ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานฐานะหนี้ต่างประเทศในรอบ 10 เดือนของปี 2543 ลดลงต่อเนื่องตามการชำระคืนของภาคเอกชน และการอ่อนตัวของค่าเงินเยน
ดร.บัณฑิต นิจถาวร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ ในฐานะโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนกันยายน 2543 หนี้ต่างประเทศรวม ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2543 ลดลง 1.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการชำระคืนหนี้ของภาคเอกชน ประกอบกับการอ่อนตัวของค่าเงินเยน
หนี้ภาคเอกชน ลดลงประมาณ 0.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ภาคธนาคาร ลดลง 0.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากการชำระคืนที่เพิ่มขึ้นมาก ส่วนใหญ่เป็นการชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์ ส่วนการชำระคืนของกิจการวิเทศธนกิจชะลอลง สำหรับ หนี้ภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคาร ยังคงลดลงต่อเนื่องอีก 0.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด
หนี้ภาคทางการ ลดลง 0.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดลงเกือบ 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามผลของค่าเงิน ส่วนหนี้ภาครัฐบาลลดลง 0.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนหนึ่งจากการชำระคืนหนี้ที่สูงกว่าการเบิกจ่าย ซึ่งในเดือนนี้มีการชำระคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนดของรัฐวิสาหกิจจำนวนประมาณ 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ประกอบกับค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง
เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2542
ยอดคงค้างหนี้ต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2543 ลดลง 13.0 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ภาคเอกชนลดลงจากการชำระคืนหนี้ที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่วนหนี้ภาคทางการลดลงตามผลของค่าเงินเยนที่ อ่อนตัวลง
หนี้ภาคเอกชน ลดลงถึง 11.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในจำนวนนี้เป็นการลดลงของ หนี้ภาคธุรกิจที่ ไม่ใช่ธนาคาร ถึง 7.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยลดลงมากในหนี้ระยะยาวที่มีการชำระคืนสูง โดยเฉพาะในช่วงต้นปี ซึ่งมีการออกตราสารหนี้ในประเทศมาก ส่วนหนึ่งนำไปชำระหนี้เพื่อลดภาระหนี้ต่างประเทศลง สำหรับ หนี้ภาคธนาคาร ลดลง 4.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของหนี้ระยะสั้น
หนี้ภาคทางการ ลดลง 1.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ.เป็นผลของค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง
โครงสร้างหนี้ต่างประเทศ : ดีขึ้น โดยสัดส่วนหนี้ระยะยาวต่อระยะสั้นเป็น 82 : 18 และ สัดส่วนหนี้ภาคเอกชนต่อภาคทางการ เป็น 58 : 42 เทียบกับ ณ สิ้นปีก่อนที่มีสัดส่วน 79 : 21 และสัดส่วน 62: 38 ตามลำดับ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/3 มกราคม 2544--
-ยก-
ดร.บัณฑิต นิจถาวร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ ในฐานะโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนกันยายน 2543 หนี้ต่างประเทศรวม ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2543 ลดลง 1.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการชำระคืนหนี้ของภาคเอกชน ประกอบกับการอ่อนตัวของค่าเงินเยน
หนี้ภาคเอกชน ลดลงประมาณ 0.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ภาคธนาคาร ลดลง 0.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากการชำระคืนที่เพิ่มขึ้นมาก ส่วนใหญ่เป็นการชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์ ส่วนการชำระคืนของกิจการวิเทศธนกิจชะลอลง สำหรับ หนี้ภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคาร ยังคงลดลงต่อเนื่องอีก 0.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด
หนี้ภาคทางการ ลดลง 0.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดลงเกือบ 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ตามผลของค่าเงิน ส่วนหนี้ภาครัฐบาลลดลง 0.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนหนึ่งจากการชำระคืนหนี้ที่สูงกว่าการเบิกจ่าย ซึ่งในเดือนนี้มีการชำระคืนเงินกู้ก่อนครบกำหนดของรัฐวิสาหกิจจำนวนประมาณ 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ประกอบกับค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง
เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2542
ยอดคงค้างหนี้ต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2543 ลดลง 13.0 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหนี้ภาคเอกชนลดลงจากการชำระคืนหนี้ที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่วนหนี้ภาคทางการลดลงตามผลของค่าเงินเยนที่ อ่อนตัวลง
หนี้ภาคเอกชน ลดลงถึง 11.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในจำนวนนี้เป็นการลดลงของ หนี้ภาคธุรกิจที่ ไม่ใช่ธนาคาร ถึง 7.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยลดลงมากในหนี้ระยะยาวที่มีการชำระคืนสูง โดยเฉพาะในช่วงต้นปี ซึ่งมีการออกตราสารหนี้ในประเทศมาก ส่วนหนึ่งนำไปชำระหนี้เพื่อลดภาระหนี้ต่างประเทศลง สำหรับ หนี้ภาคธนาคาร ลดลง 4.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของหนี้ระยะสั้น
หนี้ภาคทางการ ลดลง 1.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ.เป็นผลของค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง
โครงสร้างหนี้ต่างประเทศ : ดีขึ้น โดยสัดส่วนหนี้ระยะยาวต่อระยะสั้นเป็น 82 : 18 และ สัดส่วนหนี้ภาคเอกชนต่อภาคทางการ เป็น 58 : 42 เทียบกับ ณ สิ้นปีก่อนที่มีสัดส่วน 79 : 21 และสัดส่วน 62: 38 ตามลำดับ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/3 มกราคม 2544--
-ยก-