ข่าวในประเทศ
1. ธปท.นำเงินบริจาคของหลวงตามหาบัวเข้าบัญชีทุนสำรองเงินตราสายออกบัตรธนาคารแล้ว ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ธปท.ได้มีหนังสือกราบเรียนหลวงตัวมหาบัวเมื่อวันที่ 8 ก.ย.43 เพื่อให้ทราบเรื่องการนำทองคำ และเงินดอลลาร์ สรอ.เข้าโครงการช่วยชาติโดยหลวงตามหาบัว เข้าบัญชีทุนสำรองเงินตราเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว โดย ธปท.ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค.43 ธปท.ได้นำเงินดอลลาร์ สรอ.และทองคำที่ได้รับจากการบริจาคเข้าบัญชีทุนสำรองเงินตราของสายออกบัตรธนาคาร รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 14.169 ล.ดอลลาร์ สรอ. แบ่งเป็นเงินดอลลาร์ สรอ. 4.659 ล.ดอลลาร์ (รวมเงินต้นและดอกเบี้ย) และทองคำมูลค่าเทียบเท่า 9.509 ล.ดอลลาร์ ทั้งนี้ ธปท.ได้ดำเนินการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของทองคำที่ได้รับบริจาคก่อนนำเข้าบัญชีทุนสำรองฯ โดยว่าจ้างบริษัท Bangkok Assay Office เจาะทองคำเพื่อนำไปพิสูจน์เมื่อ 7-9 ส.ค.43 ผลการวิเคราะห์ปรากฏว่า ทองคำมีความบริสุทธิ์ที่ระดับร้อยละ 99.990-99.996 ซึ่งเป็นค่าความบริสุทธิ์ตามมาตรฐานสากล (กรุงเทพธุรกิจ 9)
2. ยอดการปล่อยสินเชื่อของ ธพ.ต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในช่วงครึ่งแรกปี 43 แหล่งข่าวจาก ธปท.เปิดเผยว่า การให้สินเชื่อของ ธพ.ทั้งระบบ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.43 มีจำนวน 4.83 ล้านล้านบาท เป็นการปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคเศรษฐกิจสำคัญ 2.18 ล้านล้านบาท สินเชื่อที่ปล่อยให้ภาคเศรษฐกิจที่มีความสำคัญน้อย 2.75 แสน ล.บาท และภาคเศรษฐกิจทั่วไป 2.37 ล้านล้านบาท โดยยอดการปล่อยกู้ดังกล่าวต่ำกว่าเป้าหมายที่ ธพ.ส่งแผนให้ ธปท.ประมาณ 5.25 แสน ล.บาท หรือร้อยละ 9.80 โดยตัวเลขเป้าหมายมีจำนวน 5.36 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อในภาคเศรษฐกิจสำคัญ 2.43 ล้านล้านบาท สินเชื่อแก่ภาคเศรษฐกิจที่มีความสำคัญน้อย 3.23 แสน ล.บาท และสินเชื่อแก่ภาคเศรษฐกิจทั่วไป 2.59 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ สินเชื่อที่ปล่อยให้แก่ภาคเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ ต่ำกว่าเป้าหมายทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการส่งออกสามารถปล่อยกู้ได้เพียง 1.44 แสน ล.บาท เทียบกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 1.66 แสน ล.บาท หรือต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 13.11 ส่วนสินเชื่อที่สูงกว่าเป้าหมายมีเพียงสินเชื่อพาณิชย์นาวีที่ปล่อยกู้เป็นจำนวน 1.25 หมื่น ล.บาท สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 5.25 ขณะที่สินเชื่อธุรกิจสนามกอล์ฟมีจำนวน 6.86 พัน ล.บาท สูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 5.15 พัน ล.บาท คิดเป็นร้อยละ 33.17 ซึ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อของ ธพ.ไทยเท่านั้น โดยส่วนหนึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง ส่วนสินเชื่อเพื่อซื้อขายที่ดินเปล่ามียอดปล่อยกู้ทั้งสิ้น 8.44 พัน ล.บาท ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 12.19 (มติชน 11)
3. ไทยยังมีความสามารถในการแข่งขันแม้ค่าเงินบาทจะอ่อนลงในช่วงนี้ ผู้ว่าการ ธปท.เปิดเผยว่า การที่เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงนี้ เนื่องจากเงินดอลลาร์ สรอ.แข็งค่าขึ้นมาก ส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคเอชียอ่อนลงเกือบทุกประเทศ แต่เมื่อพิจารณาดัชนีค่าเงินที่แท้จริงแล้ว ค่าเงินบาทยังอยู่ที่ระดับ 86-87 ขณะที่ในปี 37 ดัชนีค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 100 ซึ่งเท่ากับความสามารถในการแข่งขันของค่าเงินบาทเปรียบเทียบกับประเทศคู่ค้ายังสามารถแข่งขันต่อไปได้ เพราะเมื่อเงินบาทอ่อนค่าลง ค่าเงินอื่นๆ ในภูมิภาคก็อ่อนลงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทคงอยู่ในระดับนี้ไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากยังไม่มีข่าวดีมาสนับสนุนให้แข็งค่าขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลา แต่ ธปท.จะไม่เข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด เพราะไม่ส่งผลดีต่อประเทศ (เดลินิวส์ 11)
