สหภาพยุโรปนับว่ากลุ่มประเทศในยุโรปที่เป็นจักรกลที่มีความสำคัญที่สุดในภูมิภาคยุโรป นอกจากนี้ องค์กรและกลไกอื่น ๆ ในภูมิภาคยุโรปที่สำคัญ เช่น องค์การนาโต องค์การความร่วมมือด้านความมั่นคงแห่งยุโรป (Organization of Security Cooperation in Europe) กลุ่มเขตการค้าเสรียุโรปกลาง ฯลฯ
แนวโน้มของการพัฒนาภูมิภาคยุโรปในอนาคตนั้นมี 3 ประการที่สำคัญ
ประการแรก ยุโรปมีแนวโน้มที่จะมีนโยบายในเรื่องต่าง ๆ ในระดับภูมิภาคมากขึ้น โดยเริ่มจากนโยบายในกลุ่มของสหภาพยุโรปก่อนและขยายไปสู่ประเทศอื่น ๆ ในยุโรป โดยผ่านการมีความร่วมมือในนโยบายด้านนั้น ๆ ระหว่างสหภาพยุโรปกับประเทศอื่น ๆ ในยุโรป
ประการที่สอง สหภาพยุโรปได้พยายามมีมาตรการที่ส่งเสริมให้ประชาชนของประเทศในภูมิภาคยุโรปมีความสำนึกว่านอกเหนือจากการเป็นพลเมืองของประเทศนั้น ๆ แล้ว ยังเป็นพลเมืองยุโรปด้วย โดยมีนโยบายและมาตรการที่ส่งเสริมความเป็นพลเมืองยุโรปที่เรียกว่า Europe Citizen
ประการที่สาม นโยบายทั้งในระดับภายในประเทศและระดับภูมิภาคยุโรป ได้เน้นให้ความสำคัญอย่างมากแก่นโยบายที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต และความปลอดภัยของประชาชน เช่น นโยบายผู้บริโภค นโยบายความปลอดภัยด้านอาหาร นโยบายสังคม นโยบายสาธารณสุข นโยบายวัฒนธรรม ฯลฯ
ทิศทางของนโยบายต่าง ๆ ดังกล่าสะท้อนถึงความพยายามของยุโรปที่จะจัดระเบียบภายในภูมิภาคยุโรปควบคู่ไปกับการรักษา และส่งเสริมสถานะของยุโรป และขีดความสามารถในการแข่งขันของยุโรปในประชาคมโลก โดยในด้านการจัดระเบียบภายในภูมิภาคนั้น สหภาพยุโรปมีบทบาทเป็นแกนกลางของพัฒนาการต่าง ๆ ในภูมิภาคยุโรป โดยมีนโยบายที่สำคัญในการพัฒนากระบวนการรวมตัวของสหภาพยุโรปให้ครอบคลุมเสาหลักทั้ง 3 ด้าน อันได้แก่
1) นโยบายด้านเศรษฐกิจและนโยบายการตลาดยุโรปเดียว รวมทั้ง สหภาพเศรษฐกิจและการเงินซึ่งมีนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่เน้นการรักษาวินัยทางการเงินและการคลังเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพของเงินยูโรควบคู่ไปกับการแก้ไข ปัญหาการว่างงาน และยังมีนโยบายเกี่ยวกับการปฏิรูประบบสวัสดีการสังคมเพื่อลดภาระของภาครัฐบาล นอกจากนี้ ในส่วนของสหภาพยุโรปยังมีการพัฒนานโยบายร่วมในด้านต่าง ๆ เช่น นโยบายเกษตรร่วม นโยบายร่วมด้านการประมง นโยบายสังคม นโยบายด้านศุลกากร นโยบายป่าไม้เขตร้อน ฯลฯ โดยสหภาพยุโรปได้พยายามขยายความร่วมมือของการมีนโยบายร่วมเหล่านั้นออกไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ยุโรปด้วยโดยผ่านความตกลงด้านความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ในยุโรป ทั้งในรูปแบบของ Europe Agreement หรือ Association Agreement และ Partnership Agreement
