คาดการณ์ ผักผลไม้กระป๋องแปรรูปในจีนปีนี้มีแนวโน้มลดลงถึง 5% ภาษีนำเข้ายังเป็นอุปสรรคต่อผู้ส่งออกแต่สินค้าไทยยังมีโอกาส ส่วนการส่งออกผลไม้กระป๋องไทย 11 เดือนแรกของปีที่แล้วขยายตัวถึง 47 % สูงสุดในรอบ 4 ปี
นายพิษณุ เหรียญมหาสาร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2542 ที่ผ่านมา สาธารณรัฐประชาชนจีน ผลิตสินค้าผักและผลไม้กระป๋องแปรรูป 3 ชนิดรวมกันได้ปริมาณ 203,000 ตัน คือ หน่อไม้กระป๋อง ขนาดบรรจุ 9-18 กิโลกรัม จำนวน 90,000 ตัน และขนาดบรรจุต่ำกว่า 3 กิโลกรัม จำนวน 60,000 ตัน แห้วกระป๋องขนาดบรรจุต่ำกว่า 3 กิโลกรัม จำนวน 50,000 ตัน ลำไยกระป๋องขาดบรรจุ 567 กรัม และ 430 กรัม จำนวน 3,000 ตัน
สำหรับราคาจำหน่ายภายในประเทศนั้น หน่อไม้กระป๋องขนาดบรรจุ 430 กรัม กระป๋องละ 6.60 หยวน แห้วกระป๋องขนาดบรรจุ 567 กรัม กระป๋องละ 6 หยวน ลำไยกระป๋องขนาดบรรจุ 400 กรัม กระป๋องละ 15.50 หยวน( 1เหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 8.30 หยวน หรือประมาณ 6 บาทต่อ 1 หยวน)
นายพิษณุ กล่าวต่อไปว่าในส่วนของภาษีนำเข้านั้น หน่อไม้กระป๋อง และแห้วกระป๋อง จีนเรียกเก็บเท่ากันร้อยละ 13 บวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีกร้อยละ 17 ส่วนลำไยกระป๋องเรียกเก็บถึงร้อยละ 30 บวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีกร้อยละ 17 เท่ากัน และสำหรับการผลิตในปี 2543 นี้ คาดว่าจะมีปริมาณลดลงร้อยละ 5 ซึ่งสินค้าทั้ง 3 ชนิดดังกล่าวส่วนใหญ่ผลิตเพื่อการส่งออก มีการนำเข้าบ้างแต่มีจำนวนน้อยกว่า
นายพิษณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2542 ที่ผ่านมา(ม.ค.-พ.ย.)ไทยสามารถส่งออกผลไม้กระป๋องแปร-รูปได้มูลค่าถึง 20,360 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2541(ม.ค.-พ.ย.)ซึ่งมีการส่งออกเพียง 13,867 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวสูงถึง 47 % นับเป็นการส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุดจากปี 2539 เป็นต้นมา โดยเฉพาะลำไยกระป๋องส่งออกได้มูลค่าถึง 38 ล้านบาท มากที่สุดนับจากปี 2539 ส่วนหน่อไม้กระป๋องส่งออกได้มูลค่า 698 ล้านบาท สำหรับตลาดส่งออกหลักประกอบด้วย สหภาพยุโรป เช่น เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สเปน อังกฤษ ฝรั่งเศส นอกจากนี้ก็มี สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง
-กรมการค้าต่างประเทศ กุมภาพันธ์ 2543--
-อน-
นายพิษณุ เหรียญมหาสาร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2542 ที่ผ่านมา สาธารณรัฐประชาชนจีน ผลิตสินค้าผักและผลไม้กระป๋องแปรรูป 3 ชนิดรวมกันได้ปริมาณ 203,000 ตัน คือ หน่อไม้กระป๋อง ขนาดบรรจุ 9-18 กิโลกรัม จำนวน 90,000 ตัน และขนาดบรรจุต่ำกว่า 3 กิโลกรัม จำนวน 60,000 ตัน แห้วกระป๋องขนาดบรรจุต่ำกว่า 3 กิโลกรัม จำนวน 50,000 ตัน ลำไยกระป๋องขาดบรรจุ 567 กรัม และ 430 กรัม จำนวน 3,000 ตัน
สำหรับราคาจำหน่ายภายในประเทศนั้น หน่อไม้กระป๋องขนาดบรรจุ 430 กรัม กระป๋องละ 6.60 หยวน แห้วกระป๋องขนาดบรรจุ 567 กรัม กระป๋องละ 6 หยวน ลำไยกระป๋องขนาดบรรจุ 400 กรัม กระป๋องละ 15.50 หยวน( 1เหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 8.30 หยวน หรือประมาณ 6 บาทต่อ 1 หยวน)
นายพิษณุ กล่าวต่อไปว่าในส่วนของภาษีนำเข้านั้น หน่อไม้กระป๋อง และแห้วกระป๋อง จีนเรียกเก็บเท่ากันร้อยละ 13 บวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีกร้อยละ 17 ส่วนลำไยกระป๋องเรียกเก็บถึงร้อยละ 30 บวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีกร้อยละ 17 เท่ากัน และสำหรับการผลิตในปี 2543 นี้ คาดว่าจะมีปริมาณลดลงร้อยละ 5 ซึ่งสินค้าทั้ง 3 ชนิดดังกล่าวส่วนใหญ่ผลิตเพื่อการส่งออก มีการนำเข้าบ้างแต่มีจำนวนน้อยกว่า
นายพิษณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2542 ที่ผ่านมา(ม.ค.-พ.ย.)ไทยสามารถส่งออกผลไม้กระป๋องแปร-รูปได้มูลค่าถึง 20,360 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2541(ม.ค.-พ.ย.)ซึ่งมีการส่งออกเพียง 13,867 ล้านบาท มีอัตราการขยายตัวสูงถึง 47 % นับเป็นการส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุดจากปี 2539 เป็นต้นมา โดยเฉพาะลำไยกระป๋องส่งออกได้มูลค่าถึง 38 ล้านบาท มากที่สุดนับจากปี 2539 ส่วนหน่อไม้กระป๋องส่งออกได้มูลค่า 698 ล้านบาท สำหรับตลาดส่งออกหลักประกอบด้วย สหภาพยุโรป เช่น เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สเปน อังกฤษ ฝรั่งเศส นอกจากนี้ก็มี สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง
-กรมการค้าต่างประเทศ กุมภาพันธ์ 2543--
-อน-