กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (22 พฤศจิกายน) นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการหารือทวิภาคีกับอู วิน อ่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของพม่า ณ โรงแรมแมนดาริน สิงคโปร์ สรุปสาระสำคัญของการหารือได้ดังนี้
1. กรณีนักโทษต่างชาติจับตัวประกัน ฝ่ายไทยได้แจ้งให้ฝ่ายพม่าทราบเกี่ยวกับกรณีนักโทษต่างชาติจับตัวประกันที่เรือนจำกลาง จังหวัดสมุทรสาคร ในการนี้ ฝ่ายไทยได้แสดงความหวังว่าเหตุการณ์จะไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทย-พม่า ฝ่ายไทยจะพยายามคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธีและโดยเร็วเท่าที่จะทำได้ ในการนี้ ฝ่ายพม่าก็รับว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศ
2. ความร่วมมือด้านปัญหายาเสพติด ฝ่ายไทยเสนอให้มีการทำความตกลงอย่างสมบูรณ์แบบสองฝ่ายระหว่างไทยกับพม่าเพื่อเป็นการเสริมให้เป้าหมายการทำให้อาเซียนเป็นเขตปลอดยาเสพติดในปี คศ.2015 เป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งนี้ ความตกลงสมบูรณ์แบบ คือ ไม่เพียงด้านป้องกันปราบปรามแต่รวมถึงการส่งเสริมอาชีพ ปลูกพืชทดแทน ความร่วมมือเกี่ยวกับผลผลิตอันเกิดจากการปลูกพืชทดแทน รัฐมนตรีต่างประเทศพม่ารับที่จะนำข้อเสนอของไทยในลักษณะการจัดทำบันทึกความเข้าใจ นอกจากนี้ ฝ่ายไทยขอให้ฝ่ายพม่าให้ความร่วมมือและช่วยดูแลพื้นที่ที่เป็นแหล่งผลิตตามแนวชายแดนไทย-พม่า ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้ยืนยันด้วยว่า ฝ่ายไทยได้ดำเนินการปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด
3. ปัญหาผู้หลบหนีภัยและแรงงานชาวพม่า ซึ่งมี 2 ลักษณะ คือ
1) ผู้หลบหนีและแรงงานชาวพม่าซึ่งอยู่ในค่ายผู้หนีภัยตามชายแดน ประมาณ 1 แสนคน และ
2) ผู้หลบหนีภัยและ แรงงานเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ฝ่ายไทยประสงค์จะเห็นความร่วมมือระหว่างไทย-พม่าเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นไปอย่างจริงจัง และประสงค์จะเห็นผู้หลบหนีเหล่านี้กลับภูมิลำเนาโดยปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ฝ่ายพม่าแจ้งว่า ผู้หลบหนีภัยชาวพม่าที่เข้ามาในประเทศไทยสามารถกลับภูมิลำเนาตามช่องทางตามแนวชายแดนทั้งหมดได้อยู่แล้ว
4. ปัญหาความรุนแรงตามแนวชายแดน ประเทศแสดงความหวังว่าในปีนี้จะ ไม่มีปัญหาความรุนแรง ซึ่งจะส่งผลทำให้มีกระสุนปืนหรือคนลุกล้ำเข้ามายังประเทศไทยบริเวณแนวชายแดนไทย-พม่าเช่นที่ผ่านมา และทุกครั้งที่เกิดปัญหาตามแนวชายแดน ฝ่ายไทยก็ได้แสดงความห่วงกังวลให้ฝ่ายพม่าได้รับทราบตลอดมา
อนึ่ง นายสุรินทร์ฯ ได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนกรณีท่าทีของไทยต่อข้อมติขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฝ่ายไทยได้แจ้งกับพม่าว่า ไม่ใช่ทุกประเด็นที่จะต้องมีท่าทีร่วมกันของอาเซียน แต่ละประเทศจำเป็นต้องพิจารณาบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงของแต่ละประเทศ และไม่ควรให้ประเด็นใดประเด็นหนึ่งกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองโดยส่วนรวม
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
