แท็ก
อุตสาหกรรม
บทสรุปนักลงทุน
อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยมีความต้องการชิ้นส่วนยางปี 2542 เป็นจำนวนมากถึง 51,920 ตัน ในขณะที่อุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนยางของไทยสามารถรองรับความต้องการได้เพียงจำนวนหนึ่ง ทำให้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และมีช่องว่างระหว่างความต้องการชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์ กับการผลิตชิ้นส่วนยางที่ใช้ในประเทศ ดังนั้น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์จึงเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่น่าสนใจลงทุน
เทคโนโลยีในการผลิตชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์ที่ใช้กันมากในการผลิต ได้แก่ Injection และ Blow Molding (ตัวอย่างชิ้นงาน: Gasket, O-ring, Grommet, Seal และบุชยาง) Extrusion (ตัวอย่างชิ้นงาน: ท่อยางหม้อน้ำ ท่อยางกรองอากาศ ท่อยางน้ำมันเบรค ท่อยางน้ำมันคลัช และยางขอบประตูรถยนต์ สำหรับเครื่องจักรหลักที่ใช้ในการผลิต ได้แก่ Extrusion Machine หรือ Injection Machineหรือ Blow Molding Machine หรือ เครื่องปั๊มขึ้นรูปด้วยความร้อน (ขึ้นอยู่กับชนิดของชิ้นงานที่จะผลิต) CNC Mixing Machine Painting Machine และ Testing Eqipment (Hardness, Tensile Strength, Gravity, Oil Resistance, Ozone Resistance, ฯลฯ)
เงินลงทุนและอุปกรณ์เริ่มต้นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 3 -- 200 ล้านบาท โดยมีเงินลงทุนในที่ดิน อาคาร เครื่องจักร ยานพาหนะ และเงินทุนหมุนเวียน โดยประมาณเท่ากับร้อยละ 30 20 15 5 และ 30 ตามลำดับ จำนวนบุคลากรจะขึ้นอยู่กับขนาดเงินลงทุน และเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้โดยมีสัดส่วนบุคลากรต่อเงินทุน 1 ล้านบาท จะอยู่ในช่วงระหว่าง 1.0 -- 11.8 หรือโดยเฉลี่ย 3.7 คน ต่อเงินทุน 1 ล้านบาท สำหรับสถานที่ตั้งของโรงงานผลิตชิ้นส่วนยางควรตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับลูกค้าภายในรัศมี 50 กิโลเมตร กลยุทธ์การจำหน่ายของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางมี 3 วิธี คือ (1) ขายตรงให้แก่ลูกค้ามากที่สุด (2) ขายโดยผ่านตัวแทนรองลงมา และ (3) ขายกับบริษัทร่วมทุน (Joint Venture Company)เป็นอันดับสุดท้าย
การตลาด
ความต้องการในปัจจุบันและอนาคต
ความต้องการชิ้นส่วนยางที่มีคุณสมบัติพิเศษเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากการทดแทนการใช้ยางธรรมชาติซึ่งมีข้อจำกัดในด้านคุณสมบัติบางประการในการนำไปใช้ในบางอุตสาหกรรม เช่น ความยืดหยุ่น ความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ความทนทานต่อการกัดกร่อนของสารเคมี ความทนทานต่อแรงอัด แรงกระแทก และแรงเสียดทาน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศผู้ผลิต และส่งออกยางธรรมชาติมากเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ได้แก่ ยางแผ่น ยางแท่ง น้ำยางข้น เป็นต้น แต่ความต้องการใช้ยางสังเคราะห์ของประเทศไทยในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมรองเท้า เป็นการนำเข้าเกือบทั้งหมด ทำให้มีช่องว่าง (Gap) ระหว่างอุปสงค์ยางสังเคราะห์ในอุตสาหกรรมดังกล่าว กับอุปทานของอุตสาหกรรมการผลิตยางสังเคราะห์ในประเทศไทย ดังนั้น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์จึงเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่น่าสนใจลงทุนอุปสงค์ชิ้นส่วนยางดังกล่าวเป็นอุปสงค์ต่อเนื่อง (Derived Demand) จากอุปทานในการผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย ทำให้ตลาดของชิ้นส่วนยางที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
ภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2542 ได้ฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากปัจจัยสำคัญ 4 ประการ คือ (1) บริษัทผู้ประกอบการอุตสาหกรมรถยนต์ไทยหลายแห่งได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทแม่(โดยเฉพาะบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น) ด้วยการเพิ่มทุน ทำให้บริษัทดังกล่าวมีความแข็งแกร่งทางการเงินมากขึ้น และสามารถออกโปรแกรมส่งเสริมการตลาดในประเทศได้มากขึ้น (2) ความช่วยเหลือด้านการส่งออกรถยนต์ไทยไปตลาดต่างประเทศจากบริษัทแม่ (ญี่ปุ่น) ของบริษัทผู้ประกอบการอุตสาหกรมรถยนต์ไทยหลายแห่ง (3) ข้อกำหนด และเงื่อนไขของสินเชื่อการเช่าซื้อ (Hire Purchase) / เช่าทรัพย์ (Leasing) รถยนต์ได้รับการผ่อนคลายความเข้มงวดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศ โดยตั้งแต่ต้นปี 2542 และ (4) ภาวะอัตราดอกเบี้ยของไทยได้ลดลงอย่างมากทั้งด้านเงินฝาก และสินเชื่อ เนื่องจากสภาพคล่องล้นระบบสถาบันการเงิน จากปัจจัย 4 ประการดังกล่าวข้างต้น ทำให้ปริมาณการผลิตรถยนต์ของประเทศในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2542 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 103.7 (หรืออยู่ที่ 178,997 คัน) คาดว่า ในปี 2542 การผลิตรถยนต์ของไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 320,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 101.7 จากปี 2541และปี 2543 2544 จะเพิ่มขึ้นเป็น 450,000 และ 600,000 คัน ตามลำดับ
