1. การเพิ่มเติมประเภทสินทรัพย์สภาพคล่องของสถาบันการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกหนังสือเวียนลงวันที่ 8 ตุลาคม 2544 เพิ่มเติมประเภทหลักทรัพย์และตราสารที่จะนำมาดำรงเป็นสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ดังนี้
1) ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับ โครงสร้างหนี้ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง ซึ่ง ถือเป็นหลักทรัพย์รัฐบาลไทย
2) พันธบัตรรัฐบาลที่ออกตาม โครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และ 2 ซึ่ง ถือเป็นหลักทรัพย์รัฐบาลไทย
3) ตั๋วสัญญาใช้เงินของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย - บสท. (Thai Asset Management Corporation - TAMC) ซึ่งถือเป็นตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินค้ำประกันหรือ อาวัลต้นเงินและดอกเบี้ยทางด้านบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ให้เพิ่มสินทรัพย์ที่ปราศจากภาระผูกพัน ดังนี้
1) ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับ โครงสร้างหนี้ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง
2) พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
3) หุ้นกู้ พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินค้ำประกันหรืออาวัลต้นเงินและดอกเบี้ย
4) หลักทรัพย์ที่บรรษัทตลาดรอง สินเชื่อที่อยู่อาศัยออกใหม่สืบเนื่องจากโครงการ แปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ตามพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540
5) ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ กรุงไทยธนกิจ จำกัด (มหาชน) และบัตรเงินฝากที่ออกโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตามโครงการรับแลกเปลี่ยนตั๋ว 56 บริษัทเงินทุนที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ
6) เงินให้กู้ยืมเผื่อเรียกแก่ธนาคาร ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยและกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2544 เป็นต้นไป
2. หลักเกณฑ์สำหรับบริษัทบริหารสินทรัพย์ ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกหนังสือเวียนลงวันที่ 5 ตุลาคม 2544 แก่สถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ โดยอนุญาตให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ที่ ไม่ได้จำนองไว้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ จากการขายทอดตลาด โดยคำสั่งศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หรือจากเจ้าหนี้ร่วมในกรณีการ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้ ซึ่งบริษัทต้องทยอยจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ออกไปให้หมดภายใน 10 ปี โดยถือปฏิบัติเช่นเดียวกับการ ถือครองอสังหาริมทรัพย์รอการขาย
ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2544 เป็นต้นไป
3. แนวทางการปฎิบัติงานตรวจสอบภายในของสถาบันการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกหนังสือเวียนกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานตรวจสอบ ภายในของสถาบันการเงินลงวันที่ 15 ตุลาคม 2544 เพื่อให้การตรวจสอบเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วย โครงสร้างการตรวจสอบภายใน หน้าที่และความรับผิดชอบหลักของผู้ตรวจสอบภายใน ขอบเขตของงานตรวจสอบ การรายงานและการจัดทำเอกสาร
ทั้งนี้ ให้ใช้เป็นแนวทางทั่วไปของผู้ตรวจสอบภายในของสถาบันการเงิน ซึ่งไม่ได้แสดงขั้นตอนการตรวจสอบการปฏิบัติงานทุกด้านของสถาบันการเงินอย่างละเอียดเท่านั้นผู้ตรวจสอบภายในต้องศึกษาแนวทางการตรวจสอบภายในที่ออกโดยหน่วยงานหรือสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เช่น The Institute of Internal Auditors (IIA) COSO (The Committee Of Sponsoring Organization of the Treadway Commission องค์กรทางวิชาชีพที่เกี่ยวกับวิชาชีพด้านการบัญชีและการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา 5 องค์กร) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชี รับอนุญาตแห่งประเทศไทย เป็นต้น
4. การจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ซึ่งธนาคารพาณิชย์มีไว้เพื่อเป็นสำนักงานสาขา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกหนังสือเวียนลงวันที่ 29 ตุลาคม 2544 กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้ธนาคารพาณิชย์ถือปฏิบัติเกี่ยวกับการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ เพื่อความชัดเจนเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การถือครองอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งธนาคารพาณิชย์มีไว้เพื่อเป็นสำนักงานสาขาแต่มิได้ใช้ประโยชน์ ในกรณีการย้ายสำนักงาน การปิดสำนักงานสาขา หรือ การยกเลิกการเปิดสำนักงานสาขา เมื่อธนาคารพาณิชย์ได้รับอนุญาตแล้ว ต้องจำหน่ายหรือ ยกเลิกการเช่าที่ดินและอาคารสำนักงานที่ใช้เป็นสถานที่ทำการให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ย้ายไปเปิดดำเนินการสำนักงานแห่งใหม่ หรือ นับแต่วันที่ปิดดำเนินการ หรือนับแต่วันที่แจ้งยกเลิกการเปิดสาขาแล้วแต่กรณี หากระยะเวลาดำเนินการจำหน่ายหรือยกเลิกการเช่าที่ดินและอาคารแต่ละกรณีสิ้นสุดลงก่อนสิ้นปี 2547 ให้สามารถขยายระยะเวลาดังกล่าวได้อีก 3 ปี นับแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2544 แต่ไม่เกินสิ้นปี 2547
