การเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมัน ภายหลังปฏิบัติการโจมตีอัฟกานิสถาน
Crude Dubai ราคาตลาดสิงคโปร์ ราคาขายปลีกกรุงเทพฯ
($/BBL) ULG 95 ($/BBL) HSD ULG 95 HSD
($/BBL) (Baht/Litre) (Baht/Litre)
2000 24.31 32.95 32.38 15.62 12.92
2001 (Jan - Oct 5) 24.21 29.23 28.84 16.07 13.83
Sep 11 - Oct 4 23.15 27.62 28.71 16.07 14
Oct 5, 2001 19.55 23.6 26.3 15.09 13.49
Oct 8, 2001 19.37 23 25.63 14.79 13.19
หมายเหตุ: ในปี 2000 ไทยน้ำเข้าน้ำมันดิบดูไบคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23 ของปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้าทั้งหมด รองลงมา ได้แก่
โอมาน และ เยเมน ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 13.7 และ 11.8 ตามลำดับ
ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง
ในช่วงสัปดาห์แรกภายหลังเกิดเหตุวินาศกรรมในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 ราคา น้ำมันมีความผันผวนขึ้นลง ตามปัจจัย
ที่ส่งผลในระยะสั้นและจิตวิทยา อาทิ การซื้อน้ำมันเพื่อสำรองไว้ในยามฉุกเฉิน การขายเพื่อทำกำไรหลังจากที่ราคาปรับเพิ่มขึ้น ความกังวล
ต่อมาตรการตอบโต้ทางทหาร ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวยังไม่กระทบต่อปัจจัยพื้นฐานคือ อุปสงค์-อุปทานน้ำมันดิบของโลกโดยตรง และตั้งแต่ช่วงกลาง
เดือนกันยายนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลดลงอย่าง ต่อเนื่อง (ลดลงต่ำกว่า 20 ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล มาอยู่ที่ 19.55 ดอลลาร์
สรอ./บาร์เรล เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม) เนื่องจากปัจจัยสำคัญ คือ
ความต้องการใช้น้ำมันของโลกที่ลดลง โดยเฉพาะน้ำมันเพื่อการบินพาณิชย์ (Aviation Fuel)[1
] ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวล
เกี่ยวกับเหตุวินาศกรรมในสหรัฐฯ
ความกังวลในอุปทานของ Heating oil ในช่วงปลายปี 2544 ลดลง เนื่องจากในทางเทคนิคสามารถปรับการกลั่น Aviation fuel
ให้เป็น Heating oil ได้
สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2544 อยู่ที่ระดับ 307.7 ล้าน บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากปลายเดือนสิงหาคม 2544
ถึง 2.8 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมัน OPEC crude basket[2
] ได้ลดลงต่ำกว่า official band 22 — 28 ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล ตั้งแต่
วันที่ 24 กันยายน 2544 ติดต่อกัน 10 วันทำการ โดยล่าสุดวันที่ 5 ตุลาคม อยู่ที่ระดับ 20.09 ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล ทำให้มีความ
เป็นไปได้ว่า OPEC จะลดโควต้าปริมาณการผลิตลง 5 แสนบาร์เรลต่อวัน ตามกลไลการพยุงราคาของ OPEC ซึ่งกำหนดว่าจะลด/เพิ่มโควต้า
ปริมาณการผลิต หากระดับราคา OPEC crude basket ลดลง/เพิ่มขึ้น จาก official band ติดต่อกัน 10 วันทำการ อย่างไรก็ตาม
Mr. Ali Rodriguez เลขาธิการกลุ่ม OPEC ได้กล่าวว่า กลุ่ม OPEC จะไม่ปรับลดปริมาณการผลิตโดยอัตโนมัติ แม้ว่าราคาจะปรับลดลง
ตามเงื่อนไข เพื่อรอดูผลกระทบจากการโจมตีอัฟกานีสถานให้ชัดเจนก่อน (Reuters: as of Oct 8, 01)
สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในระยะยาวยังคงอ่อนตัว เนื่องจากปฏิบัติการตอบโต้ของสหรัฐฯ ไม่กระทบต่อแหล่งผลิตน้ำมัน
(และอัฟกานิสถานไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน) โดย นักวิเคราะห์น้ำมันต่างเห็นว่า มาตรการตอบโต้ทางทหารของสหรัฐฯ จะส่งผลให้อุปสงค์
น้ำมันของโลกลดลงอีก และไม่กดดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น หากการตอบโต้ทางทหารไม่กระจายผลไปยังประเทศในอ่าวเปอร์เซีย ส่วนในระยะสั้น
ราคาน้ำมันจะผันผวนขึ้นลง ตามปัจจัยด้าน จิตวิทยา
ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ และราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบ โดยล่าสุดราคาน้ำมันเบนซิน (ULG 95)
และน้ำมันดีเซล (HSD) ตลาดสิงคโปร์ อยู่ที่ระดับ 23.0 และ 25.63 ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล ส่วนราคาขายปลีกในประเทศของน้ำมันทั้ง 2 ชนิด
อยู่ที่ 14.79 และ 13.19 บาท/ลิตร ตามลำดับ ทั้งนี้ ประเทศไทยมีการสำรองน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้นาน 36 วัน
(ซึ่งมีผล ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2544)
--------------------------------------------------------------------------------
[1
] ความต้องการน้ำมันเพื่อการบินพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกาลดลงมากกว่าร้อยละ 30 ตั้งแต่เหตุวินาศกรรม โดยน้ำมันประเภทนี้มีสัดส่วน
ร้อยละ 8 ของความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันตามปกติของสหรัฐฯ
[2
] ราคาน้ำมันดิบตะกร้าโอเปค (OPEC Crude Basket) เป็นราคาเฉลี่ยทางเลขคณิต (Arithmetic average) ของน้ำมันดิบ 7 ชนิด
คือ (1) Bonny Light-Nigeria, (2) Saharan Blend-Algeria, (3) Isthmus-Mexico, (4) Tia Juana Light-Venezuela,
(5) Minas-Indonesia, (6) Arabian Light-Saudi Arabia, และ (7) Dubai-Dubai
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-สส-
Crude Dubai ราคาตลาดสิงคโปร์ ราคาขายปลีกกรุงเทพฯ
($/BBL) ULG 95 ($/BBL) HSD ULG 95 HSD
($/BBL) (Baht/Litre) (Baht/Litre)
2000 24.31 32.95 32.38 15.62 12.92
2001 (Jan - Oct 5) 24.21 29.23 28.84 16.07 13.83
Sep 11 - Oct 4 23.15 27.62 28.71 16.07 14
Oct 5, 2001 19.55 23.6 26.3 15.09 13.49
Oct 8, 2001 19.37 23 25.63 14.79 13.19
หมายเหตุ: ในปี 2000 ไทยน้ำเข้าน้ำมันดิบดูไบคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23 ของปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้าทั้งหมด รองลงมา ได้แก่
โอมาน และ เยเมน ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 13.7 และ 11.8 ตามลำดับ
ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง
ในช่วงสัปดาห์แรกภายหลังเกิดเหตุวินาศกรรมในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 ราคา น้ำมันมีความผันผวนขึ้นลง ตามปัจจัย
ที่ส่งผลในระยะสั้นและจิตวิทยา อาทิ การซื้อน้ำมันเพื่อสำรองไว้ในยามฉุกเฉิน การขายเพื่อทำกำไรหลังจากที่ราคาปรับเพิ่มขึ้น ความกังวล
ต่อมาตรการตอบโต้ทางทหาร ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวยังไม่กระทบต่อปัจจัยพื้นฐานคือ อุปสงค์-อุปทานน้ำมันดิบของโลกโดยตรง และตั้งแต่ช่วงกลาง
เดือนกันยายนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลดลงอย่าง ต่อเนื่อง (ลดลงต่ำกว่า 20 ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล มาอยู่ที่ 19.55 ดอลลาร์
สรอ./บาร์เรล เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม) เนื่องจากปัจจัยสำคัญ คือ
ความต้องการใช้น้ำมันของโลกที่ลดลง โดยเฉพาะน้ำมันเพื่อการบินพาณิชย์ (Aviation Fuel)[1
] ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวล
เกี่ยวกับเหตุวินาศกรรมในสหรัฐฯ
ความกังวลในอุปทานของ Heating oil ในช่วงปลายปี 2544 ลดลง เนื่องจากในทางเทคนิคสามารถปรับการกลั่น Aviation fuel
ให้เป็น Heating oil ได้
สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2544 อยู่ที่ระดับ 307.7 ล้าน บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากปลายเดือนสิงหาคม 2544
ถึง 2.8 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมัน OPEC crude basket[2
] ได้ลดลงต่ำกว่า official band 22 — 28 ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล ตั้งแต่
วันที่ 24 กันยายน 2544 ติดต่อกัน 10 วันทำการ โดยล่าสุดวันที่ 5 ตุลาคม อยู่ที่ระดับ 20.09 ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล ทำให้มีความ
เป็นไปได้ว่า OPEC จะลดโควต้าปริมาณการผลิตลง 5 แสนบาร์เรลต่อวัน ตามกลไลการพยุงราคาของ OPEC ซึ่งกำหนดว่าจะลด/เพิ่มโควต้า
ปริมาณการผลิต หากระดับราคา OPEC crude basket ลดลง/เพิ่มขึ้น จาก official band ติดต่อกัน 10 วันทำการ อย่างไรก็ตาม
Mr. Ali Rodriguez เลขาธิการกลุ่ม OPEC ได้กล่าวว่า กลุ่ม OPEC จะไม่ปรับลดปริมาณการผลิตโดยอัตโนมัติ แม้ว่าราคาจะปรับลดลง
ตามเงื่อนไข เพื่อรอดูผลกระทบจากการโจมตีอัฟกานีสถานให้ชัดเจนก่อน (Reuters: as of Oct 8, 01)
สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในระยะยาวยังคงอ่อนตัว เนื่องจากปฏิบัติการตอบโต้ของสหรัฐฯ ไม่กระทบต่อแหล่งผลิตน้ำมัน
(และอัฟกานิสถานไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน) โดย นักวิเคราะห์น้ำมันต่างเห็นว่า มาตรการตอบโต้ทางทหารของสหรัฐฯ จะส่งผลให้อุปสงค์
น้ำมันของโลกลดลงอีก และไม่กดดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น หากการตอบโต้ทางทหารไม่กระจายผลไปยังประเทศในอ่าวเปอร์เซีย ส่วนในระยะสั้น
ราคาน้ำมันจะผันผวนขึ้นลง ตามปัจจัยด้าน จิตวิทยา
ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ และราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบ โดยล่าสุดราคาน้ำมันเบนซิน (ULG 95)
และน้ำมันดีเซล (HSD) ตลาดสิงคโปร์ อยู่ที่ระดับ 23.0 และ 25.63 ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล ส่วนราคาขายปลีกในประเทศของน้ำมันทั้ง 2 ชนิด
อยู่ที่ 14.79 และ 13.19 บาท/ลิตร ตามลำดับ ทั้งนี้ ประเทศไทยมีการสำรองน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้นาน 36 วัน
(ซึ่งมีผล ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2544)
--------------------------------------------------------------------------------
[1
] ความต้องการน้ำมันเพื่อการบินพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกาลดลงมากกว่าร้อยละ 30 ตั้งแต่เหตุวินาศกรรม โดยน้ำมันประเภทนี้มีสัดส่วน
ร้อยละ 8 ของความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันตามปกติของสหรัฐฯ
[2
] ราคาน้ำมันดิบตะกร้าโอเปค (OPEC Crude Basket) เป็นราคาเฉลี่ยทางเลขคณิต (Arithmetic average) ของน้ำมันดิบ 7 ชนิด
คือ (1) Bonny Light-Nigeria, (2) Saharan Blend-Algeria, (3) Isthmus-Mexico, (4) Tia Juana Light-Venezuela,
(5) Minas-Indonesia, (6) Arabian Light-Saudi Arabia, และ (7) Dubai-Dubai
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-สส-