ข่าวในประเทศ
1. ธปท.จะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงในปี 43 ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 43 จะขยายตัวลดลงเหลือประมาณร้อยละ 3-4 จากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 4-4.5 เนื่องจากปัจจัยชี้นำในแบบจำลองเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ชะลอลงทั้งสิ้น โดยเฉพาะภาคการผลิตและการก่อสร้าง ที่ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดต่ำลง เพราะได้ผลิตสินค้าเกินความต้องการในไตรมาสที่ 2 ทำให้มีสินค้าคงคลังเหลือในสต็อกจำนวนมาก ดังนั้น จึงต้องพยายามระบายสินค้าเก่าให้หมดก่อนผลิตสินค้าใหม่ ขณะที่ประชาชนลดการบริโภคลง สำหรับการส่งออกที่ยังขยายตัวดีในปีนี้เป็นปัจจัยผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อไปได้ ประกอบกับความต้องการสินค้านำเข้าลดลง ทำให้ไทยสามารถรักษาการเกินดุลการค้าไว้ได้ ทั้งที่ต้องจ่ายเงินเป็นค่าน้ำมันนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ของจีดีพี อย่างไรก็ตาม ธปท.ยืนยันจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน โดยเฉพาะนโยบายดอกเบี้ย กล่าวคือ อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (อาร์พี) ระยะ 14 วัน ยังอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.5 เนื่องจากขณะนี้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลงมากแล้ว ทั้งปัจจัยด้านราคาน้ำมันและความต้องการบริโภคน้ำมันที่ต่ำลง (ไทยโพสต์ 21)
2. ธปท.เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการทำธุรกรรมของสถาบันการเงิน ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งให้สายตรวจสอบและกำกับสถาบันการเงินเข้าไปตรวจสอบการทำธุรกรรมของ ธพ.ต่างประเทศต่างๆ ว่าดำเนินการถูกต้องตามประกาศของ ธปท.หรือไม่ โดยเฉพาะการให้กู้แก่ผู้มีบัญชีเงินฝากสกุลเงินบาทที่มีถิ่นฐานนอกประเทศ (นอนเรสซิเด้นท์บาท) เนื่องจากขณะนี้มียอดคงค้างในบัญชีสูงถึง 1 แสน ล.บาท หากพบการทำธุรกรรมที่ไม่ถูกต้อง ธปท.ก็ต้องกลับไปพิจารณาว่าควรดำเนินการอย่างไรในสายตาตลาดเงิน เพิ่อมิให้เกิดช่องโหว่ใดๆ ขึ้นอีก เพราะอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของค่าเงินบาท ที่ผ่านมาการตรวจสอบการเก็งกำไรเงินบาทในรูปแบบต่างๆ ของ ธปท.นั้นค่อนข้างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ โดยได้ลงโทษสถาบันการเงินที่ทำผิดระเบียบไปแล้วหลายแห่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.44 เป็นต้นไป ธปท.จะเปลี่ยนแปลงการตรวจสถาบันการเงินต่างๆ เป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งมีประสิทธิภาพและรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ โดยเฉพาะจะมีการระบุทิศทางของสถาบันการเงินนั้นๆ ว่าดีขึ้นหรือเลวลงอย่างไร โดยการให้ระดับคะแนน ส่งผลให้เห็นได้ชัดเจนว่าควรเข้มงวดกับสถาบันการเงินใดเป็นพิเศษ (เดลินิวส์ 21)
3. ยอดการปล่อยสินเชื่อแก่เอสเอ็มอีของสถาบันการเงินของรัฐในช่วง 11 เดือน แหล่งข่าวจาก ก.อุตสาหกรรมกล่าวว่า ยอดการปล่อยสินเชื่อวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ของสถาบันการเงินของรัฐ ประกอบด้วย ธปท., บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ไอเอฟซีที), ธ.เพื่อการส่งออกและนำเข้า (ธสน.), ธ.เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.), ธ.ออมสิน, บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม (บอย.), ในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย.43 มีวงเงินรวม 2.87 หมื่น ล.บาท จำนวนเอสเอ็มอี 39,281 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 62.13 ของวงเงินเป้าหมายปี 43 ที่กำหนดไว้ 4.63 หมื่น ล.บาท โดย ธปท.ปล่อยกู้วงเงิน 6,954.91 ล.บาท จำนวน 2,070 ราย หรือร้อยละ 53.30 ของวงเงินเป้าหมาย (กรุงเทพธุรกิจ 21)
ข่าวต่างประเทศ
