้ได้ในปลายปีนี้ แต่สิ่งที่พวกกระผมไม่ยอมก็คือไม่ยอมให้สนามบินใหม่เป็นแหล่งหากินของนักการเมืองหรือเจ้าหน้าที่รัฐ
ท่านประธานครับ เมื่อจะต้องมีการขยายขนาดของสนามบินให้รองรับผู้โดยสาร 45 ล้านคน/ ปี เมื่อเกิดเหตุการณ์ 11 กันยายน อันนำมาสู่มาตรฐานที่เข้มงวดขึ้นในการตรวจสอบกระเป๋า ก็ถูกต้องแล้วครับที่บริษัท คือ บทม. คือรัฐบาลจะต้องมีการมาปรับปรุงโครงสร้างและโครงการนี้ทั้งหมด ฉะนั้นมติที่จะทำเรื่องนี้ใยนเดือนมกราคม 2546 ไม่มีใครโต้แย้งเลยครับ แต่ว่าเมื่อจะต้องประบปรุงกันใหม่ควรจะทำอย่างไร ควรจะทำอย่างไรให้โครงการโปร่งใสและดีที่สุด เราก็ควรจะยึดถือปฏิบัติตามแนวทางที่เป็นระเบียบ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรืออย่างน้อยเจตนารมณ์ของมัน นั่นก็คือว่าในฐานะผู้ซื้อต้องศึกษา ออกแบบ ต้องสืบราคา ถ้าแข่งขันประมูลได้ก็ประมูล ถ้าประมูลไม่ได้ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามก็มีข้อมุลในเชิงราคาคุณภาพของสินค้ามาอ้างอิงเพื่อใช้ต่อรองได้ ตั้งต้นรัฐบาลก็ทำอย่างนั้นครับ 23 มกราคม 2546 บทม. ก็มีมติให้ทำอย่างที่กระผมกราบเรียน ท่านประธาน ซึ่งเป็นเรื่องที่พึงกระทำถ้ารักษาผลประโยชน์ของผู้ซื้อในกรณนี้ก็คือ ประชาชน เขาก็มีมติครับ บทม. ก็มีมติให้เอ็มเจทีเอไปออกแบบระบบพวกนี้มาทั้งหมด แต่พอถัดมา 1 เดือน ความผิดปกติเริ่มเกิด
เริ่มเกิดครั้งแรกก็คือ 11 ก.พ.2546 ท่านายกรัฐมนตรีได้ลงนามในระเบียบสำนักนายกว่าด้วยการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิฉบับที่ 2 เพื่อมารองรับการดำเนินงานของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยระเบียบนี้ก็จะมีคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง ซึ่งผมจะเรียกว่า กธพ. ซึ่งเป็นตัวย่อที่ท่านใช้เป็นทางการอยู่แล้ว ท่านนายกเป็นประธานเอง ท่านรัฐมนตรีเป็นกรรมการ ที่น่าสนใจระเบียบนี้ที่ท่านแก้ เพื่อข้อ 8/1 เข้าไปครับ คือให้คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจให้ความเห็นแลวินิจฉัยชี้ขาดในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการที่ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด จะต้องดำเนินการใดๆ ตามมติคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี 2538 และมติคณะรัฐมนตรีล่าสุดขณะนั้นคือ 4 ก.พ.2546 ชี้ขาดเรื่องอะไรครับ ในส่วนที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำคำสั่ง กฎระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีมาใช้บังคับ แก่บริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำแผนงาน และโครงการการก่อสร้าง การบริหารแผนงาน และโครงการ การพัสดุ การเงิน การค้าต่างตอบแทน การทำสัญญา การควบคุมแผนงานและโครงการหรือ การดำเนินการอื่นใดเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวก็ตาม แปลง่ายๆ ระบียบนี้ก็คือว่า ต่อไปนี้คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจเบ็ดเสร็จ อยากจะทำตามระเบียบไหน คำสั่งไหน มติไหนที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง การเงิน การพัสดุอะไรจะปฏิบัติก็ได้ไม่ปฏิบัติก็ได้อยู่ที่คณะกรรมการชุดนี้จะชี้
ระเบียบเขาคงมีความตั้งใจว่า ต้องให้อำนาจเบ็ดเสร็จเพราะว่าต้องเร่งแล้ว แต่ระเบียบตัวนี้ครับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทพให้ การดำเนินงานในโครงการหลังจากนี้ไปเปิดช่องโหว่ ช่องว่าง ให้เกิดการทุจริตได้ เพราะว่า หลังจากนั้นแค่ 2 สัปดาห์ 27 ก.พ. 2546 บทม. มีมติยกเลิกมติเดือนมกราคมที่บอกให้เอ็มเจทีเอไปออกแบบระบสายพาน ไปออกแบบระบบการตรวจสอบวัตถุระเบิด ตรวจสอบกระเป๋า อ้างว่าอะไรครับ อ้างว่า ถ้าเอ็มเจทีเอไปออกแบบไปทำเป็นราคามา และต่อไปอาจจะต้องมีการประมูลแข่งขันหรืออะไรก็ตามจะเกิดความล่าช้า เสียเวลาประเมินกันไว้ว่า 6 เดือน รัฐบาลต้องการเร่งรัด เพราะฉะนั้นไม่เอาแล้ว ไม่ให้เอ็มเจที่เอทำงานนี้ และมีมติว่า งานเฉพาะส่วนนี้ให้มครทำครับ ให้ไอทีโอทำ ไอทีโอก็คือผู้รับเหมาที่ดำเนินการต่างๆ ในสนามบินอยู่แล้ว กระผมกราบเรียนท่านประธานว่า แปลกไหมครับ ผู้ซื้อจะอนุมัติให้ผู้ขายไปประเมินทุกสิ่งทุกอย่างมาแล้วก็มาขายให้ ไอทีโอเขาก็ดีนะครับ เขาบอกว่าเขาไม่อยากทำ ที่เขาไม่อยากทำเขาก็บอกเลยว่าเขาไม่มีความเชี่ยวชาญที่จะมาประเมินทำงานเรื่องนี้ ในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยในการตรวจวัตถุระเบิด ในเรื่องของการออกแบบ เรื่องของสายพานลำเลียงกระเป๋าต่างๆ
(ยังมีต่อ)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