ข่าวต่างประเทศ
1. สินเชื่อผู้บริโภคของ สรอ. เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงในเดือน ก.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 43 ธ. กลาง สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ก.ค. 43 สินเชื่อเพื่อการผ่อนส่งของผู้บริโภค ที่ปรับตัวเลขตามฤดูกาล อยู่ที่มูลค่า 9.4 พัน ล. ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 ต่อปี เทียบกับตัวเลขปรับใหม่ในเดือน มิ.ย. ที่มีมูลค่าถึง 14.7 พัน ล. ดอลลาร์ จากตัวเลขเบื้องต้นที่มูลค่า 12 พัน ล. ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 ต่อปี ทั้งนี้ การที่สินเชื่อผู้บริโภคฯเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงในครั้งนี้ บ่งชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นกำลังส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค นักวิเคราะห์ กล่าวว่า อัตราสินเชื่อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายงานของผู้ค้ารถยนต์ใหม่ที่ลดลงในช่วงครึ่งปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ธ. กลาง สรอ. ตั้งแต่กลางปี 42 ซึ่งผลักดันให้ต้นทุนเงินกู้สูงขึ้น ทั้งนี้ในเดือน ก.ค. 43 ยอดสินเชื่อเพื่อซื้อรถยนต์ มีอัตราต่ำสุดในรอบ 3 เดือนนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 43 ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 6.3 พัน ล. ดอลลาร์ (รอยเตอร์ 8)
2. เอเปกเพิ่มเพดานการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 800,000 บาร์เรลต่อวัน รายงานจากเวียนนา เมื่อวันที่ 10 ก.ย.43 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 10 ก.ย.43 กลุ่มโอเปกมีมติให้กลุ่มประเทศสมาชิก 10 ประเทศ ไม่รวมอิรัก เพิ่มเพดานการผลิตน้ำมันดิบขึ้นอีก 800,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.43 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันของโอเปกเพิ่มขึ้นเป็น 26.2 ล.บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ การเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันของโอเปกครั้งนี้ เพื่อดึงให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงและบรรเทาความกังวลของนานาประเทศที่เกรงว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะส่งผลให้เงินเฟ้อของประเทศต่าง ๆ เพิ่มขึ้น และจะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกตกต่ำลง โดยรัฐมนตรีน้ำมันของโอเปกกล่าวว่า การเพิ่มการผลิตน้ำมันของโอเปกจะทำให้ราคาน้ำมันลดลงมาอยู่ในระดับประมาณ บาร์เรลละ 22-28 ดอลลาร์ สรอ. (รอยเตอร์ 10)
3. คำสั่งซื้อเครื่องจักรกลของภาคเอกชนญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 11.7 ในเดือน ก.ค.43 รายงานจากโตเกียว เมื่อวันที่ 8 ก.ย.43 สำนักวางแผนเศรษฐกิจของญี่ปุ่น (EPA) รายงานว่า เดือน ก.ค.43 คำสั่งซื้อเครื่องจักรกลของภาคเอกชนญี่ปุ่นที่เป็นแกน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้วัดการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนของบริษัท ที่ปรับฤดูกาลแล้ว ลดลงร้อยละ 11.7 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.4 ในเดือน มิ.ย.43 แต่หากไม่รวมคำสั่งซื้อฯ ของบริษัทผลิตไฟฟ้าและบริษัทต่อเรือ คำสั่งซื้อฯ ของภาคเอกชนลดลงร้อยละ 5.0 ส่วนคำสั่งซื้อเครื่องจักรกลโดยรวมทั้งของภาครัฐและเอกชน ลดลงร้อยละ 7.6 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.3 ในเดือน มิ.ย.43 (รอยเตอร์ 8)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 8 ก.ย. 43 41.476 (41.416)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน)ณสิ้นวันทำการ 8 ก.ย.43