5. การอนุญาตให้นำอสังหาริมทรัพย์ออกให้เช่า
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกหนังสือเวียนลงวันที่ 29 ตุลาคม 2544 กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้สถาบันการเงินถือปฏิบัติเกี่ยวกับการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้สถาบันการเงินนำที่ดินและอาคารสำนักงานซึ่งอยู่ระหว่างรอการจำหน่าย อันเนื่อง มาจากการย้าย การปิด หรือการระงับหรือยกเลิกการเปิดสำนักงานสาขาออกให้เช่าได้ภายใต้เงื่อนไข ดังต่อไปนี้
1) ต้องเป็นการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังมิได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่โดยให้เช่าเป็นการชั่วคราวครั้งละไม่เกิน 3 ปี และเมื่อนำพื้นที่ของสำนักงานใดออกให้เช่าแล้ว สำนักงานแห่งนั้นต้องไม่เช่าหรือซื้อพื้นที่เพิ่มเติมอีก รวมทั้งการเช่าต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้พื้นที่ของสถาบันการเงิน
2) ต้องเป็นการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ ได้รับมาจากการชำระหนี้ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของอสังหาริมทรัพย์ โดยให้เช่าเป็นการ ชั่วคราวครั้งละไม่เกิน 3 ปี และต้องไม่เป็นอุปสรรคในการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์นั้น
3) ต้องเป็นการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งธนาคารพาณิชย์ซื้อหรือมีไว้เพื่อใช้เป็นสำนักงานสาขา แต่อยู่ระหว่างรอการจำหน่าย อันเนื่องมาจากการย้าย การปิด และการระงับหรือยกเลิกการเปิดสำนักงานเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเปล่าทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ การให้เช่าต้องเป็นการชั่วคราวและไม่เป็นอุปสรรคในการจำหน่าย อสังหาริมทรัพย์นั้น รวมทั้งต้องไม่เกินกว่าระยะเวลาการถือครอง ที่เหลืออยู่
4) ต้องคิดค่าเช่าหรือผลประโยชน์ที่ เหมาะสมเป็นทางการค้าปกติ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกหนังสือเวียนลงวันที่ 8 ตุลาคม 2544 เพิ่มเติมประเภทหลักทรัพย์และตราสารที่จะนำมาดำรงเป็นสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ดังนี้
1) ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับ โครงสร้างหนี้ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง ซึ่ง ถือเป็นหลักทรัพย์รัฐบาลไทย
2) พันธบัตรรัฐบาลที่ออกตาม โครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และ 2 ซึ่ง ถือเป็นหลักทรัพย์รัฐบาลไทย
3) ตั๋วสัญญาใช้เงินของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย - บสท. (Thai Asset Management Corporation - TAMC) ซึ่งถือเป็นตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินค้ำประกันหรือ อาวัลต้นเงินและดอกเบี้ยทางด้านบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ให้เพิ่มสินทรัพย์ที่ปราศจากภาระผูกพัน ดังนี้
1) ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับ โครงสร้างหนี้ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง
2) พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่ออกโดยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
3) หุ้นกู้ พันธบัตร หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินค้ำประกันหรืออาวัลต้นเงินและดอกเบี้ย
4) หลักทรัพย์ที่บรรษัทตลาดรอง สินเชื่อที่อยู่อาศัยออกใหม่สืบเนื่องจากโครงการ แปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ตามพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540
5) ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ กรุงไทยธนกิจ จำกัด (มหาชน) และบัตรเงินฝากที่ออกโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตามโครงการรับแลกเปลี่ยนตั๋ว 56 บริษัทเงินทุนที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ
6) เงินให้กู้ยืมเผื่อเรียกแก่ธนาคาร ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยและกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2544 เป็นต้นไป