สำหรับตลาดของชิ้นส่วนยางที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เป็นอุปสงค์ต่อเนื่องนั้น จากการคาดประมาณโดยมีข้อสมมติ (Assumption) 2 ข้อ คือ (1) น้ำหนักของรถยนต์นั่ง และ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,400 และ 1,500 กิโลกรัม/ คัน ตามลำดับ (2) สัดส่วนโดยน้ำหนักของยางต่อน้ำหนักรถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 11 ดังนั้น รถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์จะมีความต้องการใช้ยางโดยเฉลี่ยประมาณ 154 และ 165 กิโลกรัมต่อคัน ตามลำดับ ดังนั้นขนาดตลาดชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์ของไทยปี 2542 2543 และ 2544 จะอยู่ที่ 51,920 72,875 และ 97,323 ตัน ตามลำดับ รายละเอียดปรากฏในตารางที่ 1
ปริมาณการผลิตรถยนต์ และขนาดตลาดของชิ้นส่วนยางที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
รายการ 2537 2538 2539 2540 2541-E 2542-E 2543-F 2544-F1. ปริมาณการผลิต (คัน)
1.1 รถยนต์นั่ง 109,822 127,242 138,579 112,284 32,028 82,000 125,000 152,500
1.2 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 320,504 398,438 408,742 248,442 126,595 240,000 325,000 447,500รวมปริมาณการผลิตรถยนต์ 430,326 525,680 547,321 360,726 158,623 320,000 450,000 600,0002. ขนาดตลาดของชิ้นส่วนยาง
(กิโลกรัม)
1.1 รถยนต์นั่ง 16,912,588 19,595,268 21,341,166 17,291,736 4,932,312 12,320,000 19,250,000 23,485,000
1.2 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 52,883,160 65,742,270 67,442,430 40,992,930 20,888,175 39,600,000 53,625,000 73,837,500ขนาดตลาดชิ้นส่วนยาง 69,795,748 85,337,538 88,783,596 58,284,666 25,820,487 51,920,000 72,875,000 97,322,500ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย และประมาณการโดยบริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
ปัจจุบันมีผู้ผลิตชิ้นส่วนยางที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศประมาณ 100 ราย ในจำนวนนี้เป็นกิจการรายสำคัญ จำนวน 9 ราย ดังนี้
รายชื่อผู้ประกอบการรายสำคัญในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์
ขนาดใหญ่ ที่ตั้ง เงินทุนจดทะเบียน (บาท)1. บริษัท อิโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) อ.ธัญญบุรี จ.ปทุมธานี 1,000,000,0002. บริษัท ไทยฟูโกกุ จำกัด นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ จ. ฉะเชิงเทรา 500,000,0003. บริษัท โทแอดส์ (ประเทศไทย) จำกัด อ. เมือง จ. ชลบุรี 277,000,000
ขนาดกลางและย่อม ที่ตั้ง เงินทุนจดทะเบียน (บาท)4. บริษัท นิชิกาว่า เตชาพลาเลิศ รับเบอร์ (นิชชินเบรคซิสเต็ม)จำกัด อ. เมือง จ. นครราชสีมา 200,000,0005. บริษัท พงศ์พาราโคดันรับเบอร์ จำกัด อ. กระทุ่มแบน จ. สมุทรสาคร 200,000,0006. บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด อ. วังน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา 200,000,000
ขนาดกลางและย่อม ที่ตั้ง เงินทุนจดทะเบียน (บาท)7. บริษัท ฮิตาชิ เคมิคอลจำกัด อ. ปลวกแดง จ. ระยอง 200,000,0008.!บริษัท ไซมีส-แบนโดรับเบอร์อินดัสตรีส์ จำกัด อ. เมือง จ. สมุทรสาคร 167,000,0009. บริษัท ชีน่า แก๊สเก็ต จำกัด อ. พานทอง จ. ชลบุรี 130,000,00010.บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล รับเบอร์พาทส์ จำกัด บางขุนเทียน กรุงเทพฯ 120,000,000
ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
ช่องทางการจำหน่าย
กลยุทธ์การจำหน่ายของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางมี 3 วิธี คือ (1) ขายตรงให้แก่ลูกค้ามากที่สุด (2) ขายโดยผ่านตัวแทนขายรองลงมา และ (3) ขายกับบริษัทร่วมทุน (Joint Venture Company) เป็นอันดับสุดท้าย โดยมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ 5 วิธี เรียงลำดับจากมากไปน้อย คือ 1. แนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทแก่ลูกค้าเป้าหมายโดยตรง (2) โฆษณาในสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง และ (3) โฆษณาใน Directory ต่างๆ หรือ โฆษณาโดยผ่าน Industrial Purchasing Guide หรือ โฆษณาประชาสัมพันธ์โดยการส่งข้อมูลผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านนายหน้า/ คนกลาง ตามลำดับ
การผลิต
วัตถุดิบที่ใช้และแหล่งวัตถุดิบ