ซื้อ 41.2352 (41.2079) ขาย 41.5423 (41.5096)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,300 (5,300) ขาย 5,400 (5,400)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 29.26 (31.28)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.79 (16.79) ดีเซลหมุนเร็ว 14.24 (13.94)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.นำเงินบริจาคของหลวงตามหาบัวเข้าบัญชีทุนสำรองเงินตราสายออกบัตรธนาคารแล้ว ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ธปท.ได้มีหนังสือกราบเรียนหลวงตัวมหาบัวเมื่อวันที่ 8 ก.ย.43 เพื่อให้ทราบเรื่องการนำทองคำ และเงินดอลลาร์ สรอ.เข้าโครงการช่วยชาติโดยหลวงตามหาบัว เข้าบัญชีทุนสำรองเงินตราเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว โดย ธปท.ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค.43 ธปท.ได้นำเงินดอลลาร์ สรอ.และทองคำที่ได้รับจากการบริจาคเข้าบัญชีทุนสำรองเงินตราของสายออกบัตรธนาคาร รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 14.169 ล.ดอลลาร์ สรอ. แบ่งเป็นเงินดอลลาร์ สรอ. 4.659 ล.ดอลลาร์ (รวมเงินต้นและดอกเบี้ย) และทองคำมูลค่าเทียบเท่า 9.509 ล.ดอลลาร์ ทั้งนี้ ธปท.ได้ดำเนินการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของทองคำที่ได้รับบริจาคก่อนนำเข้าบัญชีทุนสำรองฯ โดยว่าจ้างบริษัท Bangkok Assay Office เจาะทองคำเพื่อนำไปพิสูจน์เมื่อ 7-9 ส.ค.43 ผลการวิเคราะห์ปรากฏว่า ทองคำมีความบริสุทธิ์ที่ระดับร้อยละ 99.990-99.996 ซึ่งเป็นค่าความบริสุทธิ์ตามมาตรฐานสากล (กรุงเทพธุรกิจ 9)
2. ยอดการปล่อยสินเชื่อของ ธพ.ต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในช่วงครึ่งแรกปี 43 แหล่งข่าวจาก ธปท.เปิดเผยว่า การให้สินเชื่อของ ธพ.ทั้งระบบ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.43 มีจำนวน 4.83 ล้านล้านบาท เป็นการปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคเศรษฐกิจสำคัญ 2.18 ล้านล้านบาท สินเชื่อที่ปล่อยให้ภาคเศรษฐกิจที่มีความสำคัญน้อย 2.75 แสน ล.บาท และภาคเศรษฐกิจทั่วไป 2.37 ล้านล้านบาท โดยยอดการปล่อยกู้ดังกล่าวต่ำกว่าเป้าหมายที่ ธพ.ส่งแผนให้ ธปท.ประมาณ 5.25 แสน ล.บาท หรือร้อยละ 9.80 โดยตัวเลขเป้าหมายมีจำนวน 5.36 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อในภาคเศรษฐกิจสำคัญ 2.43 ล้านล้านบาท สินเชื่อแก่ภาคเศรษฐกิจที่มีความสำคัญน้อย 3.23 แสน ล.บาท และสินเชื่อแก่ภาคเศรษฐกิจทั่วไป 2.59 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ สินเชื่อที่ปล่อยให้แก่ภาคเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ ต่ำกว่าเป้าหมายทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการส่งออกสามารถปล่อยกู้ได้เพียง 1.44 แสน ล.บาท เทียบกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 1.66 แสน ล.บาท หรือต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 13.11 ส่วนสินเชื่อที่สูงกว่าเป้าหมายมีเพียงสินเชื่อพาณิชย์นาวีที่ปล่อยกู้เป็นจำนวน 1.25 หมื่น ล.บาท สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 5.25 ขณะที่สินเชื่อธุรกิจสนามกอล์ฟมีจำนวน 6.86 พัน ล.บาท สูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 5.15 พัน ล.บาท คิดเป็นร้อยละ 33.17 ซึ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อของ ธพ.ไทยเท่านั้น โดยส่วนหนึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง ส่วนสินเชื่อเพื่อซื้อขายที่ดินเปล่ามียอดปล่อยกู้ทั้งสิ้น 8.44 พัน ล.บาท ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 12.19 (มติชน 11)
3. ไทยยังมีความสามารถในการแข่งขันแม้ค่าเงินบาทจะอ่อนลงในช่วงนี้ ผู้ว่าการ ธปท.เปิดเผยว่า การที่เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงนี้ เนื่องจากเงินดอลลาร์ สรอ.แข็งค่าขึ้นมาก ส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคเอชียอ่อนลงเกือบทุกประเทศ แต่เมื่อพิจารณาดัชนีค่าเงินที่แท้จริงแล้ว ค่าเงินบาทยังอยู่ที่ระดับ 86-87 ขณะที่ในปี 37 ดัชนีค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 100 ซึ่งเท่ากับความสามารถในการแข่งขันของค่าเงินบาทเปรียบเทียบกับประเทศคู่ค้ายังสามารถแข่งขันต่อไปได้ เพราะเมื่อเงินบาทอ่อนค่าลง ค่าเงินอื่นๆ ในภูมิภาคก็อ่อนลงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทคงอยู่ในระดับนี้ไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากยังไม่มีข่าวดีมาสนับสนุนให้แข็งค่าขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลา แต่ ธปท.จะไม่เข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด เพราะไม่ส่งผลดีต่อประเทศ (เดลินิวส์ 11)