1. ECB ประมาณการผลิตภัฑ์ในประเทศของเขตยูโรขยายตัวร้อยละ 3.2-3.6 ในปี 43 และขยายตัวร้อยละ 2.6-3.6 ในปี 44 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.43 ธ.กลางแห่งยุโรป (ECB) รายงานประมาณการเศรษฐกิจว่า ปี 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของเขตยูโรจะขยายตัวประมาณร้อยละ 3.2-3.6 และจะยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งแม้ว่าจะเป็นอัตราชะลอลงในปี 44 และปี 45 ที่ร้อยละ 2.6-3.6 และร้อยละ 2.5-3.5 ตามลำดับ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อร่วม (Harmonised Index for Consumer Prices = HICP) อยู่ที่ร้อยละ 2.3-2.5 1.8-2.8 และ 1.3-2.5 ในปี 43-45 ตามลำดับ ทั้งนี้ การที่ ECB ประมาณการว่า เงินเฟ้อในปี 44 จะยังคงอยู่ในระดับสูง ยิ่งทำให้นักเศรษฐศาสตร์เชื่อมั่นว่า ECB จะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์วิจารณ์ว่า ประมาณการเศรษฐกิจของ ECB ให้ช่วงตัวเลขที่กว้างเกินไป (รอยเตอร์ 20)
2. Ifo ประมาณการผลิตภัณฑ์ในประเทศของเยอรมนีขยายตัวร้อยละ 3.0 ในปี 43 และขยายตัวร้อยละ 2.5 ในปี 44 รายงานจาก Munich เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.43 สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ Ifo ของเยอรมนีระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจฉบับสิ้นปีว่า ปี 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของเยอรมนีจะขยายตัวร้อยละ 3.0 และจะขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.5 และร้อยละ 2.4 ในปี 44 และปี 45 ตามลำดับ ส่วนอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ร้อยละ 9.2 และจะลดลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 8.6 และร้อยละ 8.1 ในปี 44 และปี 45 ตามลำดับ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ (CPI) จะอยู่ที่ร้อยละ 1.9 และจะลดลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.5 เท่ากันทั้งในปี 44 และปี 45 โดย Ifo ระบุว่าเศรษฐกิจในช่วง 2 ปีหน้าจะชะลอลง เพราะจะได้รับผลกระทบจากการอ่อนตัวของเศรษฐกิจโลกและการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของ สรอ. และประเทศในยุโรป ทั้งนี้ ประมาณการของ Ifo อยู่ภายใต้สมมุติฐานที่ว่า ในปี 44 ราคาน้ำมันจะอยู่ที่อัตราเฉลี่ย 26 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล ธ.กลางแห่งยุโรป (ECB) จะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย และอัตราดอกเบี้ย พธบ. และค่าเงินยูโรมีเสถียรภาพ (รอยเตอร์ 20)
3. การสร้างบ้านใหม่ของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 ในเดือน พ.ย.43 รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.43 ก.พาณิชย์ สรอ. รายงานว่า เดือน พ.ย.43 การสร้างบ้านใหม่ปรับฤดูกาลของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 มาอยู่ที่จำนวน 1.562 ล.หลังต่อปี หลังจากที่ลดลงร้อยละ 0.6 ในเดือน ต.ค.43 เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่เดือน มิ.ย.43 ที่มีจำนวน 1.571 ล.หลังต่อปี ทางด้านคำขออนุญาตก่อสร้างก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 มาอยู่ที่จำนวน 1.586 ล.หลังต่อปี หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ในเดือน ต.ค.43 ทั้งนี้ การที่การสร้างบ้านใหม่ของ สรอ. เพิ่มขึ้นในขณะที่มีสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองอ่อนตัวลงซึ่งเป็นการสนับสนุนตลาดการซื้อขายบ้าน โดยบริษัท Freddie Mac รายงานว่า ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค.43 อัตราดอกเบี้ยฯ คงที่ระยะ 30 และ 15 ปี ลดลงอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 1-1 ปีครึ่ง โดยอัตราดอกเบี้ยฯ ระยะ 30 ปี ลดลงอยู่ที่ระดับเฉลี่ยร้อยละ 7.42 จากร้อยละ 7.54 ในสัปดาห์ก่อน เป็นการลดลงอยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 8 ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 18 อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการก่อสร้างบ้านมองว่าตลาดบ้านใหม่มีแนวโน้มชะลอลง (รอยเตอร์ 20)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 20 ธ.ค.43 42.807 (43.161)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 20 ธ.ค. 43
