กระทรวงการคลังขอแถลงให้ทราบทั่วกันว่าวันนี้ (22 ตุลาคม 2544) คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบการจัดตั้งกองทุนเพื่อการร่วมลงทุน โดยเป็นการร่วมลงทุนจากฝ่ายไทยและต่างประเทศมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
กองทุนเพื่อการร่วมลงทุนมีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อลงทุนในกิจการขนาดใหญ่ที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย ซึ่งมีศักยภาพในการแข่งขันในเชิงพาณิชย์สูงรวมถึงกิจการที่ปรับ โครงสร้างหนี้แล้ว หรืออยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งขาดเงินทุนที่จะดำเนินกิจการ กองทุนนี้จะช่วยอัดฉีดเงินทุนให้สามารถดำเนินกิจการและขยายกิจการต่อไปได้ รวมทั้งจะช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการด้านต่างๆ ด้วย ดังนั้น จึงเป็นการช่วยภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง
ผู้ร่วมลงทุนประกอบด้วยรัฐบาลไทยโดยกระทรวงการคลัง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ธนาคารออมสิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ธนาคารสมาชิกสมาคม ธนาคารไทย 13 ธนาคาร รวม 50 ล้านเหรียญสหรัฐ บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation) 37.5 ล้านเหรียญสหรัฐ California Public Employees Retirement System (CalPERS) 75 ล้านเหรียญสหรัฐ และธนาคารพัฒนาเอเซีย (Asian Development Bank) 25 ล้านเหรียญสหรัฐ รวม 237.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะมีผู้ร่วมทุนอื่นๆ ร่วมลงทุนจนครบ 250 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 1 ปี
การที่ภาครัฐและเอกชนไทย องค์กรระหว่างประเทศ และภาคเอกชนต่างประเทศเข้าร่วมลงทุนในกองทุนเพื่อการร่วมลงทุนแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของเศรษฐกิจไทยนอกจากนั้น การจัดตั้งกองทุนเพื่อการร่วมลงทุน จะช่วยพัฒนาขีดความสามารถของภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง กระตุ้นให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องในอีกหลายระดับก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก รวมทั้งช่วยลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ในระบบการเงิน
--ข่าวกระทรวงการคลัง กองกลาง สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 69/2544 22 ตุลาคม 2544--
-อน-
กองทุนเพื่อการร่วมลงทุนมีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อลงทุนในกิจการขนาดใหญ่ที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย ซึ่งมีศักยภาพในการแข่งขันในเชิงพาณิชย์สูงรวมถึงกิจการที่ปรับ โครงสร้างหนี้แล้ว หรืออยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งขาดเงินทุนที่จะดำเนินกิจการ กองทุนนี้จะช่วยอัดฉีดเงินทุนให้สามารถดำเนินกิจการและขยายกิจการต่อไปได้ รวมทั้งจะช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการด้านต่างๆ ด้วย ดังนั้น จึงเป็นการช่วยภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง
ผู้ร่วมลงทุนประกอบด้วยรัฐบาลไทยโดยกระทรวงการคลัง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ธนาคารออมสิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ธนาคารสมาชิกสมาคม ธนาคารไทย 13 ธนาคาร รวม 50 ล้านเหรียญสหรัฐ บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation) 37.5 ล้านเหรียญสหรัฐ California Public Employees Retirement System (CalPERS) 75 ล้านเหรียญสหรัฐ และธนาคารพัฒนาเอเซีย (Asian Development Bank) 25 ล้านเหรียญสหรัฐ รวม 237.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะมีผู้ร่วมทุนอื่นๆ ร่วมลงทุนจนครบ 250 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 1 ปี
การที่ภาครัฐและเอกชนไทย องค์กรระหว่างประเทศ และภาคเอกชนต่างประเทศเข้าร่วมลงทุนในกองทุนเพื่อการร่วมลงทุนแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของเศรษฐกิจไทยนอกจากนั้น การจัดตั้งกองทุนเพื่อการร่วมลงทุน จะช่วยพัฒนาขีดความสามารถของภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง กระตุ้นให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องในอีกหลายระดับก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก รวมทั้งช่วยลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ในระบบการเงิน
--ข่าวกระทรวงการคลัง กองกลาง สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 69/2544 22 ตุลาคม 2544--
-อน-