ข่าวต่างประเทศ
1. สินเชื่อผู้บริโภคของ สรอ. เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงในเดือน ก.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 43 ธ. กลาง สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ก.ค. 43 สินเชื่อเพื่อการผ่อนส่งของผู้บริโภค ที่ปรับตัวเลขตามฤดูกาล อยู่ที่มูลค่า 9.4 พัน ล. ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 ต่อปี เทียบกับตัวเลขปรับใหม่ในเดือน มิ.ย. ที่มีมูลค่าถึง 14.7 พัน ล. ดอลลาร์ จากตัวเลขเบื้องต้นที่มูลค่า 12 พัน ล. ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 ต่อปี ทั้งนี้ การที่สินเชื่อผู้บริโภคฯเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงในครั้งนี้ บ่งชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นกำลังส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค นักวิเคราะห์ กล่าวว่า อัตราสินเชื่อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรายงานของผู้ค้ารถยนต์ใหม่ที่ลดลงในช่วงครึ่งปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ธ. กลาง สรอ. ตั้งแต่กลางปี 42 ซึ่งผลักดันให้ต้นทุนเงินกู้สูงขึ้น ทั้งนี้ในเดือน ก.ค. 43 ยอดสินเชื่อเพื่อซื้อรถยนต์ มีอัตราต่ำสุดในรอบ 3 เดือนนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 43 ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 6.3 พัน ล. ดอลลาร์ (รอยเตอร์ 8)
2. เอเปกเพิ่มเพดานการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 800,000 บาร์เรลต่อวัน รายงานจากเวียนนา เมื่อวันที่ 10 ก.ย.43 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 10 ก.ย.43 กลุ่มโอเปกมีมติให้กลุ่มประเทศสมาชิก 10 ประเทศ ไม่รวมอิรัก เพิ่มเพดานการผลิตน้ำมันดิบขึ้นอีก 800,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.43 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันของโอเปกเพิ่มขึ้นเป็น 26.2 ล.บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ การเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันของโอเปกครั้งนี้ เพื่อดึงให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงและบรรเทาความกังวลของนานาประเทศที่เกรงว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะส่งผลให้เงินเฟ้อของประเทศต่าง ๆ เพิ่มขึ้น และจะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกตกต่ำลง โดยรัฐมนตรีน้ำมันของโอเปกกล่าวว่า การเพิ่มการผลิตน้ำมันของโอเปกจะทำให้ราคาน้ำมันลดลงมาอยู่ในระดับประมาณ บาร์เรลละ 22-28 ดอลลาร์ สรอ. (รอยเตอร์ 10)
3. คำสั่งซื้อเครื่องจักรกลของภาคเอกชนญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 11.7 ในเดือน ก.ค.43 รายงานจากโตเกียว เมื่อวันที่ 8 ก.ย.43 สำนักวางแผนเศรษฐกิจของญี่ปุ่น (EPA) รายงานว่า เดือน ก.ค.43 คำสั่งซื้อเครื่องจักรกลของภาคเอกชนญี่ปุ่นที่เป็นแกน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้วัดการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนของบริษัท ที่ปรับฤดูกาลแล้ว ลดลงร้อยละ 11.7 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.4 ในเดือน มิ.ย.43 แต่หากไม่รวมคำสั่งซื้อฯ ของบริษัทผลิตไฟฟ้าและบริษัทต่อเรือ คำสั่งซื้อฯ ของภาคเอกชนลดลงร้อยละ 5.0 ส่วนคำสั่งซื้อเครื่องจักรกลโดยรวมทั้งของภาครัฐและเอกชน ลดลงร้อยละ 7.6 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.3 ในเดือน มิ.ย.43 (รอยเตอร์ 8)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 8 ก.ย. 43 41.476 (41.416)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน)ณสิ้นวันทำการ 8 ก.ย.43
ซื้อ 41.2352 (41.2079) ขาย 41.5423 (41.5096)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,300 (5,300) ขาย 5,400 (5,400)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 29.26 (31.28)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.79 (16.79) ดีเซลหมุนเร็ว 14.24 (13.94)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-