ส่วนประกอบที่สำคัญที่ใช้ในการผลิต ได้แก่ ยางพารา ยางสังเคราะห์ สารเคมี โลหะ และคาร์บอนแบลค โดยมีสัดส่วนมากที่สุดถึงร้อยละ 60 ของโครงสร้างต้นทุนการผลิต และวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากภายในประเทศ รายละเอียดปรากฏในตารางที่ 3 ชิ้นสวนยางมีหลายชนิด และแต่ละชนิดจะนำมาใช้ในรถยนต์ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างของชิ้นงานยางที่ใช้เป็นส่วนประกอบในรถยนต์ปรากฏในตารางที่ 4
โครงสร้างต้นทุนการผลิต
ประเภท สัดส่วน (%)
1. วัตถุดิบ !60
!2. ค่าแรงงาน !15
!3. ค่าเสื่อมราคาและอื่นๆ !10
!4. ค่าโสหุ้ยการผลิต !15
!รวม !100
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการ
กรรมวิธีการผลิต
สำหรับกรรมวิธีการผลิตชิ้นส่วนยางเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ นั้น ในขั้นตอนเบื้องต้นจะมีวิธีการเหมือนกันคือ การผลิตยางคอมเปาวด์ (Compound Rubber) เป็นการนำยางสังเคราะห์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักมาผสมกับเคมีภัณฑ์ต่างๆ ที่สำคัญ โดยส่วนประกอบต่างๆ จะถูกผสมกันในเครื่องผสมยางตามสัดส่วนและเวลามาตรฐานที่กำหนด จากนั้นจะรีดยางที่ผสมสารเคมีเรียบร้อยแล้วให้เป็นยางแผ่นบางๆ เรียกว่า ยางคอมเปาวด์ และจะถูกนำไปตรวจสอบคุณสมบัติด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ได้แก่ คุณสมบัติทางกายภาพทั่วไปเช่น ความแข็ง การทดสอบแรงดึง ความถ่วงจำเพาะ การไหลตัวของยาง เป็นต้น และทดสอบคุณสมบัติทางเคมี เช่น การทนต่อโอโซนในอากาศ และอัตราการสุกของยางเป็นต้น ต่อจากนั้นยางคอมเปาวด์ที่ผลิตได้จะถูกนำไปเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตชิ้นส่วนยางเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ต่อไป ทั้งนี้กระบวนการผลิตจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท ตัวอย่างเช่น การผลิตยางแท่นเครื่อง และการผลิตชิ้นส่วนยางทั่วไป กรรมวิธีการผลิตและเทคโนโลยีที่ใช้จะไม่ซับซ้อน กล่าวคือเป็นการขึ้นรูปและอบยางให้สุกด้วยแม่พิมพ์ (เทคโนโลยีการขึ้นรูปด้วยความร้อน) โดยยางคอมเปาวด์จะได้รับแรงอัดและความร้อนสูงทำให้ยางสุกไหลเต็มแม่พิมพ์จนมีรูปร่างตามแบบที่กำหนด นำมาตัดเศษยางเพื่อให้ได้ชิ้นงานตามแบบ แล้วจึงนำไปตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ตามมาตรฐาน เตรียมส่งมอบให้กับลูกค้าต่อไป ส่วนกรรมวิธีการผลิตยางขอบกระจก จะเป็นการนำยางคอมเปาวด์มาเป่าและอบให้สุกโดยอัติโนมัติ (เทคโนโลยี Extrusion) แล้วจึงนำไปเชื่อมต่อเข้ามุมตามแบบที่ต้องการโดยใช้ยางคอมเปาวด์เป็นตัวเชื่อมด้วยความร้อนสูงอีกครั้งหนึ่ง สำหรับการผลิตท่อยาง จะนำยางคอมเปาวด์มาเป่าให้เป็นท่อกลมภายในกลวงตามขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตามมาตรฐานที่กำหนด แล้วนำท่อยางมาเข้าเครื่องถักท่อโดยเครื่องจะถักด้ายเป็นตาข่ายหุ้มผิวยางด้านนอกเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับผลิตภัณฑ์ตามความเหมาะสมของประเภทการใช้งาน จากนั้นนำเข้าเครื่องครอบยางซึ่งเป็นการเป่ายางคอมเปาวด์ (เทคโนโลยี Extrusion) เพื่อหุ้มท่อยางที่ถักแล้วอีกครั้งหนึ่งโดยยางจะรีดผ่านแบบและครอบผิวด้านนอกไปตลอดความยาวของท่อยาง แล้วตัดท่อยางตามความยาวที่ต้องการนำไปใส่แบบเพื่อทำการอบไอน้ำตามแรงอัดและเวลาที่กำหนด ทำการตรวจสอบคุณภาพครั้งสุดท้ายก่อนส่งมอบให้กับลูกค้า ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการผลิตชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์ปรากฏในตารางข้างล่าง
ตัวอย่างเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนยาง
เทคโนโลยี ตัวอย่างชิ้นส่วนยางยานยนต์Extrusion ท่อยางต่าง ๆ เช่น ท่อยางหม้อน้ำ ท่อยางกรองอากาศ ท่อยางน้ำมันเบรค
ท่อยางน้ำมันคลัช และยางขอบประตูรถยนต์ เป็นต้นInjection และ Blow Molding Gasket, O-ring, Grommet, Seal และบุชยาง เป็นต้นการขึ้นรูปด้วยความร้อน ยางรองแท่นเครื่อง ยางกันกระแทก และยางกันชน เป็นต้น
ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
โดยทั่วไป ชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์มีกรรมวิธีในการผลิตดังนี้
ขั้นที่ 1 นำข้อมูลด้าน Specification และ Drawing จากลูกค้ามาศึกษาในรายละเอียดการผลิต
ขั้นที่ 2 ทำการออกแบบ และทำ Mold โดยใช้ข้อมูลจากขั้นที่ 1 และทดสอบ Mold
ขั้นที่ 3 จัดทำชิ้นงานตัวอย่าง และนำเสนอให้ลูกค้าตรวจสอบ เพื่อให้พิจารณาว่า ชิ้นงานที่ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า
ขั้นที่ 4 ทำการผลิตชิ้นส่วนยางให้ได้ปริมาณ และคุณภาพตามกำหนดเวลาส่งมอบ
- วางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับคำสั่งซื้อของลูกค้า ประกอบด้วย กำหนดชนิดปริมาณ และระยะเวลาการจัดซื้อวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ การกำหนดเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ และบุคลากรที่จำเป็นต้องใช้ในการผลิต รวมทั้ง การกำหนดตารางเวลาการผลิต (ProductionScheduling)
- ตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพวัตถุดิบให้ตรงตามแผนการผลิตที่กำหนดไว้
