กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (27 ตุลาคม 2543) นายอุ้ม เมาลานนท์ รักษาการโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา ว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2543 ยามลาดตระเวนฝั่งของอินเดียได้ทำการจับกุมเรือประมงไทย 3 ลำ พร้อมลูกเรือไทย 7 คน และลูกเรือพม่าอีกจำนวนหนึ่ง ที่บริเวณ Coffre Bay/Sitanagar,North Andaman Island โดยได้พบหลักฐานที่เชื่อได้ว่า เรือประมงไทยได้ลักลอบเข้ามาในน่านน้ำอินเดียโดยใช้สารเคมี และระเบิดในการจับปลา โดยในเรือไม่พบเบ็ด อวน และอุปกรณ์ในการทำการประมงที่ถูกต้องแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในระหว่างการจับกุม เรือประมงไทยพยายามหลบหนีทั้งๆ ที่ยามฝั่งได้ยิงขู่ให้หยุด ซึ่งในที่สุดเป็นเหตุให้ลูกเรือประมงไทย 2 คนถูกยิงเสียชีวิต เรือลำดังกล่าวจึงยอมหยุดข้อมูลที่เกี่ยวกับเรือประมงไทยทั้งสามลำมีดังนี้
1. เรือ 32 มีลูกเรือไทย 3 คน และลูกเรือพม่า 12 คน ประกอบด้วย ไต๋เพชร จันทร์เจ้า นายสุปัญญา ทองสูง นายสมชาย พูแสน เจ้าของเรือชื่อนายสุรพงษ์ ขำพงษ์
2. เรือ ส.สนั่น มีลูกเรือไทย 2 คน และลูกเรือพม่า 13 คน ประกอบด้วย ไต๋สนั่น สุขยิ่งเจริญ (เป็นเจ้าของเรือ) และนายแขก ส่วนผู้ที่เสียชีวิตระหว่างการจับกุม 2 คน คือ นายขาว และนายอ๊อด ซึ่งไต๋เรือแจ้งว่าไม่ทราบชื่อและนามสกุลของผู้ตาย
3. เรือ ส.น้องใหม่ มีลูกเรือไทย 2 คน และลูกเรือพม่า 7 คน ประกอบด้วย ไต๋ชัย และนายจั๊กไทยใหม่ เจ้าของเรือชื่อนายธีระ อุทัย
ในการเดินทางไปช่วยเหลือลูกเรือประมงในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้หารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ของอินเดียเกี่ยวกับการหาทางแก้ไขปัญหาเรือประมงไทยที่ลักลอบเข้ามาจับปลาในน่านน้ำอินเดีย เจ้าหน้าที่ของอินเดียได้แสดงความห่วงกังวลต่อปัญหาเรือประมงไทยที่ลักลอบเข้ามาจับปลาในน่านน้ำอินเดียซึ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และรัฐบาลกลางของอินเดียยังมีความห่วงกังวลโดยเกรงว่าเรือที่ลักลอบเข้ามาในน่านน้ำอินเดียส่วนหนึ่งอาจทำการลักลอบขนอาวุธให้แก่กลุ่มหรือขบวนการแบ่งแยกดินแดนต่างๆ ดังนั้น ในขณะนี้ จึงได้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนมากขึ้น
ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศจึงใคร่ขอประชาสัมพันธ์ตักเตือนมิให้เรือประมงไทยลักลอบเข้าไปจับปลาในน่านน้ำของอินเดีย เนื่องจากในขณะนี้ ทางการอินเดียได้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนตามบริเวณชายฝั่ง และหากพบว่ามีการลักลอบเข้าไปจับปลาโดยใช้สารเคมีหรือระเบิดในการจับปลา ซึ่งเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงแนวประการัง ลูกเรือที่ถูกจับได้จะได้รับการพิจารณาโทษอย่างรุนแรง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
วันนี้ (27 ตุลาคม 2543) นายอุ้ม เมาลานนท์ รักษาการโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา ว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2543 ยามลาดตระเวนฝั่งของอินเดียได้ทำการจับกุมเรือประมงไทย 3 ลำ พร้อมลูกเรือไทย 7 คน และลูกเรือพม่าอีกจำนวนหนึ่ง ที่บริเวณ Coffre Bay/Sitanagar,North Andaman Island โดยได้พบหลักฐานที่เชื่อได้ว่า เรือประมงไทยได้ลักลอบเข้ามาในน่านน้ำอินเดียโดยใช้สารเคมี และระเบิดในการจับปลา โดยในเรือไม่พบเบ็ด อวน และอุปกรณ์ในการทำการประมงที่ถูกต้องแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในระหว่างการจับกุม เรือประมงไทยพยายามหลบหนีทั้งๆ ที่ยามฝั่งได้ยิงขู่ให้หยุด ซึ่งในที่สุดเป็นเหตุให้ลูกเรือประมงไทย 2 คนถูกยิงเสียชีวิต เรือลำดังกล่าวจึงยอมหยุดข้อมูลที่เกี่ยวกับเรือประมงไทยทั้งสามลำมีดังนี้
1. เรือ 32 มีลูกเรือไทย 3 คน และลูกเรือพม่า 12 คน ประกอบด้วย ไต๋เพชร จันทร์เจ้า นายสุปัญญา ทองสูง นายสมชาย พูแสน เจ้าของเรือชื่อนายสุรพงษ์ ขำพงษ์
2. เรือ ส.สนั่น มีลูกเรือไทย 2 คน และลูกเรือพม่า 13 คน ประกอบด้วย ไต๋สนั่น สุขยิ่งเจริญ (เป็นเจ้าของเรือ) และนายแขก ส่วนผู้ที่เสียชีวิตระหว่างการจับกุม 2 คน คือ นายขาว และนายอ๊อด ซึ่งไต๋เรือแจ้งว่าไม่ทราบชื่อและนามสกุลของผู้ตาย
3. เรือ ส.น้องใหม่ มีลูกเรือไทย 2 คน และลูกเรือพม่า 7 คน ประกอบด้วย ไต๋ชัย และนายจั๊กไทยใหม่ เจ้าของเรือชื่อนายธีระ อุทัย
ในการเดินทางไปช่วยเหลือลูกเรือประมงในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้หารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ของอินเดียเกี่ยวกับการหาทางแก้ไขปัญหาเรือประมงไทยที่ลักลอบเข้ามาจับปลาในน่านน้ำอินเดีย เจ้าหน้าที่ของอินเดียได้แสดงความห่วงกังวลต่อปัญหาเรือประมงไทยที่ลักลอบเข้ามาจับปลาในน่านน้ำอินเดียซึ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และรัฐบาลกลางของอินเดียยังมีความห่วงกังวลโดยเกรงว่าเรือที่ลักลอบเข้ามาในน่านน้ำอินเดียส่วนหนึ่งอาจทำการลักลอบขนอาวุธให้แก่กลุ่มหรือขบวนการแบ่งแยกดินแดนต่างๆ ดังนั้น ในขณะนี้ จึงได้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนมากขึ้น
ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศจึงใคร่ขอประชาสัมพันธ์ตักเตือนมิให้เรือประมงไทยลักลอบเข้าไปจับปลาในน่านน้ำของอินเดีย เนื่องจากในขณะนี้ ทางการอินเดียได้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนตามบริเวณชายฝั่ง และหากพบว่ามีการลักลอบเข้าไปจับปลาโดยใช้สารเคมีหรือระเบิดในการจับปลา ซึ่งเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงแนวประการัง ลูกเรือที่ถูกจับได้จะได้รับการพิจารณาโทษอย่างรุนแรง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-