กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2544 ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asean Regional Forum - ARF) ครั้งที่ 8 และการหารือทวิภาคีระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศต่างๆ ดังนี้
1. การประชุม ARF ครั้งที่ 8 ที่ประชุมเห็นพ้องกับข้อเสนอของไทยให้ที่ประชุม ARF หารือเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นประเด็นใหม่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้วย สำหรับบทบาทของประธาน ARF ที่ประชุมเห็นด้วยว่าประธานควรจะมีบทบาทเพิ่มขึ้น จากกระบวนการสร้างความมั่นใจร่วมกัน (Confidence Building) ไปสู่การทูตเชิงป้องกัน (Preventive Diplomacy) โดยการพิจารณาข้อเท็จจริงในช่วงคาบเกี่ยวของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวด้วย ที่ประชุมแสดง ความพอใจต่อความก้าวหน้าในกระบวนการทางการเมืองในพม่า และยินดีที่สถานการณ์การเมืองในอินโดนีเซียได้คลี่คลายลงอย่างสันติและเป็นไปในกรอบของประชาธิปไตย โดยที่ประชุมพร้อมจะให้การสนับสนุนประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีด้วย ซึ่ง ดร.สุรเกียรติ์ฯ กล่าวว่ารัฐบาลไทยสนับสนุนให้สหรัฐฯและเกาหลีเหนือเจรจาเพื่อคลี่คลายความตึงเครียด ซึ่งจะนำไปสู่เสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
2. การหารือกับนายถัง เจียสวน (Mr. Tang Jiaxuan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ฝ่ายจีนย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนที่อยู่ในระดับสูงสุด และกล่าวว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีจู หรงจี เดินทางกลับจากการเยือนไทยได้สั่งการรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการเรื่องต่างๆ ตามที่ได้ตกลงไว้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ทั้งนี้จีนสนับสนุนนายกรัฐมนตรีไทยอย่างเต็มที่ในเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 4 ฝ่ายระหว่างไทยจีน พม่า และลาวนั้นฝ่ายไทยเห็นพ้องกับข้อเสนอของฝ่ายจีนที่ว่าโดยที่ขณะนี้กำหนดจะมีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสที่พม่า และการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านยาเสพติดที่กรุงปักกิ่งในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย จีน พม่า และลาวอาจหารือกันอย่างไม่เป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่บรูไน เดือนพฤศจิกายน ศกนี้ เพื่อพิจารณาผลและข้อเสนอแนะของที่ประชุมทั้งสองระดับข้างต้นในการจัดประชุมระดับนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดร่วมกัน ทั้งนี้ลาวและพม่าได้เห็นชอบกับข้อเสนอนี้ด้วยแล้ว
3. การหารือกับ พล.อ.คอลิน พาวเวลล์ (Gen. Collin Powell) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการจัดทำความตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจฉบับใหม่ระหว่างไทย-สหรัฐฯ ซึ่ง ดร.สุรเกียรติ์ฯ ได้เสนอไว้ ฝ่ายสหรัฐฯ เห็นด้วยกับข้อเสนอของไทยให้รวมประเด็นเรื่องความร่วมมือด้านอาชญากรรมข้ามชาติไว้ด้วย และให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กับปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทยหารือกันถึงความเหมาะสมที่จะบรรจุประเด็นนี้ไว้ในความตกลงความร่วมมือสองฝ่ายด้านเศรษฐกิจที่กำลังจัดทำ ฝ่ายไทยได้สรุปการดำเนินการในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ฝ่าย สหรัฐฯ ทราบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ชื่นชมบทบาทและความพยายาม ตลอดจนการดำเนินการของนายกรัฐมนตรีไทยในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งปรากฏผลชัดเจนในช่วงระยะเวลาเพียง 5 เดือน และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ ตามคำขอของฝ่ายไทยเพื่อสนับสนุนให้ความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดระหว่างไทย จีน พม่า และลาว ประสบความสำเร็จ ฝ่ายสหรัฐฯ ย้ำถึงความพร้อมที่จะร่วมมือกับจีน ซึ่งจีนก็ได้ตอบสนองในลักษณะเดียวกัน ดังนั้น ไทยและประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงมั่นใจว่าสหรัฐฯ จะให้ความร่วมมือกับจีนทั้งทางด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงอย่างเต็มที่ เพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7--จบ--
-อน-