- จัดเตรียมวัตถุดิบ ชั่งน้ำหนักส่วนผสมต่างๆ และผสมให้ได้ตามสัดส่วน
-! ตรวจสอบยางที่ผสมเรียบร้อยแล้ว (ยางคอมเปาวด์) และจัดเตรียมชิ้นยางให้พร้อมก่อนเข้าทำการผลิต
- ทำการผลิตชิ้นงานยางโดย Extrusion หรือ Injection หรือ Blow Molding หรือการขึ้นรูปด้วยความร้อน ขึ้นอยู่กับ ชนิดของชิ้นงานที่จะผลิต รวมทั้งประกอบชิ้นงานด้วย (ถ้ามี)
- ทำการตกแต่งชิ้นงาน ได้แก่ Trimming เคลือบสี ขัดผิว เป็นต้น
- ตรวจสอบคุณภาพชิ้นงานในแต่ละขั้นตอนการผลิต เพื่อลดการสูญเสีย
- ทำการบรรจุภัณฑ์ชิ้นงานเพื่อเตรียมส่งมอบให้ลูกค้า (ส่วนหนึ่งจัดเก็บไว้ในสต็อก)
เครื่องจักรหลักที่ใช้ในกระบวนการผลิต
เครื่องจักรหลักที่ใช้ในกระบวนการผลิตประกอบด้วย (1) Extrusion Machine หรือ Injection Machine หรือ Blow Molding Machine หรือ เครื่องปั๊มขึ้นรูปด้วยความร้อน ขึ้นอยู่กับชนิดของชิ้นงานที่จะผลิต (2) CNC Machine (3) Mixing Machine (4) Testing Equipment (Hardness,Tensile Strength, Gravity, Oil Resistance, Ozone Resistance, ฯลฯ)
กรรมวิธีการผลิตชิ้นส่วนยาง
การติดต่อกับลูกค้า (โรงงาน) เบื้องต้น การศึกษา Spec. และ Drawing ของ
ชิ้นงานจากลูกค้าโดยละเอียด
การจัดทำชิ้นงานตัวอย่างตาม Spec. การออกแบบ และจัดทำ Mold รวมทั้ง
และ Drawing ของลูกค้า การทดสอบ Mold
การจัดส่งชิ้นงานตัวอย่างให้ลูกค้า ผู้ผลิตชิ้นส่วนยาง และลูกค้าตกลงกันใน
ทดสอบว่า ได้ชิ้นงานตามที่ต้องการ ปริมาณสั่งซื้อ และระยะเวลาส่งมอบตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพวัตถุดิบให้ได้ วางแผนการผลิต (วัตถุดิบ เครื่องจักรตามแผนการผลิต และ Spec. ที่กำหนด แรงงาน และตารางเวลาการผลิต)ชั่งตวงวัดยาง สารเคมี คาร์บอนแบลค นำยาง กับส่วนประกอบต่างๆ มาผสมกันแล้วฯลฯ ให้ได้สัดส่วนตาม Spec. ที่กำหนด รีดยางให้เป็นแผ่นบางๆ (Compound Rubber)
ตกแต่งชิ้นงาน ผลิตชิ้นส่วนยางโดย Injection/ Extrusion/
(trimming grinding เคลือบสี ฯลฯ) Blow Moldingตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอนการผลิต ทำการบรรจุภัณฑ์ชิ้นงาน เพื่อเตรียม
เพื่อลดเปอร์เซนต์การสูญเสีย ส่งมอบ (ส่วนหนึ่งเก็บในสต็อก)
จัดส่งชิ้นส่วนยางให้แก่ลูกค้า
ตามที่ลูกค้ากำหนด
การลงทุนและการเงิน
การลงทุนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์ควรตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับลูกค้า ถ้าอยู่ในรัศมีไม่เกิน 50 กิโลเมตรจากลูกค้าก็จะเป็นข้อได้เปรียบ (Advantage) ที่ลูกค้าให้ความสนใจ เงินลงทุนและอุปกรณ์เริ่มต้นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 3 -- 200 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนโครงสร้างการลงทุนดังนี้
สัดส่วนโดยประมาณของเงินลงทุนเริ่มต้น
รายการเงินลงทุน ร้อยละของเงินลงทุน
1. สินทรัพย์ถาวร 70
1.1 ที่ดิน 30
1.2 อาคาร/ สิ่งปลูกสร้าง 20
1.3 เครื่องจักร 15
1.4 ยานพาหนะ 5
2. เงินทุนหมุนเวียน 30
รวม 100
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการ
บุคลากร
ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์โดยทั่วไป จะใช้บุคลากรอยู่ในช่วงระหว่าง 11 -- 645 คน ในขณะที่ขนาดเงินทุนอยู่ในช่วงระหว่าง 3 -- 200 ล้านบาท ดังนั้น สัดส่วนบุคลากรต่อเงินทุน 1 ล้านบาท จะอยู่ในช่วงระหว่าง 1.0 -- 11.8 หรือโดยเฉลี่ย 3.7 คน ต่อเงินทุน 1 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนบุคลากรในโรงงานชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์โดยประมาณดังนี้
สัดส่วนโดยประมาณของบุคลากรในโรงงานชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์
ประเภทพนักงาน ร้อยละของพนักงานทั้งหมด
1. พนักงานในสายการผลิตโดยตรง 94.0
1.1 ช่าง 80.0
1.2 วิศวกร 5.2
1.3 หัวหน้างาน 8.8
2. พนักงานในสำนักงาน 3.0
3. ผู้บริหารระดับสูง 3.0
รวม 100.0
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการ
กำไรเฉลี่ย = 10 -- 15 % ของยอดขาย
ภาคผนวก
แหล่งขายเครื่องจักร
ตารางที่ 1: รายชื่อผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย
บริษัท ที่อยู่1. Behn Meyer Engineering Co., Ltd. UM Tower ชั้น 10 เลขที่ 9 ถ.รามคำแหง สวนหลวง
กรุงเทพฯ 10250 โทรศัพท์ 319-72272. Pacific Tools Co. Ltd. 907 หมู่ 15 ถ.เทพารักษ์ บางเสาธง สมุทรปราการ
10540 โทรศัพท์ 313-11993. บริษัท ยูนสยามโอเวอร์ซีส์เทรดดิ้ง จำกัด 158/ 7 ถ.นนทรี ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพฯ
10120 โทรศัพท์ 284-2314, 284-2318, 294-51204. ห้างหุ้นส่วนจำกัด แมชชีนเนอรรี่เมโปเรี่ยม 240 หมู่ 1 ซ.ประชาอุทิศ 35 บางมด ราษฏร์บูรณะ
กรุงเทพฯ 10140 โทรศัพท์ 427-7437, 427-22045. บริษัท วาย.วี.เอ็น.ทูลส์ แอนด์ อีควิปเม้นท์ จำกัด 1805 หมู่ 4 ถ.สุขุมวิท ต.เทพารักษ์ อ.เมือง
จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ 757-7322-3ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด--จบ--