วันนี้ (22 พฤศจิกายน) นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการหารือทวิภาคีกับอู วิน อ่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของพม่า ณ โรงแรมแมนดาริน สิงคโปร์ สรุปสาระสำคัญของการหารือได้ดังนี้
1. กรณีนักโทษต่างชาติจับตัวประกัน ฝ่ายไทยได้แจ้งให้ฝ่ายพม่าทราบเกี่ยวกับกรณีนักโทษต่างชาติจับตัวประกันที่เรือนจำกลาง จังหวัดสมุทรสาคร ในการนี้ ฝ่ายไทยได้แสดงความหวังว่าเหตุการณ์จะไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทย-พม่า ฝ่ายไทยจะพยายามคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธีและโดยเร็วเท่าที่จะทำได้ ในการนี้ ฝ่ายพม่าก็รับว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ของสองประเทศ
2. ความร่วมมือด้านปัญหายาเสพติด ฝ่ายไทยเสนอให้มีการทำความตกลงอย่างสมบูรณ์แบบสองฝ่ายระหว่างไทยกับพม่าเพื่อเป็นการเสริมให้เป้าหมายการทำให้อาเซียนเป็นเขตปลอดยาเสพติดในปี คศ.2015 เป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งนี้ ความตกลงสมบูรณ์แบบ คือ ไม่เพียงด้านป้องกันปราบปรามแต่รวมถึงการส่งเสริมอาชีพ ปลูกพืชทดแทน ความร่วมมือเกี่ยวกับผลผลิตอันเกิดจากการปลูกพืชทดแทน รัฐมนตรีต่างประเทศพม่ารับที่จะนำข้อเสนอของไทยในลักษณะการจัดทำบันทึกความเข้าใจ นอกจากนี้ ฝ่ายไทยขอให้ฝ่ายพม่าให้ความร่วมมือและช่วยดูแลพื้นที่ที่เป็นแหล่งผลิตตามแนวชายแดนไทย-พม่า ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้ยืนยันด้วยว่า ฝ่ายไทยได้ดำเนินการปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด
3. ปัญหาผู้หลบหนีภัยและแรงงานชาวพม่า ซึ่งมี 2 ลักษณะ คือ
1) ผู้หลบหนีและแรงงานชาวพม่าซึ่งอยู่ในค่ายผู้หนีภัยตามชายแดน ประมาณ 1 แสนคน และ
2) ผู้หลบหนีภัยและ แรงงานเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ฝ่ายไทยประสงค์จะเห็นความร่วมมือระหว่างไทย-พม่าเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นไปอย่างจริงจัง และประสงค์จะเห็นผู้หลบหนีเหล่านี้กลับภูมิลำเนาโดยปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ฝ่ายพม่าแจ้งว่า ผู้หลบหนีภัยชาวพม่าที่เข้ามาในประเทศไทยสามารถกลับภูมิลำเนาตามช่องทางตามแนวชายแดนทั้งหมดได้อยู่แล้ว
4. ปัญหาความรุนแรงตามแนวชายแดน ประเทศแสดงความหวังว่าในปีนี้จะ ไม่มีปัญหาความรุนแรง ซึ่งจะส่งผลทำให้มีกระสุนปืนหรือคนลุกล้ำเข้ามายังประเทศไทยบริเวณแนวชายแดนไทย-พม่าเช่นที่ผ่านมา และทุกครั้งที่เกิดปัญหาตามแนวชายแดน ฝ่ายไทยก็ได้แสดงความห่วงกังวลให้ฝ่ายพม่าได้รับทราบตลอดมา
อนึ่ง นายสุรินทร์ฯ ได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนกรณีท่าทีของไทยต่อข้อมติขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฝ่ายไทยได้แจ้งกับพม่าว่า ไม่ใช่ทุกประเด็นที่จะต้องมีท่าทีร่วมกันของอาเซียน แต่ละประเทศจำเป็นต้องพิจารณาบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงของแต่ละประเทศ และไม่ควรให้ประเด็นใดประเด็นหนึ่งกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองโดยส่วนรวม
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-