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2544 ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asean Regional Forum - ARF) ครั้งที่ 8 และการหารือทวิภาคีระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศต่างๆ ดังนี้
1. การประชุม ARF ครั้งที่ 8 ที่ประชุมเห็นพ้องกับข้อเสนอของไทยให้ที่ประชุม ARF หารือเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นประเด็นใหม่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้วย สำหรับบทบาทของประธาน ARF ที่ประชุมเห็นด้วยว่าประธานควรจะมีบทบาทเพิ่มขึ้น จากกระบวนการสร้างความมั่นใจร่วมกัน (Confidence Building) ไปสู่การทูตเชิงป้องกัน (Preventive Diplomacy) โดยการพิจารณาข้อเท็จจริงในช่วงคาบเกี่ยวของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวด้วย ที่ประชุมแสดง ความพอใจต่อความก้าวหน้าในกระบวนการทางการเมืองในพม่า และยินดีที่สถานการณ์การเมืองในอินโดนีเซียได้คลี่คลายลงอย่างสันติและเป็นไปในกรอบของประชาธิปไตย โดยที่ประชุมพร้อมจะให้การสนับสนุนประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีด้วย ซึ่ง ดร.สุรเกียรติ์ฯ กล่าวว่ารัฐบาลไทยสนับสนุนให้สหรัฐฯและเกาหลีเหนือเจรจาเพื่อคลี่คลายความตึงเครียด ซึ่งจะนำไปสู่เสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
2. การหารือกับนายถัง เจียสวน (Mr. Tang Jiaxuan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ฝ่ายจีนย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนที่อยู่ในระดับสูงสุด และกล่าวว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีจู หรงจี เดินทางกลับจากการเยือนไทยได้สั่งการรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการเรื่องต่างๆ ตามที่ได้ตกลงไว้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ทั้งนี้จีนสนับสนุนนายกรัฐมนตรีไทยอย่างเต็มที่ในเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 4 ฝ่ายระหว่างไทยจีน พม่า และลาวนั้นฝ่ายไทยเห็นพ้องกับข้อเสนอของฝ่ายจีนที่ว่าโดยที่ขณะนี้กำหนดจะมีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสที่พม่า และการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านยาเสพติดที่กรุงปักกิ่งในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย จีน พม่า และลาวอาจหารือกันอย่างไม่เป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่บรูไน เดือนพฤศจิกายน ศกนี้ เพื่อพิจารณาผลและข้อเสนอแนะของที่ประชุมทั้งสองระดับข้างต้นในการจัดประชุมระดับนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดร่วมกัน ทั้งนี้ลาวและพม่าได้เห็นชอบกับข้อเสนอนี้ด้วยแล้ว
3. การหารือกับ พล.อ.คอลิน พาวเวลล์ (Gen. Collin Powell) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการจัดทำความตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจฉบับใหม่ระหว่างไทย-สหรัฐฯ ซึ่ง ดร.สุรเกียรติ์ฯ ได้เสนอไว้ ฝ่ายสหรัฐฯ เห็นด้วยกับข้อเสนอของไทยให้รวมประเด็นเรื่องความร่วมมือด้านอาชญากรรมข้ามชาติไว้ด้วย และให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กับปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทยหารือกันถึงความเหมาะสมที่จะบรรจุประเด็นนี้ไว้ในความตกลงความร่วมมือสองฝ่ายด้านเศรษฐกิจที่กำลังจัดทำ ฝ่ายไทยได้สรุปการดำเนินการในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ฝ่าย สหรัฐฯ ทราบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ชื่นชมบทบาทและความพยายาม ตลอดจนการดำเนินการของนายกรัฐมนตรีไทยในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งปรากฏผลชัดเจนในช่วงระยะเวลาเพียง 5 เดือน และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ ตามคำขอของฝ่ายไทยเพื่อสนับสนุนให้ความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดระหว่างไทย จีน พม่า และลาว ประสบความสำเร็จ ฝ่ายสหรัฐฯ ย้ำถึงความพร้อมที่จะร่วมมือกับจีน ซึ่งจีนก็ได้ตอบสนองในลักษณะเดียวกัน ดังนั้น ไทยและประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงมั่นใจว่าสหรัฐฯ จะให้ความร่วมมือกับจีนทั้งทางด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงอย่างเต็มที่ เพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7--จบ--
-อน-