นายเชิดชัย ขันธ์นะภา รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยรายงานเบื้องต้นฐานะการคลังของภาคสาธารณะตามระบบ GFS ซึ่งประกอบด้วยฐานะการคลังของรัฐบาลและผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงินประจำไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2544 โดยสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2544
ดุลการคลังของภาคสาธารณะขาดดุลร้อยละ 1.1 ของ GDP ขาดดุลเพิ่มขึ้นจาก ช่วงเดียวกับปีที่แล้ว ร้อยละ 24.5 รัฐบาลมีบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการขาดดุลของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.3 ในขณะที่รัฐวิสาหกิจมีบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยลง จากการขาดดุลการดำเนินงานลดลง ร้อยละ 23.9
ดุลการคลังของภาคสาธารณะตามระบบ GFS ในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2544 ขาดดุลจำนวน 55,829 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.1 ของ GDP ขาดดุลเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกับปีที่แล้ว 10,985.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 24.5 สาเหตุเนื่องจากการขาดดุลของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 15,609.6 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 61.3
รายได้ของรัฐบาลในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2544 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.2 ในขณะที่รายจ่ายของรัฐบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 ส่วนการเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ต่อเนื่องจากโครงการเดิมที่มีอยู่แล้วซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกับปีที่แล้วเล็กน้อย
บทบาทและการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจที่มีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจชะลอตัวลง เนื่องจากเงินสดที่มีไว้ในการลงทุนและรายจ่ายลงทุนลดลงร้อยละ 13.3 และ 17 ตามลำดับส่งผลให้ดุลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจขาดดุลลดลงร้อยละ 23.9
ในช่วง 2 ไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2544
ดุลการคลังของภาคสาธารณะขาดดุลร้อยละ 1.6 ของ GDP ขาดดุลลดลงจากช่วงเดียวกับปีที่แล้วร้อยละ 10 รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจแต่เพียงลำพัง ส่วนรัฐวิสาหกิจมีการใช้จ่ายงบลงทุนลดลงดุลการคลังของภาคสาธารณะตามระบบ GFS ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2544ขาดดุล 81,721.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.6 ของ GDP ขาดดุลลดลง 9,102.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10 สาเหตุเนื่องมาจากรัฐวิสาหกิจมีผลการดำเนินงานเกินดุล จำนวน 19,019 ล้านบาท ในขณะที่รัฐบาลขาดดุลสูงถึง 100,740.7 ล้านบาท
รายได้ของรัฐบาลในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2544 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.8 ในขณะที่รายจ่ายของรัฐบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 แต่การเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศใกล้เคียงกัน ส่วนดุลกองทุนนอกงบประมาณในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ขาดดุลเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับปีที่แล้วที่เกินดุล เนื่องจากยังขาดข้อมูลของกองทุนนอกงบประมาณบางส่วนที่สำคัญ คือ กองทุนประกันสังคมซึ่งตามปกติจะมีฐานะเกินดุล
สำหรับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2544 เงินสดที่มีไว้เพื่อใช้ในการลงทุนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ร้อยละ 11.2 ในขณะที่การใช้จ่ายในการลงทุนลดลงร้อยละ 20.1
--ข่าวกระทรวงการคลัง กองกลาง สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 42/2544 28 มิถุนายน 2544--
-อน-
ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2544
ดุลการคลังของภาคสาธารณะขาดดุลร้อยละ 1.1 ของ GDP ขาดดุลเพิ่มขึ้นจาก ช่วงเดียวกับปีที่แล้ว ร้อยละ 24.5 รัฐบาลมีบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการขาดดุลของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.3 ในขณะที่รัฐวิสาหกิจมีบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยลง จากการขาดดุลการดำเนินงานลดลง ร้อยละ 23.9
ดุลการคลังของภาคสาธารณะตามระบบ GFS ในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2544 ขาดดุลจำนวน 55,829 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.1 ของ GDP ขาดดุลเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกับปีที่แล้ว 10,985.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 24.5 สาเหตุเนื่องจากการขาดดุลของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 15,609.6 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 61.3
รายได้ของรัฐบาลในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2544 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.2 ในขณะที่รายจ่ายของรัฐบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 ส่วนการเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ต่อเนื่องจากโครงการเดิมที่มีอยู่แล้วซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกับปีที่แล้วเล็กน้อย
บทบาทและการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจที่มีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจชะลอตัวลง เนื่องจากเงินสดที่มีไว้ในการลงทุนและรายจ่ายลงทุนลดลงร้อยละ 13.3 และ 17 ตามลำดับส่งผลให้ดุลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจขาดดุลลดลงร้อยละ 23.9
ในช่วง 2 ไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2544
ดุลการคลังของภาคสาธารณะขาดดุลร้อยละ 1.6 ของ GDP ขาดดุลลดลงจากช่วงเดียวกับปีที่แล้วร้อยละ 10 รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจแต่เพียงลำพัง ส่วนรัฐวิสาหกิจมีการใช้จ่ายงบลงทุนลดลงดุลการคลังของภาคสาธารณะตามระบบ GFS ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2544ขาดดุล 81,721.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.6 ของ GDP ขาดดุลลดลง 9,102.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10 สาเหตุเนื่องมาจากรัฐวิสาหกิจมีผลการดำเนินงานเกินดุล จำนวน 19,019 ล้านบาท ในขณะที่รัฐบาลขาดดุลสูงถึง 100,740.7 ล้านบาท
รายได้ของรัฐบาลในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2544 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.8 ในขณะที่รายจ่ายของรัฐบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 แต่การเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศใกล้เคียงกัน ส่วนดุลกองทุนนอกงบประมาณในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ขาดดุลเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับปีที่แล้วที่เกินดุล เนื่องจากยังขาดข้อมูลของกองทุนนอกงบประมาณบางส่วนที่สำคัญ คือ กองทุนประกันสังคมซึ่งตามปกติจะมีฐานะเกินดุล
สำหรับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2544 เงินสดที่มีไว้เพื่อใช้ในการลงทุนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ร้อยละ 11.2 ในขณะที่การใช้จ่ายในการลงทุนลดลงร้อยละ 20.1
--ข่าวกระทรวงการคลัง กองกลาง สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 42/2544 28 มิถุนายน 2544--
-อน-