2) การจัดระเบียบด้านการเมือง ความมั่นคงและการทหารในภูมิภาค ซึ่งมีนโยบายที่เกี่ยวข้องที่สำคัญสองกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นนโยบายขององค์กรและกลไกด้านความมั่นคงและการทหารในยุโรป อันได้แก่ นาโต้ OSCE และ The Council of Europe โดยนาโต้มีนโยบายขยายจำนวนสมาชิกออกไปสู่ประเทศในยุโรปกลางและตะวันออก และยุโรปมีแนวทางที่จะจัดระบบการประสานงานและการแบ่งงานระหว่างองค์กรความมั่นคงต่าง ๆ ให้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น กลุ่มที่สองนั้น สหภาพยุโรปกำลังพยายามพัฒนาให้เกิดนโยบายร่วมด้านการต่างประเทศและความมั่นคงและนโยบายร่วมด้านการป้องกันประเทศอย่างแท้จริง รวมทั้งพยายามพัฒนาบทบาทของสหภาพยุโรปในนาโตและในระบบความมั่นคงของยุโรปให้มากขึ้นที่เรียกว่า การพัฒนาเอกลักษณ์ด้านความมั่นคงและการป้องกันของยุโรป (European Security and Defense Indentity / ESDI)
3) การป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงในความหมายกว้าง ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อยุโรปและต่อประชาคมโลกในปัจจุบัน คือประเด็นด้าน Human Security เช่น อาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ เป็นต้น
ส่วนนโยบายภายนอกของยุโรปนั้นยุโรปยังมุ่งขยายบทบาทในทุกด้านในประชาคมโลก การส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก การมียุทธศาสตร์ความสัมพันธ์กับประเทศและกลุ่มประเทศที่สำคัญ การขยายบทบาทในองค์การการค้าโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารโลก การใช้นโยบายความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นเครื่องมือที่สำคัญของนโยบายต่างประเทศต่อไปอย่างต่อเนื่อง
สำหรับนโยบายของยุโรปต่อเอเซีย อาเซียนและไทยนั้น เดิมยุโรปได้ให้ความสำคัญต่อญี่ปุ่น จีน และคาบสมุทรเกาหลีมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควรต่อประเทศเอเซียอื่น ๆ อย่างไรก็ตามเมื่อปี 2537 สหภาพยุโรปได้จัดทำเอกสารยุทธศาสตร์ของยุโรปต่อเอเซีย ทำให้ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปหันมาสนใจและกำหนดยุทธศาสตร์ของตนต่อเอเชีย ทำให้เอเชียเป็นกลุ่มประเทศหนึ่งที่ยุโรปให้ความสำคัญและได้รับการระบุเป็นทางการในเอกสารนโยบายต่าง ๆ แม้ว่าจะยังไม่อยู่ในความสำคัญลำดับต้น ๆ ก็ตาม ต่อมาในปี 2539 สหภาพยุโรปก็ได้ออกเอกสารยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์กับอาเซียน โดยเน้นถึงความร่วมมือในหลายสาขา เช่น สิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เป็นต้น โดยสหภาพยุโรปมีนโยบายที่จะให้มีความร่วมมือในระดับภูมิภาคต่อภูมิภาค
ในกรณีของไทยนั้นสหภาพยุโรปให้ความสำคัญในฐานะประเทศที่มีบทบาทสำคัญในอาเซียนในส่วนของความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นกลไกหลักของสหภาพยุโรปในการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือกับประเทศที่สามนั้น ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาไทยได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มที่มีการปรับรูปแบบความร่วมมือจากผู้ให้-ผู้รับ เป็นความร่วมมือแบบหุ้นส่วน โดยเน้นกิจกรรมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ (Economic Cooperation) แทน นอกจากกิจกรรมระดับทวิภาคีแล้ว ยังมีความร่วมมือในระดับภูมิภาค ในกรอบ ASEAN และ ASEM รวมทั้ง ยังมีกิจกรรมในกรอบแผนงานระดับภูมิภาคของสหภาพยุโรปที่เปิดกว้างให้ประเทศต่าง ๆ เสนอโครงการความร่วมมือได้ (Horizontal Pro-gramme) เป็นการทั่วไป