ซื้อ 42.7023 (43.0520) ขาย 43.0072 (43.3623)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,450 (5,500) ขาย 5,550 (5,600)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 19.60 (21.62)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 15.89 (16.19) ดีเซลหมุนเร็ว 13.64 (13.64)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.จะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงในปี 43 ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 43 จะขยายตัวลดลงเหลือประมาณร้อยละ 3-4 จากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 4-4.5 เนื่องจากปัจจัยชี้นำในแบบจำลองเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ชะลอลงทั้งสิ้น โดยเฉพาะภาคการผลิตและการก่อสร้าง ที่ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดต่ำลง เพราะได้ผลิตสินค้าเกินความต้องการในไตรมาสที่ 2 ทำให้มีสินค้าคงคลังเหลือในสต็อกจำนวนมาก ดังนั้น จึงต้องพยายามระบายสินค้าเก่าให้หมดก่อนผลิตสินค้าใหม่ ขณะที่ประชาชนลดการบริโภคลง สำหรับการส่งออกที่ยังขยายตัวดีในปีนี้เป็นปัจจัยผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อไปได้ ประกอบกับความต้องการสินค้านำเข้าลดลง ทำให้ไทยสามารถรักษาการเกินดุลการค้าไว้ได้ ทั้งที่ต้องจ่ายเงินเป็นค่าน้ำมันนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ของจีดีพี อย่างไรก็ตาม ธปท.ยืนยันจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน โดยเฉพาะนโยบายดอกเบี้ย กล่าวคือ อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (อาร์พี) ระยะ 14 วัน ยังอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.5 เนื่องจากขณะนี้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลงมากแล้ว ทั้งปัจจัยด้านราคาน้ำมันและความต้องการบริโภคน้ำมันที่ต่ำลง (ไทยโพสต์ 21)
2. ธปท.เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการทำธุรกรรมของสถาบันการเงิน ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งให้สายตรวจสอบและกำกับสถาบันการเงินเข้าไปตรวจสอบการทำธุรกรรมของ ธพ.ต่างประเทศต่างๆ ว่าดำเนินการถูกต้องตามประกาศของ ธปท.หรือไม่ โดยเฉพาะการให้กู้แก่ผู้มีบัญชีเงินฝากสกุลเงินบาทที่มีถิ่นฐานนอกประเทศ (นอนเรสซิเด้นท์บาท) เนื่องจากขณะนี้มียอดคงค้างในบัญชีสูงถึง 1 แสน ล.บาท หากพบการทำธุรกรรมที่ไม่ถูกต้อง ธปท.ก็ต้องกลับไปพิจารณาว่าควรดำเนินการอย่างไรในสายตาตลาดเงิน เพิ่อมิให้เกิดช่องโหว่ใดๆ ขึ้นอีก เพราะอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของค่าเงินบาท ที่ผ่านมาการตรวจสอบการเก็งกำไรเงินบาทในรูปแบบต่างๆ ของ ธปท.นั้นค่อนข้างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ โดยได้ลงโทษสถาบันการเงินที่ทำผิดระเบียบไปแล้วหลายแห่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.44 เป็นต้นไป ธปท.จะเปลี่ยนแปลงการตรวจสถาบันการเงินต่างๆ เป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งมีประสิทธิภาพและรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ โดยเฉพาะจะมีการระบุทิศทางของสถาบันการเงินนั้นๆ ว่าดีขึ้นหรือเลวลงอย่างไร โดยการให้ระดับคะแนน ส่งผลให้เห็นได้ชัดเจนว่าควรเข้มงวดกับสถาบันการเงินใดเป็นพิเศษ (เดลินิวส์ 21)
3. ยอดการปล่อยสินเชื่อแก่เอสเอ็มอีของสถาบันการเงินของรัฐในช่วง 11 เดือน แหล่งข่าวจาก ก.อุตสาหกรรมกล่าวว่า ยอดการปล่อยสินเชื่อวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ของสถาบันการเงินของรัฐ ประกอบด้วย ธปท., บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ไอเอฟซีที), ธ.เพื่อการส่งออกและนำเข้า (ธสน.), ธ.เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.), ธ.ออมสิน, บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม (บอย.), ในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย.43 มีวงเงินรวม 2.87 หมื่น ล.บาท จำนวนเอสเอ็มอี 39,281 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 62.13 ของวงเงินเป้าหมายปี 43 ที่กำหนดไว้ 4.63 หมื่น ล.บาท โดย ธปท.ปล่อยกู้วงเงิน 6,954.91 ล.บาท จำนวน 2,070 ราย หรือร้อยละ 53.30 ของวงเงินเป้าหมาย (กรุงเทพธุรกิจ 21)
ข่าวต่างประเทศ
