กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ตามที่นายปองพล อดิเรกสาร รองนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะผู้แทนไทยเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 20-24 มิถุนายน 2544 เพื่อประชุมหารือถึงแนวทางการดำเนินการด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนของไทย กับส่วนราชการไทย (Team Thailand) และภาคเอกชนของไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งพบปะหารือกับผู้นำจีน เพื่อหามาตรการใน การปรับปรุงแผนการดำเนินงานทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนของไทยใน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้พบหารือกับนายถัง เจียสวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน และนายหลง หย่งถู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐสัมพันธ์และการค้าต่างประเทศจีน รวมทั้งผู้แทนภาคเอกชนจีน เมื่อวันที่ 20-21 มิถุนายน 2544 (ข่าวสารนิเทศ ที่ 376/2544) นั้น
ในวันที่ 22 มิถุนายน รองนายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมคารวะนายจู หรงจี นายกรัฐ มนตรีจีน รวมทั้งหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และรองประธานการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดจนเป็นประธานการประชุม Team Thailand ในวันที่ 23 มิถุนายน 2544 สรุปผลได้ดังนี้
การหารือกับผู้นำจีน
1. นายจู หรงจี (Zhu Rongji) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน รองนายก รัฐมนตรีเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีจีน ที่ทำเนียบจงหนานไห่ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2544 และได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีจูฯ ที่ได้เร่งรัดสั่งการให้หน่วยงานจีนที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องต่างๆ ที่ได้หารือและรับปากไว้กับนายกรัฐมนตรีไทยทันทีที่เดินทางกลับถึงกรุงปักกิ่ง โดยคณะผู้แทนกระทรวงเศรษฐสัมพันธ์และการค้าต่างประเทศได้ไปเจรจาซื้อยางพาราจากไทย จำนวน 50,000 ตัน ซึ่งกำหนดจะส่งมอบของกันในเร็วๆ นี้ สำหรับลำไยอบแห้งนั้น กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องราคา นายกรัฐมนตรีจีนได้แจ้งให้ทราบเรื่องที่ได้สั่งการให้เรือสินค้าของจีนแวะรับสินค้าของไทยไปสหรัฐฯ เพื่อลดต้นทุน รวมทั้งแสดงความพอใจต่อความคืบหน้าของโครงการปลูกป่าและการจัดตั้งโรงงานผลิตเยื่อกระดาษที่รองนายกรัฐมนตรีแจ้งให้ทราบว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยได้ทำการศึกษาในรายละเอียดแล้ว เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะร่วมทุนกับจีนเรื่องนี้ และกำลังพิจารณาหาพื้นที่สำหรับโครงการปลูกป่าและที่ตั้งโรงงานที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของฝ่ายจีน และจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ จะเป็นการร่วมลงทุน 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายไทยลงทุน 25% และส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนของฝ่ายจีนและภาคเอกชน (ไทยหรือจีน) นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจีนรับทราบผลการศึกษาและหารือเบื้องต้นระหว่างคณะผู้แทนบริษัท China Railway Engineering Corporation กับการรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่องการร่วมลงทุนสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างยูนนาน ลาว และไทย และได้รับที่จะสนับสนุนข้อเสนอของรองนายกรัฐมนตรีที่ขอให้จีนรับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม 4 ฝ่าย ไทย-ลาว-จีน-ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เพื่อเร่งรัดโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมระหว่างไทย-ลาว-ยูนนานด้วย
2. นายว่าน เป่ารุ่ย (Wan Baorui) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร นายว่าน เป่ารุ่ย เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี ที่โรงแรม Kempinski ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าไทยและจีนมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดเป็นพิเศษ ฝ่ายจีนเห็นพ้องกับข้อเสนอของรองนายกรัฐมนตรีเรื่องการตรวจสอบสินค้าเกษตร โดยเฉพาะการกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรร่วมกัน เนื่องจากในปัจจุบันจีนได้พัฒนาสินค้าเกษตรจนสามารถส่งออกไปสู่ตลาดโลกจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายสนใจที่จะแลกเปลี่ยนผลไม้ที่แต่ละฝ่ายผลิตได้จำนวนมากเพื่อส่งเสริมการค้าและการขยายตลาดระหว่างกัน ฝ่ายจีนยินดีที่จะให้ความร่วมมือแก่ไทยด้านวิชาการเกี่ยวกับการเพาะปลูกและผลิตภัณฑ์จากพืชตัดแต่งพันธุกรรม (GMO) ที่จีนมีความรู้และประสบการณ์