-ชต-
อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยมีความต้องการชิ้นส่วนยางปี 2542 เป็นจำนวนมากถึง 51,920 ตัน ในขณะที่อุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนยางของไทยสามารถรองรับความต้องการได้เพียงจำนวนหนึ่ง ทำให้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และมีช่องว่างระหว่างความต้องการชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์ กับการผลิตชิ้นส่วนยางที่ใช้ในประเทศ ดังนั้น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์จึงเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่น่าสนใจลงทุน
เทคโนโลยีในการผลิตชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์ที่ใช้กันมากในการผลิต ได้แก่ Injection และ Blow Molding (ตัวอย่างชิ้นงาน: Gasket, O-ring, Grommet, Seal และบุชยาง) Extrusion (ตัวอย่างชิ้นงาน: ท่อยางหม้อน้ำ ท่อยางกรองอากาศ ท่อยางน้ำมันเบรค ท่อยางน้ำมันคลัช และยางขอบประตูรถยนต์ สำหรับเครื่องจักรหลักที่ใช้ในการผลิต ได้แก่ Extrusion Machine หรือ Injection Machineหรือ Blow Molding Machine หรือ เครื่องปั๊มขึ้นรูปด้วยความร้อน (ขึ้นอยู่กับชนิดของชิ้นงานที่จะผลิต) CNC Mixing Machine Painting Machine และ Testing Eqipment (Hardness, Tensile Strength, Gravity, Oil Resistance, Ozone Resistance, ฯลฯ)
เงินลงทุนและอุปกรณ์เริ่มต้นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 3 -- 200 ล้านบาท โดยมีเงินลงทุนในที่ดิน อาคาร เครื่องจักร ยานพาหนะ และเงินทุนหมุนเวียน โดยประมาณเท่ากับร้อยละ 30 20 15 5 และ 30 ตามลำดับ จำนวนบุคลากรจะขึ้นอยู่กับขนาดเงินลงทุน และเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้โดยมีสัดส่วนบุคลากรต่อเงินทุน 1 ล้านบาท จะอยู่ในช่วงระหว่าง 1.0 -- 11.8 หรือโดยเฉลี่ย 3.7 คน ต่อเงินทุน 1 ล้านบาท สำหรับสถานที่ตั้งของโรงงานผลิตชิ้นส่วนยางควรตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับลูกค้าภายในรัศมี 50 กิโลเมตร กลยุทธ์การจำหน่ายของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางมี 3 วิธี คือ (1) ขายตรงให้แก่ลูกค้ามากที่สุด (2) ขายโดยผ่านตัวแทนรองลงมา และ (3) ขายกับบริษัทร่วมทุน (Joint Venture Company)เป็นอันดับสุดท้าย
การตลาด
ความต้องการในปัจจุบันและอนาคต
ความต้องการชิ้นส่วนยางที่มีคุณสมบัติพิเศษเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากการทดแทนการใช้ยางธรรมชาติซึ่งมีข้อจำกัดในด้านคุณสมบัติบางประการในการนำไปใช้ในบางอุตสาหกรรม เช่น ความยืดหยุ่น ความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ความทนทานต่อการกัดกร่อนของสารเคมี ความทนทานต่อแรงอัด แรงกระแทก และแรงเสียดทาน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศผู้ผลิต และส่งออกยางธรรมชาติมากเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ได้แก่ ยางแผ่น ยางแท่ง น้ำยางข้น เป็นต้น แต่ความต้องการใช้ยางสังเคราะห์ของประเทศไทยในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมรองเท้า เป็นการนำเข้าเกือบทั้งหมด ทำให้มีช่องว่าง (Gap) ระหว่างอุปสงค์ยางสังเคราะห์ในอุตสาหกรรมดังกล่าว กับอุปทานของอุตสาหกรรมการผลิตยางสังเคราะห์ในประเทศไทย ดังนั้น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์จึงเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่น่าสนใจลงทุนอุปสงค์ชิ้นส่วนยางดังกล่าวเป็นอุปสงค์ต่อเนื่อง (Derived Demand) จากอุปทานในการผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย ทำให้ตลาดของชิ้นส่วนยางที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
ภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2542 ได้ฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากปัจจัยสำคัญ 4 ประการ คือ (1) บริษัทผู้ประกอบการอุตสาหกรมรถยนต์ไทยหลายแห่งได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทแม่(โดยเฉพาะบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น) ด้วยการเพิ่มทุน ทำให้บริษัทดังกล่าวมีความแข็งแกร่งทางการเงินมากขึ้น และสามารถออกโปรแกรมส่งเสริมการตลาดในประเทศได้มากขึ้น (2) ความช่วยเหลือด้านการส่งออกรถยนต์ไทยไปตลาดต่างประเทศจากบริษัทแม่ (ญี่ปุ่น) ของบริษัทผู้ประกอบการอุตสาหกรมรถยนต์ไทยหลายแห่ง (3) ข้อกำหนด และเงื่อนไขของสินเชื่อการเช่าซื้อ (Hire Purchase) / เช่าทรัพย์ (Leasing) รถยนต์ได้รับการผ่อนคลายความเข้มงวดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศ โดยตั้งแต่ต้นปี 2542 และ (4) ภาวะอัตราดอกเบี้ยของไทยได้ลดลงอย่างมากทั้งด้านเงินฝาก และสินเชื่อ เนื่องจากสภาพคล่องล้นระบบสถาบันการเงิน จากปัจจัย 4 ประการดังกล่าวข้างต้น ทำให้ปริมาณการผลิตรถยนต์ของประเทศในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2542 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 103.7 (หรืออยู่ที่ 178,997 คัน) คาดว่า ในปี 2542 การผลิตรถยนต์ของไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 320,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 101.7 จากปี 2541และปี 2543 2544 จะเพิ่มขึ้นเป็น 450,000 และ 600,000 คัน ตามลำดับ