2. หลักเกณฑ์สำหรับบริษัทบริหารสินทรัพย์ ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกหนังสือเวียนลงวันที่ 5 ตุลาคม 2544 แก่สถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ โดยอนุญาตให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ที่ ไม่ได้จำนองไว้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ จากการขายทอดตลาด โดยคำสั่งศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หรือจากเจ้าหนี้ร่วมในกรณีการ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้ ซึ่งบริษัทต้องทยอยจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ออกไปให้หมดภายใน 10 ปี โดยถือปฏิบัติเช่นเดียวกับการ ถือครองอสังหาริมทรัพย์รอการขาย
ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2544 เป็นต้นไป
3. แนวทางการปฎิบัติงานตรวจสอบภายในของสถาบันการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกหนังสือเวียนกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานตรวจสอบ ภายในของสถาบันการเงินลงวันที่ 15 ตุลาคม 2544 เพื่อให้การตรวจสอบเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วย โครงสร้างการตรวจสอบภายใน หน้าที่และความรับผิดชอบหลักของผู้ตรวจสอบภายใน ขอบเขตของงานตรวจสอบ การรายงานและการจัดทำเอกสาร
ทั้งนี้ ให้ใช้เป็นแนวทางทั่วไปของผู้ตรวจสอบภายในของสถาบันการเงิน ซึ่งไม่ได้แสดงขั้นตอนการตรวจสอบการปฏิบัติงานทุกด้านของสถาบันการเงินอย่างละเอียดเท่านั้นผู้ตรวจสอบภายในต้องศึกษาแนวทางการตรวจสอบภายในที่ออกโดยหน่วยงานหรือสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เช่น The Institute of Internal Auditors (IIA) COSO (The Committee Of Sponsoring Organization of the Treadway Commission องค์กรทางวิชาชีพที่เกี่ยวกับวิชาชีพด้านการบัญชีและการเงินในประเทศสหรัฐอเมริกา 5 องค์กร) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชี รับอนุญาตแห่งประเทศไทย เป็นต้น
4. การจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ซึ่งธนาคารพาณิชย์มีไว้เพื่อเป็นสำนักงานสาขา
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกหนังสือเวียนลงวันที่ 29 ตุลาคม 2544 กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้ธนาคารพาณิชย์ถือปฏิบัติเกี่ยวกับการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ เพื่อความชัดเจนเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การถือครองอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งธนาคารพาณิชย์มีไว้เพื่อเป็นสำนักงานสาขาแต่มิได้ใช้ประโยชน์ ในกรณีการย้ายสำนักงาน การปิดสำนักงานสาขา หรือ การยกเลิกการเปิดสำนักงานสาขา เมื่อธนาคารพาณิชย์ได้รับอนุญาตแล้ว ต้องจำหน่ายหรือ ยกเลิกการเช่าที่ดินและอาคารสำนักงานที่ใช้เป็นสถานที่ทำการให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ย้ายไปเปิดดำเนินการสำนักงานแห่งใหม่ หรือ นับแต่วันที่ปิดดำเนินการ หรือนับแต่วันที่แจ้งยกเลิกการเปิดสาขาแล้วแต่กรณี หากระยะเวลาดำเนินการจำหน่ายหรือยกเลิกการเช่าที่ดินและอาคารแต่ละกรณีสิ้นสุดลงก่อนสิ้นปี 2547 ให้สามารถขยายระยะเวลาดังกล่าวได้อีก 3 ปี นับแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2544 แต่ไม่เกินสิ้นปี 2547
5. การอนุญาตให้นำอสังหาริมทรัพย์ออกให้เช่า
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกหนังสือเวียนลงวันที่ 29 ตุลาคม 2544 กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้สถาบันการเงินถือปฏิบัติเกี่ยวกับการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้สถาบันการเงินนำที่ดินและอาคารสำนักงานซึ่งอยู่ระหว่างรอการจำหน่าย อันเนื่อง มาจากการย้าย การปิด หรือการระงับหรือยกเลิกการเปิดสำนักงานสาขาออกให้เช่าได้ภายใต้เงื่อนไข ดังต่อไปนี้
1) ต้องเป็นการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังมิได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่โดยให้เช่าเป็นการชั่วคราวครั้งละไม่เกิน 3 ปี และเมื่อนำพื้นที่ของสำนักงานใดออกให้เช่าแล้ว สำนักงานแห่งนั้นต้องไม่เช่าหรือซื้อพื้นที่เพิ่มเติมอีก รวมทั้งการเช่าต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้พื้นที่ของสถาบันการเงิน
2) ต้องเป็นการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ ได้รับมาจากการชำระหนี้ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของอสังหาริมทรัพย์ โดยให้เช่าเป็นการ ชั่วคราวครั้งละไม่เกิน 3 ปี และต้องไม่เป็นอุปสรรคในการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์นั้น
3) ต้องเป็นการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งธนาคารพาณิชย์ซื้อหรือมีไว้เพื่อใช้เป็นสำนักงานสาขา แต่อยู่ระหว่างรอการจำหน่าย อันเนื่องมาจากการย้าย การปิด และการระงับหรือยกเลิกการเปิดสำนักงานเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเปล่าทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ การให้เช่าต้องเป็นการชั่วคราวและไม่เป็นอุปสรรคในการจำหน่าย อสังหาริมทรัพย์นั้น รวมทั้งต้องไม่เกินกว่าระยะเวลาการถือครอง ที่เหลืออยู่
4) ต้องคิดค่าเช่าหรือผลประโยชน์ที่ เหมาะสมเป็นทางการค้าปกติ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-