3. นายซุน กาง (Sun Gang) รองประธานการท่องเที่ยวจีน (CNTA) ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการส่งเสริมและขยายตลาดด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันและแสดงความพอใจที่การแก้ไขปัญหาเรื่องนักท่องเที่ยวจีนมีความคืบหน้าไปมาก ปัจจุบันนี้ มีชาวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศ โดยเฉลี่ยปีละ 7 แสนคน และโดยที่รัฐบาลจีนได้เปิดโอกาสให้ชาวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น จึงคาดว่าจำนวนชาวจีนที่ไปท่องเที่ยวประเทศไทยจะเพิ่มมากขึ้น ฝ่ายจีนเห็นพ้องกับข้อเสนอของรองนายกรัฐมนตรีที่ให้มีการขยายความร่วมมือระหว่างเมืองพี่เมืองน้องระหว่างไทย-จีน ซึ่งในปัจจุบันมีถึง 22 แห่ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและความสัมพันธ์ด้านอื่นๆ ให้มากขึ้น รองนายกรัฐมนตรีแจ้งให้นายซุนฯ ทราบถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งสำนักงานท่งเที่ยวไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการขอเปิดสำนักงานแล้ว และขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำลังพิจารณาว่าจะจัดตั้งสำนักงานที่กรุงปักกิ่งหรือนครเซี่ยงไฮ้ และจะแจ้งให้ฝ่ายจีนทราบต่อไป สำหรับคำขอของฝ่ายไทยที่จะเปิดเที่ยวบินระหว่างไทยและซัวเถาของจีนนั้น กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาของกระทรวงคมนาคมของสองฝ่าย
อนึ่ง ในวันเดียวกันนี้ นายหลิน ต้าเซียน (Lin Daxian) รองประธานบริษัท SINOCHEM ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้ายางพารารายใหญ่ของจีนได้เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรีด้วย
การประชุมหน่วยงานไทยเพื่อกำหนดยุมธศาสตร์เชิงรุกด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนของไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน รองนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมหารือระหว่างหน่วยงานและภาคเอกชนของไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่โรงแรม Kempinski โดยการประชุมแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ การชี้แจงนโยบายและหลักการดำเนินงานของ Team Thailand การกำหนดยุทธศาสตร์ และการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งผู้เข้าร่วมการประชุมได้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง และรองนายกรัฐมนตรีจะได้นำข้อมูลและความคิดเห็นที่ได้รับไปปรับปรุงยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของไทยให้ชัดเจนสมบูรณ์ และจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ เพื่อที่หน่วยงานของไทยในต่างประเทศจะได้ปฏิบัติงานให้เป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในการที่จะรักษาและส่งเสริมผลประโยชน์ของไทยในต่างประเทศ เพื่อตอบสนอง นโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7--จบ--
-อน-
ตามที่นายปองพล อดิเรกสาร รองนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะผู้แทนไทยเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 20-24 มิถุนายน 2544 เพื่อประชุมหารือถึงแนวทางการดำเนินการด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนของไทย กับส่วนราชการไทย (Team Thailand) และภาคเอกชนของไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งพบปะหารือกับผู้นำจีน เพื่อหามาตรการใน การปรับปรุงแผนการดำเนินงานทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนของไทยใน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้พบหารือกับนายถัง เจียสวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน และนายหลง หย่งถู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐสัมพันธ์และการค้าต่างประเทศจีน รวมทั้งผู้แทนภาคเอกชนจีน เมื่อวันที่ 20-21 มิถุนายน 2544 (ข่าวสารนิเทศ ที่ 376/2544) นั้น
ในวันที่ 22 มิถุนายน รองนายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมคารวะนายจู หรงจี นายกรัฐ มนตรีจีน รวมทั้งหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และรองประธานการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดจนเป็นประธานการประชุม Team Thailand ในวันที่ 23 มิถุนายน 2544 สรุปผลได้ดังนี้
การหารือกับผู้นำจีน
1. นายจู หรงจี (Zhu Rongji) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน รองนายก รัฐมนตรีเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีจีน ที่ทำเนียบจงหนานไห่ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2544 และได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีจูฯ ที่ได้เร่งรัดสั่งการให้หน่วยงานจีนที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องต่างๆ ที่ได้หารือและรับปากไว้กับนายกรัฐมนตรีไทยทันทีที่เดินทางกลับถึงกรุงปักกิ่ง โดยคณะผู้แทนกระทรวงเศรษฐสัมพันธ์และการค้าต่างประเทศได้ไปเจรจาซื้อยางพาราจากไทย จำนวน 50,000 ตัน ซึ่งกำหนดจะส่งมอบของกันในเร็วๆ นี้ สำหรับลำไยอบแห้งนั้น กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องราคา นายกรัฐมนตรีจีนได้แจ้งให้ทราบเรื่องที่ได้สั่งการให้เรือสินค้าของจีนแวะรับสินค้าของไทยไปสหรัฐฯ เพื่อลดต้นทุน รวมทั้งแสดงความพอใจต่อความคืบหน้าของโครงการปลูกป่าและการจัดตั้งโรงงานผลิตเยื่อกระดาษที่รองนายกรัฐมนตรีแจ้งให้ทราบว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยได้ทำการศึกษาในรายละเอียดแล้ว เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะร่วมทุนกับจีนเรื่องนี้ และกำลังพิจารณาหาพื้นที่สำหรับโครงการปลูกป่าและที่ตั้งโรงงานที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของฝ่ายจีน และจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ จะเป็นการร่วมลงทุน 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายไทยลงทุน 25% และส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนของฝ่ายจีนและภาคเอกชน (ไทยหรือจีน) นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจีนรับทราบผลการศึกษาและหารือเบื้องต้นระหว่างคณะผู้แทนบริษัท China Railway Engineering Corporation กับการรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่องการร่วมลงทุนสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างยูนนาน ลาว และไทย และได้รับที่จะสนับสนุนข้อเสนอของรองนายกรัฐมนตรีที่ขอให้จีนรับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม 4 ฝ่าย ไทย-ลาว-จีน-ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เพื่อเร่งรัดโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมระหว่างไทย-ลาว-ยูนนานด้วย
2. นายว่าน เป่ารุ่ย (Wan Baorui) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร นายว่าน เป่ารุ่ย เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี ที่โรงแรม Kempinski ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าไทยและจีนมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดเป็นพิเศษ ฝ่ายจีนเห็นพ้องกับข้อเสนอของรองนายกรัฐมนตรีเรื่องการตรวจสอบสินค้าเกษตร โดยเฉพาะการกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรร่วมกัน เนื่องจากในปัจจุบันจีนได้พัฒนาสินค้าเกษตรจนสามารถส่งออกไปสู่ตลาดโลกจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายสนใจที่จะแลกเปลี่ยนผลไม้ที่แต่ละฝ่ายผลิตได้จำนวนมากเพื่อส่งเสริมการค้าและการขยายตลาดระหว่างกัน ฝ่ายจีนยินดีที่จะให้ความร่วมมือแก่ไทยด้านวิชาการเกี่ยวกับการเพาะปลูกและผลิตภัณฑ์จากพืชตัดแต่งพันธุกรรม (GMO) ที่จีนมีความรู้และประสบการณ์
3. นายซุน กาง (Sun Gang) รองประธานการท่องเที่ยวจีน (CNTA) ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการส่งเสริมและขยายตลาดด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันและแสดงความพอใจที่การแก้ไขปัญหาเรื่องนักท่องเที่ยวจีนมีความคืบหน้าไปมาก ปัจจุบันนี้ มีชาวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศ โดยเฉลี่ยปีละ 7 แสนคน และโดยที่รัฐบาลจีนได้เปิดโอกาสให้ชาวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น จึงคาดว่าจำนวนชาวจีนที่ไปท่องเที่ยวประเทศไทยจะเพิ่มมากขึ้น ฝ่ายจีนเห็นพ้องกับข้อเสนอของรองนายกรัฐมนตรีที่ให้มีการขยายความร่วมมือระหว่างเมืองพี่เมืองน้องระหว่างไทย-จีน ซึ่งในปัจจุบันมีถึง 22 แห่ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและความสัมพันธ์ด้านอื่นๆ ให้มากขึ้น รองนายกรัฐมนตรีแจ้งให้นายซุนฯ ทราบถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งสำนักงานท่งเที่ยวไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการขอเปิดสำนักงานแล้ว และขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำลังพิจารณาว่าจะจัดตั้งสำนักงานที่กรุงปักกิ่งหรือนครเซี่ยงไฮ้ และจะแจ้งให้ฝ่ายจีนทราบต่อไป สำหรับคำขอของฝ่ายไทยที่จะเปิดเที่ยวบินระหว่างไทยและซัวเถาของจีนนั้น กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาของกระทรวงคมนาคมของสองฝ่าย
อนึ่ง ในวันเดียวกันนี้ นายหลิน ต้าเซียน (Lin Daxian) รองประธานบริษัท SINOCHEM ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้ายางพารารายใหญ่ของจีนได้เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรีด้วย
การประชุมหน่วยงานไทยเพื่อกำหนดยุมธศาสตร์เชิงรุกด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนของไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน รองนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมหารือระหว่างหน่วยงานและภาคเอกชนของไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่โรงแรม Kempinski โดยการประชุมแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ การชี้แจงนโยบายและหลักการดำเนินงานของ Team Thailand การกำหนดยุทธศาสตร์ และการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งผู้เข้าร่วมการประชุมได้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง และรองนายกรัฐมนตรีจะได้นำข้อมูลและความคิดเห็นที่ได้รับไปปรับปรุงยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของไทยให้ชัดเจนสมบูรณ์ และจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ เพื่อที่หน่วยงานของไทยในต่างประเทศจะได้ปฏิบัติงานให้เป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในการที่จะรักษาและส่งเสริมผลประโยชน์ของไทยในต่างประเทศ เพื่อตอบสนอง นโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7--จบ--
-อน-