นายธรรมนูญ เชี่ยวสกุล อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงแนวโน้มการค้ามันสำปะหลังไทยในอนาคตว่า สืบเนื่องจากที่กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ร่วมกับ กรมส่งเสริมการส่งออก และศูนย์ค้นคว้าและพัฒนาวิชาการอาหารสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้จัดคณะผู้แทนเดินทางไปเจรจาหารือกับผู้นำเข้าและผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ประเทศเนเธอร์แลนด์และเบลเยี่ยม รวมทั้งเข้าร่วมจัดนิทรรศการแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์มันฯไทยในงาน Victam Europe Exhibition & Conferences ระหว่างวันที่ 6 — 11 พฤศจิกายน 2544 เพื่อแนะนำประชาสัมพันธ์การพัฒนายกระดับคุณภาพสินค้ามันฯไทย และคุณลักษณะเด่นของมันฯที่ปลอดสารพิษไมโคท็อกซิน (Mycotoxins) และไม่มีการตัดต่อพันธุกรรม (Non-GMO) รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์มันฯในอาหารสัตว์ และ อุตสาหกรรมต่างๆ
ผลการดำเนินการปรากฎว่าคูหาแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์มันฯของไทยได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานทั้งจากประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเป็นผู้ใช้/ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์มันฯไทยแล้ว และจากนอกอียู เช่น สาธารณรัฐเช็ค สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก ปารากวัย ชิลี เวเนซูเอลา อิสราเอล ซาอุดิอาราเบีย บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย เป็นต้น เป็นอย่างมาก
ในจำนวนผู้ที่ให้ความสนใจนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มันฯไทยในอาหารสัตว์อยู่แล้วและแสดงความสนใจในมันเส้นสะอาด และอีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่ยังไม่ทราบถึงการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์มันฯ ซึ่งคณะผู้แทนฯได้ให้ความรู้พร้อมทั้งการอธิบาย ทำให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ดังกล่าวเกิดความสนใจและได้ขอตัวอย่างสินค้าเพื่อที่จะทดลองใช้ศึกษาเปรียบเทียบข้อดี-ข้อด้อยกับธัญพืชชนิดอื่น และยังมีผู้ประกอบการหลายรายแสดงความต้องการสั่งซื้อมันเส้น/มันอัดเม็ดของไทย และต้องการทราบราคาขายเพื่อต่อรอง นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการจำนวนมากให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากมันฯโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาชนะย่อยสลายได้ (bio-degradeable) ซึ่งใช้แทนโฟมบรรจุอาหาร ที่ผลิตโดย บริษัท แคซซาวากรีน จำกัด เนื่องจากภาชนะดังกล่าวย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ จึงไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในส่วนของผู้สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์มันฯนี้ คต.ได้แจ้งรายละเอียดผ่านทางสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการค้ามันฯให้ประสานงานสมาชิกสมาคมเพื่อติดต่อค้าขายกันโดยตรงต่อไปแล้ว
จากผลการเจรจาหารือและประชาสัมพันธ์ในงานดังกล่าว ทำให้คาดหมายว่าอนาคตการค้าผลิตภัณฑ์มันฯไทยในอียู โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันฯคุณภาพดีจะมีโอกาสขยายตัวมากขึ้น สำหรับตลาดนอกอียู โดยเฉพาะประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นตลาดใหญ่ ปัจจุบันผลิตอาหารสัตว์ประมาณ 60 ล้านตันต่อปีและคาดว่าภายใน 10 ปี ข้างหน้าปริมาณการผลิตจะเพิ่มขึ้นถึง 150 ล้านตันต่อปีหรือเพิ่มขึ้นปีละ 10 ล้านตัน ซึ่งการผลิตอาหารสัตว์ดังกล่าวจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบเป็นจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสที่ดีของไทยในการขยายการส่งออกมันฯไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนในระยะต่อไป
นายธรรมนูญฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์มันฯจะมีอนาคตที่ค่อนข้างสดใส แต่ปัญหาหนึ่งที่ผู้ประกอบการส่งออกควรระมัดระวังได้แก่ การรักษาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานส่งออก และตรงกับความต้องการของผู้ใช้ รวมทั้งให้ความสนใจในการปรับปรุงคุณภาพการอัดมันเม็ดให้แข็งขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาการแตกเป็นผง/ฝุ่นในระหว่างการขนถ่าย ซึ่งหากไม่เร่งแก้ไขแล้ว อาจเป็นปัญหาต่อการส่งออกในระยะอันใกล้นี้ และทำให้สูญเสียตลาดให้กับประเทศคู่แข่งที่มีศักยภาพในการส่งออกสินค้าธัญพืชทดแทนกันได้
--กรมการค้าต่างประเทศ เดือนธันวาคม 2544--
-อน-
ผลการดำเนินการปรากฎว่าคูหาแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์มันฯของไทยได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานทั้งจากประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเป็นผู้ใช้/ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์มันฯไทยแล้ว และจากนอกอียู เช่น สาธารณรัฐเช็ค สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก ปารากวัย ชิลี เวเนซูเอลา อิสราเอล ซาอุดิอาราเบีย บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย เป็นต้น เป็นอย่างมาก
ในจำนวนผู้ที่ให้ความสนใจนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มันฯไทยในอาหารสัตว์อยู่แล้วและแสดงความสนใจในมันเส้นสะอาด และอีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่ยังไม่ทราบถึงการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์มันฯ ซึ่งคณะผู้แทนฯได้ให้ความรู้พร้อมทั้งการอธิบาย ทำให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ดังกล่าวเกิดความสนใจและได้ขอตัวอย่างสินค้าเพื่อที่จะทดลองใช้ศึกษาเปรียบเทียบข้อดี-ข้อด้อยกับธัญพืชชนิดอื่น และยังมีผู้ประกอบการหลายรายแสดงความต้องการสั่งซื้อมันเส้น/มันอัดเม็ดของไทย และต้องการทราบราคาขายเพื่อต่อรอง นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการจำนวนมากให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากมันฯโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาชนะย่อยสลายได้ (bio-degradeable) ซึ่งใช้แทนโฟมบรรจุอาหาร ที่ผลิตโดย บริษัท แคซซาวากรีน จำกัด เนื่องจากภาชนะดังกล่าวย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ จึงไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในส่วนของผู้สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์มันฯนี้ คต.ได้แจ้งรายละเอียดผ่านทางสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการค้ามันฯให้ประสานงานสมาชิกสมาคมเพื่อติดต่อค้าขายกันโดยตรงต่อไปแล้ว
จากผลการเจรจาหารือและประชาสัมพันธ์ในงานดังกล่าว ทำให้คาดหมายว่าอนาคตการค้าผลิตภัณฑ์มันฯไทยในอียู โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันฯคุณภาพดีจะมีโอกาสขยายตัวมากขึ้น สำหรับตลาดนอกอียู โดยเฉพาะประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นตลาดใหญ่ ปัจจุบันผลิตอาหารสัตว์ประมาณ 60 ล้านตันต่อปีและคาดว่าภายใน 10 ปี ข้างหน้าปริมาณการผลิตจะเพิ่มขึ้นถึง 150 ล้านตันต่อปีหรือเพิ่มขึ้นปีละ 10 ล้านตัน ซึ่งการผลิตอาหารสัตว์ดังกล่าวจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบเป็นจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสที่ดีของไทยในการขยายการส่งออกมันฯไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนในระยะต่อไป
นายธรรมนูญฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์มันฯจะมีอนาคตที่ค่อนข้างสดใส แต่ปัญหาหนึ่งที่ผู้ประกอบการส่งออกควรระมัดระวังได้แก่ การรักษาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานส่งออก และตรงกับความต้องการของผู้ใช้ รวมทั้งให้ความสนใจในการปรับปรุงคุณภาพการอัดมันเม็ดให้แข็งขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาการแตกเป็นผง/ฝุ่นในระหว่างการขนถ่าย ซึ่งหากไม่เร่งแก้ไขแล้ว อาจเป็นปัญหาต่อการส่งออกในระยะอันใกล้นี้ และทำให้สูญเสียตลาดให้กับประเทศคู่แข่งที่มีศักยภาพในการส่งออกสินค้าธัญพืชทดแทนกันได้
--กรมการค้าต่างประเทศ เดือนธันวาคม 2544--
-อน-