การผลิตพืชผล เดือนตุลาคม ลดลงจากช่วงเดียวกัน ของปีก่อนร้อยละ 10.5 ผลผลิตที่ลดลงมากได้แก่ ข้าวและอ้อย เนื่องจากสภาพน้ำท่วมในบางพื้นที่ ทำให้เกษตรกรเลื่อนการเก็บเกี่ยวออกไปส่วนผลผลิตอ้อยลดลงจากโรคใบขาวและโรคหนอนกออ้อย
ราคาพืชผลในเดือนตุลาคม ลดลงจากช่วงเดียวกัน ของปีก่อนร้อยละ 2.6 ราคาพืชผลที่ลดลงมาก ได้แก่ ข้าวโพด (-3.3%) มันสำปะหลัง (-5.9%) และผลไม้ (-21.1%) เนื่องจากภาวะการค้าซบเซาต่อเนื่อง ประกอบกับภาวะการส่งออกที่ ไม่เอื้ออำนวย
- การผลิตสัตว์น้ำ ปริมาณสัตว์น้ำขึ้นท่าในเดือนกันยายน ลดลงร้อยละ 12.6 ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทางการจะให้การช่วยเหลือชดเชยส่วนต่างราคาน้ำมันลิตรละ 3 บาท แก่ชาวประมงเริ่มตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2543 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2544 อย่างไรก็ตามในส่วนของผลผลิตกุ้งกุลาดำ ยังคงเพิ่มขึ้นจากการขยายการเพาะเลี้ยง เนื่องจากราคากุ้งกุลาดำอยู่ในเกณฑ์สูง และตลาดต่างประเทศ ยังคงแจ่มใส
- ปริมาณน้ำในเขื่อนสำคัญ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ทั่วประเทศ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2543 อยู่ที่ 59,763 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็นร้อยละ 90.2 ของความจุรวม เนื่องจากอิทธิพลของพายุ ทำให้มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่การเกษตร การเลี้ยงปศุสัตว์ และการทำประมงได้รับความเสียหาย รายงานความเสียหายล่าสุด (13 พฤศจิกายน 2543) มีพื้นที่การเกษตรเสียหายรวม 6,069,130 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกข้าว ส่วนปศุสัตว์ เสียหายรวม 4,752,769 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ไก่ เป็ด โค และกระบือ สำหรับประมงมีบ่อปลาเสียหายรวม 82,908 บ่อ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 570.6 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ภาครัฐได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย โดยได้เบิกจ่ายเงินทดรองราชการ การแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์พืช พันธุ์ปลา พันธุ์สัตว์ รวมถึงเวชภัณฑ์ป้องกันรักษาสัตว์
- รายได้จากการขายพืชผลที่สำคัญของเกษตรกร ในเดือนตุลาคม ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.8 ซึ่งเป็นผลจากการที่ผลผลิตพืชผลและราคาพืชผลที่เกษตรกรขายได้ลดลงร้อยละ 10.5 และ 2.6 ตามลำดับ
- ราคาสินค้าเกษตร ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2543 ดัชนีราคาสินค้าเกษตรรวม ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.3 โดยราคาลดลงในหมวดพืชผล (-12.7%) และหมวดปศุสัตว์ (-9.0%) ขณะที่ราคาหมวดสัตว์น้ำและป่าไม้ เพิ่มจาก ช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.3 และ 3.8 ตามลำดับ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-สส-
ราคาพืชผลในเดือนตุลาคม ลดลงจากช่วงเดียวกัน ของปีก่อนร้อยละ 2.6 ราคาพืชผลที่ลดลงมาก ได้แก่ ข้าวโพด (-3.3%) มันสำปะหลัง (-5.9%) และผลไม้ (-21.1%) เนื่องจากภาวะการค้าซบเซาต่อเนื่อง ประกอบกับภาวะการส่งออกที่ ไม่เอื้ออำนวย
- การผลิตสัตว์น้ำ ปริมาณสัตว์น้ำขึ้นท่าในเดือนกันยายน ลดลงร้อยละ 12.6 ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทางการจะให้การช่วยเหลือชดเชยส่วนต่างราคาน้ำมันลิตรละ 3 บาท แก่ชาวประมงเริ่มตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2543 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2544 อย่างไรก็ตามในส่วนของผลผลิตกุ้งกุลาดำ ยังคงเพิ่มขึ้นจากการขยายการเพาะเลี้ยง เนื่องจากราคากุ้งกุลาดำอยู่ในเกณฑ์สูง และตลาดต่างประเทศ ยังคงแจ่มใส
- ปริมาณน้ำในเขื่อนสำคัญ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ทั่วประเทศ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2543 อยู่ที่ 59,763 ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็นร้อยละ 90.2 ของความจุรวม เนื่องจากอิทธิพลของพายุ ทำให้มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่การเกษตร การเลี้ยงปศุสัตว์ และการทำประมงได้รับความเสียหาย รายงานความเสียหายล่าสุด (13 พฤศจิกายน 2543) มีพื้นที่การเกษตรเสียหายรวม 6,069,130 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกข้าว ส่วนปศุสัตว์ เสียหายรวม 4,752,769 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ไก่ เป็ด โค และกระบือ สำหรับประมงมีบ่อปลาเสียหายรวม 82,908 บ่อ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 570.6 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ภาครัฐได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย โดยได้เบิกจ่ายเงินทดรองราชการ การแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์พืช พันธุ์ปลา พันธุ์สัตว์ รวมถึงเวชภัณฑ์ป้องกันรักษาสัตว์
- รายได้จากการขายพืชผลที่สำคัญของเกษตรกร ในเดือนตุลาคม ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.8 ซึ่งเป็นผลจากการที่ผลผลิตพืชผลและราคาพืชผลที่เกษตรกรขายได้ลดลงร้อยละ 10.5 และ 2.6 ตามลำดับ
- ราคาสินค้าเกษตร ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2543 ดัชนีราคาสินค้าเกษตรรวม ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.3 โดยราคาลดลงในหมวดพืชผล (-12.7%) และหมวดปศุสัตว์ (-9.0%) ขณะที่ราคาหมวดสัตว์น้ำและป่าไม้ เพิ่มจาก ช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.3 และ 3.8 ตามลำดับ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-สส-