สำหรับตลาดของชิ้นส่วนยางที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เป็นอุปสงค์ต่อเนื่องนั้น จากการคาดประมาณโดยมีข้อสมมติ (Assumption) 2 ข้อ คือ (1) น้ำหนักของรถยนต์นั่ง และ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,400 และ 1,500 กิโลกรัม/ คัน ตามลำดับ (2) สัดส่วนโดยน้ำหนักของยางต่อน้ำหนักรถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 11 ดังนั้น รถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์จะมีความต้องการใช้ยางโดยเฉลี่ยประมาณ 154 และ 165 กิโลกรัมต่อคัน ตามลำดับ ดังนั้นขนาดตลาดชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์ของไทยปี 2542 2543 และ 2544 จะอยู่ที่ 51,920 72,875 และ 97,323 ตัน ตามลำดับ รายละเอียดปรากฏในตารางที่ 1
ปริมาณการผลิตรถยนต์ และขนาดตลาดของชิ้นส่วนยางที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
รายการ 2537 2538 2539 2540 2541-E 2542-E 2543-F 2544-F1. ปริมาณการผลิต (คัน)
1.1 รถยนต์นั่ง 109,822 127,242 138,579 112,284 32,028 82,000 125,000 152,500
1.2 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 320,504 398,438 408,742 248,442 126,595 240,000 325,000 447,500รวมปริมาณการผลิตรถยนต์ 430,326 525,680 547,321 360,726 158,623 320,000 450,000 600,0002. ขนาดตลาดของชิ้นส่วนยาง
(กิโลกรัม)
1.1 รถยนต์นั่ง 16,912,588 19,595,268 21,341,166 17,291,736 4,932,312 12,320,000 19,250,000 23,485,000
1.2 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 52,883,160 65,742,270 67,442,430 40,992,930 20,888,175 39,600,000 53,625,000 73,837,500ขนาดตลาดชิ้นส่วนยาง 69,795,748 85,337,538 88,783,596 58,284,666 25,820,487 51,920,000 72,875,000 97,322,500ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย และประมาณการโดยบริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
ปัจจุบันมีผู้ผลิตชิ้นส่วนยางที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศประมาณ 100 ราย ในจำนวนนี้เป็นกิจการรายสำคัญ จำนวน 9 ราย ดังนี้
รายชื่อผู้ประกอบการรายสำคัญในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์
ขนาดใหญ่ ที่ตั้ง เงินทุนจดทะเบียน (บาท)1. บริษัท อิโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) อ.ธัญญบุรี จ.ปทุมธานี 1,000,000,0002. บริษัท ไทยฟูโกกุ จำกัด นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ จ. ฉะเชิงเทรา 500,000,0003. บริษัท โทแอดส์ (ประเทศไทย) จำกัด อ. เมือง จ. ชลบุรี 277,000,000
ขนาดกลางและย่อม ที่ตั้ง เงินทุนจดทะเบียน (บาท)4. บริษัท นิชิกาว่า เตชาพลาเลิศ รับเบอร์ (นิชชินเบรคซิสเต็ม)จำกัด อ. เมือง จ. นครราชสีมา 200,000,0005. บริษัท พงศ์พาราโคดันรับเบอร์ จำกัด อ. กระทุ่มแบน จ. สมุทรสาคร 200,000,0006. บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด อ. วังน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา 200,000,000
ขนาดกลางและย่อม ที่ตั้ง เงินทุนจดทะเบียน (บาท)7. บริษัท ฮิตาชิ เคมิคอลจำกัด อ. ปลวกแดง จ. ระยอง 200,000,0008.!บริษัท ไซมีส-แบนโดรับเบอร์อินดัสตรีส์ จำกัด อ. เมือง จ. สมุทรสาคร 167,000,0009. บริษัท ชีน่า แก๊สเก็ต จำกัด อ. พานทอง จ. ชลบุรี 130,000,00010.บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล รับเบอร์พาทส์ จำกัด บางขุนเทียน กรุงเทพฯ 120,000,000
ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
ช่องทางการจำหน่าย
กลยุทธ์การจำหน่ายของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางมี 3 วิธี คือ (1) ขายตรงให้แก่ลูกค้ามากที่สุด (2) ขายโดยผ่านตัวแทนขายรองลงมา และ (3) ขายกับบริษัทร่วมทุน (Joint Venture Company) เป็นอันดับสุดท้าย โดยมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ 5 วิธี เรียงลำดับจากมากไปน้อย คือ 1. แนะนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทแก่ลูกค้าเป้าหมายโดยตรง (2) โฆษณาในสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง และ (3) โฆษณาใน Directory ต่างๆ หรือ โฆษณาโดยผ่าน Industrial Purchasing Guide หรือ โฆษณาประชาสัมพันธ์โดยการส่งข้อมูลผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านนายหน้า/ คนกลาง ตามลำดับ
การผลิต
วัตถุดิบที่ใช้และแหล่งวัตถุดิบ