ที่มา : กระทรวงการต่างประเทศ (ยุทธศาสตร์ของไทยต่อยุโรป)
--วารสาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 6/2543 วันที่ 31 มีนาคม 2543--
-อน-
แนวโน้มของการพัฒนาภูมิภาคยุโรปในอนาคตนั้นมี 3 ประการที่สำคัญ
ประการแรก ยุโรปมีแนวโน้มที่จะมีนโยบายในเรื่องต่าง ๆ ในระดับภูมิภาคมากขึ้น โดยเริ่มจากนโยบายในกลุ่มของสหภาพยุโรปก่อนและขยายไปสู่ประเทศอื่น ๆ ในยุโรป โดยผ่านการมีความร่วมมือในนโยบายด้านนั้น ๆ ระหว่างสหภาพยุโรปกับประเทศอื่น ๆ ในยุโรป
ประการที่สอง สหภาพยุโรปได้พยายามมีมาตรการที่ส่งเสริมให้ประชาชนของประเทศในภูมิภาคยุโรปมีความสำนึกว่านอกเหนือจากการเป็นพลเมืองของประเทศนั้น ๆ แล้ว ยังเป็นพลเมืองยุโรปด้วย โดยมีนโยบายและมาตรการที่ส่งเสริมความเป็นพลเมืองยุโรปที่เรียกว่า Europe Citizen
ประการที่สาม นโยบายทั้งในระดับภายในประเทศและระดับภูมิภาคยุโรป ได้เน้นให้ความสำคัญอย่างมากแก่นโยบายที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต และความปลอดภัยของประชาชน เช่น นโยบายผู้บริโภค นโยบายความปลอดภัยด้านอาหาร นโยบายสังคม นโยบายสาธารณสุข นโยบายวัฒนธรรม ฯลฯ
ทิศทางของนโยบายต่าง ๆ ดังกล่าสะท้อนถึงความพยายามของยุโรปที่จะจัดระเบียบภายในภูมิภาคยุโรปควบคู่ไปกับการรักษา และส่งเสริมสถานะของยุโรป และขีดความสามารถในการแข่งขันของยุโรปในประชาคมโลก โดยในด้านการจัดระเบียบภายในภูมิภาคนั้น สหภาพยุโรปมีบทบาทเป็นแกนกลางของพัฒนาการต่าง ๆ ในภูมิภาคยุโรป โดยมีนโยบายที่สำคัญในการพัฒนากระบวนการรวมตัวของสหภาพยุโรปให้ครอบคลุมเสาหลักทั้ง 3 ด้าน อันได้แก่
1) นโยบายด้านเศรษฐกิจและนโยบายการตลาดยุโรปเดียว รวมทั้ง สหภาพเศรษฐกิจและการเงินซึ่งมีนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่เน้นการรักษาวินัยทางการเงินและการคลังเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพของเงินยูโรควบคู่ไปกับการแก้ไข ปัญหาการว่างงาน และยังมีนโยบายเกี่ยวกับการปฏิรูประบบสวัสดีการสังคมเพื่อลดภาระของภาครัฐบาล นอกจากนี้ ในส่วนของสหภาพยุโรปยังมีการพัฒนานโยบายร่วมในด้านต่าง ๆ เช่น นโยบายเกษตรร่วม นโยบายร่วมด้านการประมง นโยบายสังคม นโยบายด้านศุลกากร นโยบายป่าไม้เขตร้อน ฯลฯ โดยสหภาพยุโรปได้พยายามขยายความร่วมมือของการมีนโยบายร่วมเหล่านั้นออกไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ยุโรปด้วยโดยผ่านความตกลงด้านความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ในยุโรป ทั้งในรูปแบบของ Europe Agreement หรือ Association Agreement และ Partnership Agreement
2) การจัดระเบียบด้านการเมือง ความมั่นคงและการทหารในภูมิภาค ซึ่งมีนโยบายที่เกี่ยวข้องที่สำคัญสองกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นนโยบายขององค์กรและกลไกด้านความมั่นคงและการทหารในยุโรป อันได้แก่ นาโต้ OSCE และ The Council of Europe โดยนาโต้มีนโยบายขยายจำนวนสมาชิกออกไปสู่ประเทศในยุโรปกลางและตะวันออก และยุโรปมีแนวทางที่จะจัดระบบการประสานงานและการแบ่งงานระหว่างองค์กรความมั่นคงต่าง ๆ ให้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น กลุ่มที่สองนั้น สหภาพยุโรปกำลังพยายามพัฒนาให้เกิดนโยบายร่วมด้านการต่างประเทศและความมั่นคงและนโยบายร่วมด้านการป้องกันประเทศอย่างแท้จริง รวมทั้งพยายามพัฒนาบทบาทของสหภาพยุโรปในนาโตและในระบบความมั่นคงของยุโรปให้มากขึ้นที่เรียกว่า การพัฒนาเอกลักษณ์ด้านความมั่นคงและการป้องกันของยุโรป (European Security and Defense Indentity / ESDI)
