ครึ่งปีแรกของปี 2543 ประเทศไทยนำเข้าน้ำมันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว

นางสาวภัทรา สกุลไทย อธิบดีกรมทะเบียนการค้า เปิดเผยว่า จากภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูงประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการจัดหาและการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศ ทั้งนี้เนื่องจากน้ำมันดิบจากแหล่งภายในประเทศยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ประเทศไทยยังจำเป็นต้องพึ่งพาน้ำมันดิบจากต่างประเทศเกือบร้อยละ 90 ของความต้องการใช้น้ำมันดิบทั้งหมด ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2543ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการนำเข้าน้ำมันดิบทั้งหมดเป็นปริมาณวันละ 104 ล้านลิตร ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8 ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าจำนวน 121,278 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว สำหรับน้ำมันสำเร็จรูปยังคงมีการนำเข้ามาบางส่วน โดยเป็นการนำเข้าทางคลังชายทะเลแถบภาคใต้ เนื่องจากต้นทุนถูกกว่าการขนส่งจากคลังศรีราชา ส่วนน้ำมันเตาเป็นการนำเข้าน้ำมันเตาชนิดที่ 2 เพื่อส่งให้ กฟผ. เนื่องจากโรงกลั่นผลิตได้ไม่พอกับความต้องการใช้ ปริมาณการนำเข้าทั้งหมด 5.8 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 มีมูลค่าทั้งหมด 7,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเช่นเดียวกับน้ำมันดิบ
จากปริมาณการจัดหาดังกล่าว ได้มีการนำมาใช้ภายในประเทศ โดยนำน้ำมันดิบมาผ่านขบวนการกลั่นและผลิตเป็นน้ำมันสำเร็จรูปได้วันละ 110 ล้านลิตร ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7 และมีการใช้น้ำมันสำเร็จรูปรวมทั้งหมดวันละ 101 ล้านลิตร ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณร้อยละ 0.8 ทั้งนี้เป็นการลดลงของน้ำมันเบนซิน ซึ่งมีการใช้วันละ 19 ล้านลิตร ลดลงร้อยละ 3 น้ำมันเตา วันละ 20 ล้านลิตร ลดลงร้อยละ 12 สำหรับน้ำมันที่มีการใช้เพิ่มขึ้นได้แก่ น้ำมันอากาศยาน วันละ 10 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว วันละ 43 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 และก๊าซแอลพีจี วันละ 5,400 เมตริกตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 นอกจากนี้ยังมีน้ำมันส่วนเกินส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศวันละ 12 ล้านลิตร ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 36
--กรมทะเบียนการค้า สิงหาคม 2543--
-อน-