ส่วนประกอบที่สำคัญที่ใช้ในการผลิต ได้แก่ ยางพารา ยางสังเคราะห์ สารเคมี โลหะ และคาร์บอนแบลค โดยมีสัดส่วนมากที่สุดถึงร้อยละ 60 ของโครงสร้างต้นทุนการผลิต และวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากภายในประเทศ รายละเอียดปรากฏในตารางที่ 3 ชิ้นสวนยางมีหลายชนิด และแต่ละชนิดจะนำมาใช้ในรถยนต์ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างของชิ้นงานยางที่ใช้เป็นส่วนประกอบในรถยนต์ปรากฏในตารางที่ 4
โครงสร้างต้นทุนการผลิต
ประเภท สัดส่วน (%)
1. วัตถุดิบ !60
!2. ค่าแรงงาน !15
!3. ค่าเสื่อมราคาและอื่นๆ !10
!4. ค่าโสหุ้ยการผลิต !15
!รวม !100
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการ
กรรมวิธีการผลิต
สำหรับกรรมวิธีการผลิตชิ้นส่วนยางเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ นั้น ในขั้นตอนเบื้องต้นจะมีวิธีการเหมือนกันคือ การผลิตยางคอมเปาวด์ (Compound Rubber) เป็นการนำยางสังเคราะห์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักมาผสมกับเคมีภัณฑ์ต่างๆ ที่สำคัญ โดยส่วนประกอบต่างๆ จะถูกผสมกันในเครื่องผสมยางตามสัดส่วนและเวลามาตรฐานที่กำหนด จากนั้นจะรีดยางที่ผสมสารเคมีเรียบร้อยแล้วให้เป็นยางแผ่นบางๆ เรียกว่า ยางคอมเปาวด์ และจะถูกนำไปตรวจสอบคุณสมบัติด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ได้แก่ คุณสมบัติทางกายภาพทั่วไปเช่น ความแข็ง การทดสอบแรงดึง ความถ่วงจำเพาะ การไหลตัวของยาง เป็นต้น และทดสอบคุณสมบัติทางเคมี เช่น การทนต่อโอโซนในอากาศ และอัตราการสุกของยางเป็นต้น ต่อจากนั้นยางคอมเปาวด์ที่ผลิตได้จะถูกนำไปเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตชิ้นส่วนยางเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ต่อไป ทั้งนี้กระบวนการผลิตจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับลักษณะของผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท ตัวอย่างเช่น การผลิตยางแท่นเครื่อง และการผลิตชิ้นส่วนยางทั่วไป กรรมวิธีการผลิตและเทคโนโลยีที่ใช้จะไม่ซับซ้อน กล่าวคือเป็นการขึ้นรูปและอบยางให้สุกด้วยแม่พิมพ์ (เทคโนโลยีการขึ้นรูปด้วยความร้อน) โดยยางคอมเปาวด์จะได้รับแรงอัดและความร้อนสูงทำให้ยางสุกไหลเต็มแม่พิมพ์จนมีรูปร่างตามแบบที่กำหนด นำมาตัดเศษยางเพื่อให้ได้ชิ้นงานตามแบบ แล้วจึงนำไปตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ตามมาตรฐาน เตรียมส่งมอบให้กับลูกค้าต่อไป ส่วนกรรมวิธีการผลิตยางขอบกระจก จะเป็นการนำยางคอมเปาวด์มาเป่าและอบให้สุกโดยอัติโนมัติ (เทคโนโลยี Extrusion) แล้วจึงนำไปเชื่อมต่อเข้ามุมตามแบบที่ต้องการโดยใช้ยางคอมเปาวด์เป็นตัวเชื่อมด้วยความร้อนสูงอีกครั้งหนึ่ง สำหรับการผลิตท่อยาง จะนำยางคอมเปาวด์มาเป่าให้เป็นท่อกลมภายในกลวงตามขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตามมาตรฐานที่กำหนด แล้วนำท่อยางมาเข้าเครื่องถักท่อโดยเครื่องจะถักด้ายเป็นตาข่ายหุ้มผิวยางด้านนอกเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับผลิตภัณฑ์ตามความเหมาะสมของประเภทการใช้งาน จากนั้นนำเข้าเครื่องครอบยางซึ่งเป็นการเป่ายางคอมเปาวด์ (เทคโนโลยี Extrusion) เพื่อหุ้มท่อยางที่ถักแล้วอีกครั้งหนึ่งโดยยางจะรีดผ่านแบบและครอบผิวด้านนอกไปตลอดความยาวของท่อยาง แล้วตัดท่อยางตามความยาวที่ต้องการนำไปใส่แบบเพื่อทำการอบไอน้ำตามแรงอัดและเวลาที่กำหนด ทำการตรวจสอบคุณภาพครั้งสุดท้ายก่อนส่งมอบให้กับลูกค้า ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการผลิตชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์ปรากฏในตารางข้างล่าง
ตัวอย่างเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนยาง
เทคโนโลยี ตัวอย่างชิ้นส่วนยางยานยนต์Extrusion ท่อยางต่าง ๆ เช่น ท่อยางหม้อน้ำ ท่อยางกรองอากาศ ท่อยางน้ำมันเบรค
ท่อยางน้ำมันคลัช และยางขอบประตูรถยนต์ เป็นต้นInjection และ Blow Molding Gasket, O-ring, Grommet, Seal และบุชยาง เป็นต้นการขึ้นรูปด้วยความร้อน ยางรองแท่นเครื่อง ยางกันกระแทก และยางกันชน เป็นต้น
ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด
โดยทั่วไป ชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์มีกรรมวิธีในการผลิตดังนี้
ขั้นที่ 1 นำข้อมูลด้าน Specification และ Drawing จากลูกค้ามาศึกษาในรายละเอียดการผลิต
ขั้นที่ 2 ทำการออกแบบ และทำ Mold โดยใช้ข้อมูลจากขั้นที่ 1 และทดสอบ Mold
ขั้นที่ 3 จัดทำชิ้นงานตัวอย่าง และนำเสนอให้ลูกค้าตรวจสอบ เพื่อให้พิจารณาว่า ชิ้นงานที่ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า
ขั้นที่ 4 ทำการผลิตชิ้นส่วนยางให้ได้ปริมาณ และคุณภาพตามกำหนดเวลาส่งมอบ
- วางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับคำสั่งซื้อของลูกค้า ประกอบด้วย กำหนดชนิดปริมาณ และระยะเวลาการจัดซื้อวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ การกำหนดเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ และบุคลากรที่จำเป็นต้องใช้ในการผลิต รวมทั้ง การกำหนดตารางเวลาการผลิต (ProductionScheduling)
- ตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพวัตถุดิบให้ตรงตามแผนการผลิตที่กำหนดไว้
- จัดเตรียมวัตถุดิบ ชั่งน้ำหนักส่วนผสมต่างๆ และผสมให้ได้ตามสัดส่วน
-! ตรวจสอบยางที่ผสมเรียบร้อยแล้ว (ยางคอมเปาวด์) และจัดเตรียมชิ้นยางให้พร้อมก่อนเข้าทำการผลิต
- ทำการผลิตชิ้นงานยางโดย Extrusion หรือ Injection หรือ Blow Molding หรือการขึ้นรูปด้วยความร้อน ขึ้นอยู่กับ ชนิดของชิ้นงานที่จะผลิต รวมทั้งประกอบชิ้นงานด้วย (ถ้ามี)
- ทำการตกแต่งชิ้นงาน ได้แก่ Trimming เคลือบสี ขัดผิว เป็นต้น
- ตรวจสอบคุณภาพชิ้นงานในแต่ละขั้นตอนการผลิต เพื่อลดการสูญเสีย
- ทำการบรรจุภัณฑ์ชิ้นงานเพื่อเตรียมส่งมอบให้ลูกค้า (ส่วนหนึ่งจัดเก็บไว้ในสต็อก)
เครื่องจักรหลักที่ใช้ในกระบวนการผลิต
เครื่องจักรหลักที่ใช้ในกระบวนการผลิตประกอบด้วย (1) Extrusion Machine หรือ Injection Machine หรือ Blow Molding Machine หรือ เครื่องปั๊มขึ้นรูปด้วยความร้อน ขึ้นอยู่กับชนิดของชิ้นงานที่จะผลิต (2) CNC Machine (3) Mixing Machine (4) Testing Equipment (Hardness,Tensile Strength, Gravity, Oil Resistance, Ozone Resistance, ฯลฯ)
กรรมวิธีการผลิตชิ้นส่วนยาง
การติดต่อกับลูกค้า (โรงงาน) เบื้องต้น การศึกษา Spec. และ Drawing ของ
ชิ้นงานจากลูกค้าโดยละเอียด
การจัดทำชิ้นงานตัวอย่างตาม Spec. การออกแบบ และจัดทำ Mold รวมทั้ง
และ Drawing ของลูกค้า การทดสอบ Mold
การจัดส่งชิ้นงานตัวอย่างให้ลูกค้า ผู้ผลิตชิ้นส่วนยาง และลูกค้าตกลงกันใน
ทดสอบว่า ได้ชิ้นงานตามที่ต้องการ ปริมาณสั่งซื้อ และระยะเวลาส่งมอบตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพวัตถุดิบให้ได้ วางแผนการผลิต (วัตถุดิบ เครื่องจักรตามแผนการผลิต และ Spec. ที่กำหนด แรงงาน และตารางเวลาการผลิต)ชั่งตวงวัดยาง สารเคมี คาร์บอนแบลค นำยาง กับส่วนประกอบต่างๆ มาผสมกันแล้วฯลฯ ให้ได้สัดส่วนตาม Spec. ที่กำหนด รีดยางให้เป็นแผ่นบางๆ (Compound Rubber)
ตกแต่งชิ้นงาน ผลิตชิ้นส่วนยางโดย Injection/ Extrusion/
(trimming grinding เคลือบสี ฯลฯ) Blow Moldingตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอนการผลิต ทำการบรรจุภัณฑ์ชิ้นงาน เพื่อเตรียม
เพื่อลดเปอร์เซนต์การสูญเสีย ส่งมอบ (ส่วนหนึ่งเก็บในสต็อก)
จัดส่งชิ้นส่วนยางให้แก่ลูกค้า
ตามที่ลูกค้ากำหนด
การลงทุนและการเงิน
การลงทุนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์ควรตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับลูกค้า ถ้าอยู่ในรัศมีไม่เกิน 50 กิโลเมตรจากลูกค้าก็จะเป็นข้อได้เปรียบ (Advantage) ที่ลูกค้าให้ความสนใจ เงินลงทุนและอุปกรณ์เริ่มต้นจะอยู่ในช่วงระหว่าง 3 -- 200 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนโครงสร้างการลงทุนดังนี้
สัดส่วนโดยประมาณของเงินลงทุนเริ่มต้น
รายการเงินลงทุน ร้อยละของเงินลงทุน
1. สินทรัพย์ถาวร 70
1.1 ที่ดิน 30
1.2 อาคาร/ สิ่งปลูกสร้าง 20
1.3 เครื่องจักร 15
1.4 ยานพาหนะ 5
2. เงินทุนหมุนเวียน 30
รวม 100
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการ
บุคลากร
ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์โดยทั่วไป จะใช้บุคลากรอยู่ในช่วงระหว่าง 11 -- 645 คน ในขณะที่ขนาดเงินทุนอยู่ในช่วงระหว่าง 3 -- 200 ล้านบาท ดังนั้น สัดส่วนบุคลากรต่อเงินทุน 1 ล้านบาท จะอยู่ในช่วงระหว่าง 1.0 -- 11.8 หรือโดยเฉลี่ย 3.7 คน ต่อเงินทุน 1 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนบุคลากรในโรงงานชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์โดยประมาณดังนี้
สัดส่วนโดยประมาณของบุคลากรในโรงงานชิ้นส่วนยางที่ใช้ในรถยนต์
ประเภทพนักงาน ร้อยละของพนักงานทั้งหมด
1. พนักงานในสายการผลิตโดยตรง 94.0
1.1 ช่าง 80.0
1.2 วิศวกร 5.2
1.3 หัวหน้างาน 8.8
2. พนักงานในสำนักงาน 3.0
3. ผู้บริหารระดับสูง 3.0
รวม 100.0
ที่มา: สอบถามผู้ประกอบการ
กำไรเฉลี่ย = 10 -- 15 % ของยอดขาย
ภาคผนวก
แหล่งขายเครื่องจักร
ตารางที่ 1: รายชื่อผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย
บริษัท ที่อยู่1. Behn Meyer Engineering Co., Ltd. UM Tower ชั้น 10 เลขที่ 9 ถ.รามคำแหง สวนหลวง
กรุงเทพฯ 10250 โทรศัพท์ 319-72272. Pacific Tools Co. Ltd. 907 หมู่ 15 ถ.เทพารักษ์ บางเสาธง สมุทรปราการ
10540 โทรศัพท์ 313-11993. บริษัท ยูนสยามโอเวอร์ซีส์เทรดดิ้ง จำกัด 158/ 7 ถ.นนทรี ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพฯ
10120 โทรศัพท์ 284-2314, 284-2318, 294-51204. ห้างหุ้นส่วนจำกัด แมชชีนเนอรรี่เมโปเรี่ยม 240 หมู่ 1 ซ.ประชาอุทิศ 35 บางมด ราษฏร์บูรณะ
กรุงเทพฯ 10140 โทรศัพท์ 427-7437, 427-22045. บริษัท วาย.วี.เอ็น.ทูลส์ แอนด์ อีควิปเม้นท์ จำกัด 1805 หมู่ 4 ถ.สุขุมวิท ต.เทพารักษ์ อ.เมือง
จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ 757-7322-3ที่มา: รวบรวมโดย บริษัท ศูนย์วิจัย ไทยพาณิชย์ จำกัด--จบ--
-ชต-