3) การป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงในความหมายกว้าง ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อยุโรปและต่อประชาคมโลกในปัจจุบัน คือประเด็นด้าน Human Security เช่น อาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ เป็นต้น
ส่วนนโยบายภายนอกของยุโรปนั้นยุโรปยังมุ่งขยายบทบาทในทุกด้านในประชาคมโลก การส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก การมียุทธศาสตร์ความสัมพันธ์กับประเทศและกลุ่มประเทศที่สำคัญ การขยายบทบาทในองค์การการค้าโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ และธนาคารโลก การใช้นโยบายความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นเครื่องมือที่สำคัญของนโยบายต่างประเทศต่อไปอย่างต่อเนื่อง
สำหรับนโยบายของยุโรปต่อเอเซีย อาเซียนและไทยนั้น เดิมยุโรปได้ให้ความสำคัญต่อญี่ปุ่น จีน และคาบสมุทรเกาหลีมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควรต่อประเทศเอเซียอื่น ๆ อย่างไรก็ตามเมื่อปี 2537 สหภาพยุโรปได้จัดทำเอกสารยุทธศาสตร์ของยุโรปต่อเอเซีย ทำให้ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปหันมาสนใจและกำหนดยุทธศาสตร์ของตนต่อเอเชีย ทำให้เอเชียเป็นกลุ่มประเทศหนึ่งที่ยุโรปให้ความสำคัญและได้รับการระบุเป็นทางการในเอกสารนโยบายต่าง ๆ แม้ว่าจะยังไม่อยู่ในความสำคัญลำดับต้น ๆ ก็ตาม ต่อมาในปี 2539 สหภาพยุโรปก็ได้ออกเอกสารยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์กับอาเซียน โดยเน้นถึงความร่วมมือในหลายสาขา เช่น สิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เป็นต้น โดยสหภาพยุโรปมีนโยบายที่จะให้มีความร่วมมือในระดับภูมิภาคต่อภูมิภาค
ในกรณีของไทยนั้นสหภาพยุโรปให้ความสำคัญในฐานะประเทศที่มีบทบาทสำคัญในอาเซียนในส่วนของความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นกลไกหลักของสหภาพยุโรปในการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือกับประเทศที่สามนั้น ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาไทยได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มที่มีการปรับรูปแบบความร่วมมือจากผู้ให้-ผู้รับ เป็นความร่วมมือแบบหุ้นส่วน โดยเน้นกิจกรรมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ (Economic Cooperation) แทน นอกจากกิจกรรมระดับทวิภาคีแล้ว ยังมีความร่วมมือในระดับภูมิภาค ในกรอบ ASEAN และ ASEM รวมทั้ง ยังมีกิจกรรมในกรอบแผนงานระดับภูมิภาคของสหภาพยุโรปที่เปิดกว้างให้ประเทศต่าง ๆ เสนอโครงการความร่วมมือได้ (Horizontal Pro-gramme) เป็นการทั่วไป
ที่มา : กระทรวงการต่างประเทศ (ยุทธศาสตร์ของไทยต่อยุโรป)
--วารสาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 6/2543 วันที่ 31 มีนาคม 2543--
-อน-