1. ECB ประมาณการผลิตภัฑ์ในประเทศของเขตยูโรขยายตัวร้อยละ 3.2-3.6 ในปี 43 และขยายตัวร้อยละ 2.6-3.6 ในปี 44 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.43 ธ.กลางแห่งยุโรป (ECB) รายงานประมาณการเศรษฐกิจว่า ปี 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของเขตยูโรจะขยายตัวประมาณร้อยละ 3.2-3.6 และจะยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งแม้ว่าจะเป็นอัตราชะลอลงในปี 44 และปี 45 ที่ร้อยละ 2.6-3.6 และร้อยละ 2.5-3.5 ตามลำดับ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อร่วม (Harmonised Index for Consumer Prices = HICP) อยู่ที่ร้อยละ 2.3-2.5 1.8-2.8 และ 1.3-2.5 ในปี 43-45 ตามลำดับ ทั้งนี้ การที่ ECB ประมาณการว่า เงินเฟ้อในปี 44 จะยังคงอยู่ในระดับสูง ยิ่งทำให้นักเศรษฐศาสตร์เชื่อมั่นว่า ECB จะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์วิจารณ์ว่า ประมาณการเศรษฐกิจของ ECB ให้ช่วงตัวเลขที่กว้างเกินไป (รอยเตอร์ 20)
2. Ifo ประมาณการผลิตภัณฑ์ในประเทศของเยอรมนีขยายตัวร้อยละ 3.0 ในปี 43 และขยายตัวร้อยละ 2.5 ในปี 44 รายงานจาก Munich เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.43 สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ Ifo ของเยอรมนีระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจฉบับสิ้นปีว่า ปี 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของเยอรมนีจะขยายตัวร้อยละ 3.0 และจะขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.5 และร้อยละ 2.4 ในปี 44 และปี 45 ตามลำดับ ส่วนอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ร้อยละ 9.2 และจะลดลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 8.6 และร้อยละ 8.1 ในปี 44 และปี 45 ตามลำดับ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ (CPI) จะอยู่ที่ร้อยละ 1.9 และจะลดลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.5 เท่ากันทั้งในปี 44 และปี 45 โดย Ifo ระบุว่าเศรษฐกิจในช่วง 2 ปีหน้าจะชะลอลง เพราะจะได้รับผลกระทบจากการอ่อนตัวของเศรษฐกิจโลกและการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของ สรอ. และประเทศในยุโรป ทั้งนี้ ประมาณการของ Ifo อยู่ภายใต้สมมุติฐานที่ว่า ในปี 44 ราคาน้ำมันจะอยู่ที่อัตราเฉลี่ย 26 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล ธ.กลางแห่งยุโรป (ECB) จะไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย และอัตราดอกเบี้ย พธบ. และค่าเงินยูโรมีเสถียรภาพ (รอยเตอร์ 20)
3. การสร้างบ้านใหม่ของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 ในเดือน พ.ย.43 รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.43 ก.พาณิชย์ สรอ. รายงานว่า เดือน พ.ย.43 การสร้างบ้านใหม่ปรับฤดูกาลของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 มาอยู่ที่จำนวน 1.562 ล.หลังต่อปี หลังจากที่ลดลงร้อยละ 0.6 ในเดือน ต.ค.43 เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่เดือน มิ.ย.43 ที่มีจำนวน 1.571 ล.หลังต่อปี ทางด้านคำขออนุญาตก่อสร้างก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 มาอยู่ที่จำนวน 1.586 ล.หลังต่อปี หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ในเดือน ต.ค.43 ทั้งนี้ การที่การสร้างบ้านใหม่ของ สรอ. เพิ่มขึ้นในขณะที่มีสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองอ่อนตัวลงซึ่งเป็นการสนับสนุนตลาดการซื้อขายบ้าน โดยบริษัท Freddie Mac รายงานว่า ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค.43 อัตราดอกเบี้ยฯ คงที่ระยะ 30 และ 15 ปี ลดลงอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 1-1 ปีครึ่ง โดยอัตราดอกเบี้ยฯ ระยะ 30 ปี ลดลงอยู่ที่ระดับเฉลี่ยร้อยละ 7.42 จากร้อยละ 7.54 ในสัปดาห์ก่อน เป็นการลดลงอยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 8 ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 18 อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการก่อสร้างบ้านมองว่าตลาดบ้านใหม่มีแนวโน้มชะลอลง (รอยเตอร์ 20)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 20 ธ.ค.43 42.807 (43.161)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 20 ธ.ค. 43
ซื้อ 42.7023 (43.0520) ขาย 43.0072 (43.3623)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,450 (5,500) ขาย 5,550 (5,600)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 19.60 (21.62)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 15.89 (16.19) ดีเซลหมุนเร็ว 13.64 (13.64)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-