ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานฐานะหนี้ต่างประเทศในรอบ 11 เดือนของปี 2543 ลดลงต่อเนื่องตามการชำระคืนของทั้งภาคเอกชนและทางการ
ธปท. เปิดเผยว่า เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนตุลาคม 2543 หนี้ต่างประเทศรวม ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 ลดลง 1.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการชำระคืนหนี้ของทั้งภาคเอกชนและ ทางการ
หนี้ภาคเอกชน ลดลงประมาณ 0.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ภาคธนาคาร ลดลง 0.5 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากการชำระคืนที่เพิ่มขึ้นมาก ส่วนใหญ่เป็นการชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์ ส่วนการชำระคืนของกิจการวิเทศธนกิจชะลอลง สำหรับ หนี้ภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคาร ยังคงลดลงต่อเนื่องอีก 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด
หนี้ภาคทางการ ลดลง 0.7 พันล้านดอลลาร์ สรอโดยหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดลง 0.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามผลของการชำระหนี้คืนเงินกู้งวดแรกให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ส่วนหนี้ภาครัฐบาลลดลง 0.5 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากการชำระคืนเงินกู้ ADB โดยการ refinance ด้วยการออก Euro Commercial Paper ระยะสั้น ส่งผลให้หนี้ระยะสั้นภาครัฐบาลเพิ่มขึ้น 78 ล้านดอลลาร์ สรอ. แม้จะมีการซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นที่ออกในต่างประเทศกลับคืนเป็นจำนวนสูง
เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2542
ยอดคงค้างหนี้ต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 ลดลง 14.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ภาคเอกชนลดลงจากการชำระคืนหนี้ที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่วนหนี้ภาคทางการลดลงตามผลของการชำระคืนหนี้และค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง
หนี้ภาคเอกชน ลดลงถึง12.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในจำนวนนี้เป็นการลดลงของ หนี้ภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคาร ถึง 7.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยลดลงมากในหนี้ระยะยาวที่มีการชำระคืนสูง โดยเฉพาะในช่วงต้นปี ซึ่งมีการออกตราสารหนี้ในประเทศมาก ส่วนหนึ่งนำไปชำระหนี้เพื่อลดภาระหนี้ต่างประเทศลง สำหรับ หนี้ภาคธนาคาร ลดลง 5.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของหนี้ระยะสั้นของกิจการวิเทศธนกิจ
หนี้ภาคทางการ ลดลง 1.9 พันล้านดอลลาร์ สรอ.เป็นผลของค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง และการชำระคืนเงินกู้
โครงสร้างหนี้ต่างประเทศ : ดีขึ้น โดยสัดส่วนหนี้ระยะยาวต่อระยะสั้นเป็น 82 : 18 และ สัดส่วนหนี้ภาคเอกชนต่อภาคทางการ เป็น 58 : 42 เทียบกับ ณ สิ้นปีก่อนที่มีสัดส่วน 79 : 21 และสัดส่วน 62: 38 ตามลำดับ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/31 มกราคม 2544--
-ยก-
ธปท. เปิดเผยว่า เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนตุลาคม 2543 หนี้ต่างประเทศรวม ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 ลดลง 1.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการชำระคืนหนี้ของทั้งภาคเอกชนและ ทางการ
หนี้ภาคเอกชน ลดลงประมาณ 0.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ภาคธนาคาร ลดลง 0.5 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากการชำระคืนที่เพิ่มขึ้นมาก ส่วนใหญ่เป็นการชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์ ส่วนการชำระคืนของกิจการวิเทศธนกิจชะลอลง สำหรับ หนี้ภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคาร ยังคงลดลงต่อเนื่องอีก 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด
หนี้ภาคทางการ ลดลง 0.7 พันล้านดอลลาร์ สรอโดยหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดลง 0.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามผลของการชำระหนี้คืนเงินกู้งวดแรกให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ส่วนหนี้ภาครัฐบาลลดลง 0.5 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากการชำระคืนเงินกู้ ADB โดยการ refinance ด้วยการออก Euro Commercial Paper ระยะสั้น ส่งผลให้หนี้ระยะสั้นภาครัฐบาลเพิ่มขึ้น 78 ล้านดอลลาร์ สรอ. แม้จะมีการซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นที่ออกในต่างประเทศกลับคืนเป็นจำนวนสูง
เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2542
ยอดคงค้างหนี้ต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2543 ลดลง 14.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ภาคเอกชนลดลงจากการชำระคืนหนี้ที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่วนหนี้ภาคทางการลดลงตามผลของการชำระคืนหนี้และค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง
หนี้ภาคเอกชน ลดลงถึง12.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในจำนวนนี้เป็นการลดลงของ หนี้ภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคาร ถึง 7.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยลดลงมากในหนี้ระยะยาวที่มีการชำระคืนสูง โดยเฉพาะในช่วงต้นปี ซึ่งมีการออกตราสารหนี้ในประเทศมาก ส่วนหนึ่งนำไปชำระหนี้เพื่อลดภาระหนี้ต่างประเทศลง สำหรับ หนี้ภาคธนาคาร ลดลง 5.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของหนี้ระยะสั้นของกิจการวิเทศธนกิจ
หนี้ภาคทางการ ลดลง 1.9 พันล้านดอลลาร์ สรอ.เป็นผลของค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง และการชำระคืนเงินกู้
โครงสร้างหนี้ต่างประเทศ : ดีขึ้น โดยสัดส่วนหนี้ระยะยาวต่อระยะสั้นเป็น 82 : 18 และ สัดส่วนหนี้ภาคเอกชนต่อภาคทางการ เป็น 58 : 42 เทียบกับ ณ สิ้นปีก่อนที่มีสัดส่วน 79 : 21 และสัดส่วน 62: 38 ตามลำดับ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/31 มกราคม 2544--
-ยก-