นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการสัมมนาหัวข้อเรื่อง "เราจะช่วยกันแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างไร" ที่จังหวัดสงขลา ว่าเป็นการลงพื้นที่รับทราบปัญหาและแลกเปลี่ยนแนวความคิด โดยมีประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมสัมมานาครั้งนี้ด้วย สิ่งหลักในการสัมมนาคือการรายงานให้ประชาชนฟังว่าพรรคได้ทำอะไรไปบ้างในช่วงเวลาที่ผ่านมา และรับเสียงสะท้อนเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์กับการทำงานในสภาฯเมื่อเปิดสมัยประชุม
การสัมมานาครั้งนี้พรรคได้บอกกับประชาชนในพื้นที่ว่าพรรคจะไม่ละเลยเพิกเฉยต่อสภาพความทุกร้อนของประชาชน เพราะฉะนั้นไม่ว่านโยบายหรือปัญหาทางการเมืองจะเป็นอย่างไรตาม พรรคประชาธิปัตย์จะริเริ่มทำโครงการ3 โครงการคือ 1.โครงการในการจัดตั้งช่องทางกฎหมายที่จะให้ประชาชนสามารถจะร้องเรียนเรื่องสิทธิเสรีภาพ เพื่อลดปัญหาการหวาดระแวง ความกลัว 2. พรรคจะเข้าไปประสานกับทางท้องถิ่น และภาคเอกชน หรือหน่วยงานใดๆ แล้วนำเอาสินค้าที่เป็นผลิตทางการเกษตร หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ไม่มีคนเข้าไปรับซื้อเพราะปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น 3.การจัดทำกิจกรรมเพื่อให้เกิดความสามัคคี เช่นโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนในและนอกพื้นที่
และการสัมมานาครั้งนี้พรรคได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาลงคะแนนในหัวข้อ ‘ปัญหาใดที่ท่านคิดว่าเป็นปัญหาที่รุนแรงที่สุด’ และได้ทราบคำตอบว่าปัญหาที่ได้คะแนนเป็นอันดับที่ 1 คือปัญหาเรื่องผลประโยชน์ และทุจริตคอรัปชั่น ของผู้เกี่ยวข้อง ปัญหาที่ 2 คือปัญหาลักษณะผู้นำของรัฐบาล ในการที่จะส่งสัญญาณในการแก้ปัญหา นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องปัญหาการเกษตร ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปัญหาไม่สามัคคีที่เกิดขึ้น ซึ่งข้อเสนอของประชาชนส่วนใหญ่ จะมุ่งไปที่การขอให้มีส่วนร่วมระหว่างท้องถิ่น และชุมชน มากกว่าที่จะให้มีการกำหนดไปจากส่วนกลาง
‘ต้องชื่นชมผู้ที่มาร่วมสัมมนา เพราะว่าที่จริงหลายคนก็เกิดความหวาดกลัว กว่าจะออกจากบ้านเดินทางมา มีบางพื้นที่บอกว่าสาเหตุที่มาสายเพราะไม่กล้าออกจากบ้านในเวลาเช้ามืด และการสัมมนาก็ต้องเร่งให้เสร็จก่อน15.00 น.เพราะทุกคนก็ต้องการกลับบ้านก่อนมืดเหมือนกัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าบางช่วงเขาก็ขอให้สื่อมวลชนอย่าอยู่ได้ไหม แสดงให้เห็นว่าเขามีความหวาดกลัว แต่ว่าขณะนเดียวกันก็แสดงออกว่าอยากมีส่วนร่วม อยากมาช่วยระดมความคิดเห็นเพื่อแก้ไขปัญหา และบรรยากาศต่างๆก็บ่งบอกว่าพี่น้องที่นั่นต้องการความสันติสุขคืนสู่พื้นที่’นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 5 ส.ค. 2548--จบ--
การสัมมานาครั้งนี้พรรคได้บอกกับประชาชนในพื้นที่ว่าพรรคจะไม่ละเลยเพิกเฉยต่อสภาพความทุกร้อนของประชาชน เพราะฉะนั้นไม่ว่านโยบายหรือปัญหาทางการเมืองจะเป็นอย่างไรตาม พรรคประชาธิปัตย์จะริเริ่มทำโครงการ3 โครงการคือ 1.โครงการในการจัดตั้งช่องทางกฎหมายที่จะให้ประชาชนสามารถจะร้องเรียนเรื่องสิทธิเสรีภาพ เพื่อลดปัญหาการหวาดระแวง ความกลัว 2. พรรคจะเข้าไปประสานกับทางท้องถิ่น และภาคเอกชน หรือหน่วยงานใดๆ แล้วนำเอาสินค้าที่เป็นผลิตทางการเกษตร หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ไม่มีคนเข้าไปรับซื้อเพราะปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น 3.การจัดทำกิจกรรมเพื่อให้เกิดความสามัคคี เช่นโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนในและนอกพื้นที่
และการสัมมานาครั้งนี้พรรคได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาลงคะแนนในหัวข้อ ‘ปัญหาใดที่ท่านคิดว่าเป็นปัญหาที่รุนแรงที่สุด’ และได้ทราบคำตอบว่าปัญหาที่ได้คะแนนเป็นอันดับที่ 1 คือปัญหาเรื่องผลประโยชน์ และทุจริตคอรัปชั่น ของผู้เกี่ยวข้อง ปัญหาที่ 2 คือปัญหาลักษณะผู้นำของรัฐบาล ในการที่จะส่งสัญญาณในการแก้ปัญหา นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องปัญหาการเกษตร ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปัญหาไม่สามัคคีที่เกิดขึ้น ซึ่งข้อเสนอของประชาชนส่วนใหญ่ จะมุ่งไปที่การขอให้มีส่วนร่วมระหว่างท้องถิ่น และชุมชน มากกว่าที่จะให้มีการกำหนดไปจากส่วนกลาง
‘ต้องชื่นชมผู้ที่มาร่วมสัมมนา เพราะว่าที่จริงหลายคนก็เกิดความหวาดกลัว กว่าจะออกจากบ้านเดินทางมา มีบางพื้นที่บอกว่าสาเหตุที่มาสายเพราะไม่กล้าออกจากบ้านในเวลาเช้ามืด และการสัมมนาก็ต้องเร่งให้เสร็จก่อน15.00 น.เพราะทุกคนก็ต้องการกลับบ้านก่อนมืดเหมือนกัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าบางช่วงเขาก็ขอให้สื่อมวลชนอย่าอยู่ได้ไหม แสดงให้เห็นว่าเขามีความหวาดกลัว แต่ว่าขณะนเดียวกันก็แสดงออกว่าอยากมีส่วนร่วม อยากมาช่วยระดมความคิดเห็นเพื่อแก้ไขปัญหา และบรรยากาศต่างๆก็บ่งบอกว่าพี่น้องที่นั่นต้องการความสันติสุขคืนสู่พื้นที่’นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 5 ส.ค. 2548--จบ--