นายเกริกไกร จีระแพทย์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่ประเทศไต้หวันประกาศดำเนินการไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้ากระดาษพิมพ์เขียนจากประเทศไทย (UNCOATED PRINTING $ WRITING PAPER) ตั้งแต่เดือนมกราคม 2542 เป็นต้นมา และได้ประกาศผลการพิจารณาขั้นต้น เมื่อเดือนกรกฎาคม 2542 ที่ผ่านมา โดยจะเรียกเก็บอัตราอากรตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าจากประเทศไทย ในอัตราร้อยละ 10 — 26 ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2 ) และผู้ผลิตของไทยในการจัดเตรียมข้อมูลและดำเนินการต่อสู้คดี ตลอดจนประสานกับสมาคมผู้นำเข้า เพื่อให้ประเทศไต้หวันยุติการไต่สวน และในที่สุดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2542 ประเทศไต้หวันได้ประกาศยุติการไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้ากระดาษพิมพ์เขียนจากประเทศไทย เนื่องจากการพิจารณาขั้นสุดท้าย ไม่พบความเสียหายต่ออุตสาหกรรมภายในของไต้หวัน
นอกจากนี้ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2541 ไต้หวันเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย อันดับที่ 4 รองจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และฮ่องกง โดยมีการส่งออกปริมาณ2,501.6 ตัน มูลค่า 46.68 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2540 ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 558 และ 376 ตามลำดับ ในช่วงปี 2542 (เดือนมกราคม — ตุลาคม) มีการส่งออกสินค้ากระดาษพิมพ์เขียนไปไต้หวันเป็นปริมาณ 4,200.7 ตัน มูลค่า 90.2 ล้านบาท จะเห็นว่าการส่งออกได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้น คาดว่าหลังจากการประกาศยุติการไต่สวนทุ่มตลาดแล้ว จะมีผลให้การส่งออกของไทยขยายตลาดได้กว้างขวางยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผู้ผลิต/ผู้ส่งออก ควรระมัดระวังในเรื่องการเสนอขายสินค้า โดยเฉพาะราคาส่งออก และราคาขายภายในประเทศ เพื่อมิให้เกิดปัญหาเช่นที่ผ่านมา อีกทั้งหากถูกกล่าวหาว่าทุ่มตลาดผู้ผลิต/ผู้ส่งออก ควรร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในการเตรียมข้อมูล ตอบแบบสอบถาม และประเด็นโต้แย้งในการต่อสู้คดีด้วย
--กรมการค้าต่างประเทศ กุมภาพันธ์ 2543--
-อน-
นอกจากนี้ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2541 ไต้หวันเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย อันดับที่ 4 รองจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และฮ่องกง โดยมีการส่งออกปริมาณ2,501.6 ตัน มูลค่า 46.68 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2540 ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 558 และ 376 ตามลำดับ ในช่วงปี 2542 (เดือนมกราคม — ตุลาคม) มีการส่งออกสินค้ากระดาษพิมพ์เขียนไปไต้หวันเป็นปริมาณ 4,200.7 ตัน มูลค่า 90.2 ล้านบาท จะเห็นว่าการส่งออกได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้น คาดว่าหลังจากการประกาศยุติการไต่สวนทุ่มตลาดแล้ว จะมีผลให้การส่งออกของไทยขยายตลาดได้กว้างขวางยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผู้ผลิต/ผู้ส่งออก ควรระมัดระวังในเรื่องการเสนอขายสินค้า โดยเฉพาะราคาส่งออก และราคาขายภายในประเทศ เพื่อมิให้เกิดปัญหาเช่นที่ผ่านมา อีกทั้งหากถูกกล่าวหาว่าทุ่มตลาดผู้ผลิต/ผู้ส่งออก ควรร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในการเตรียมข้อมูล ตอบแบบสอบถาม และประเด็นโต้แย้งในการต่อสู้คดีด้วย
--กรมการค้าต่างประเทศ กุมภาพันธ์ 2543--
-อน-