1.สถานการณ์การผลิต
แนวทางการเลี้ยงกุ้งในฤดูฝน
หน้าฝนนี้เป็นจังหวะที่ดีของเกษตรกรรายย่อยที่มีบ่อพักน้ำน้อยจะได้อาศัยน้ำฝนช่วยเติมบ่อ โดยเฉพาะภาคตะวันออกในจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด น้ำฝนจะทำให้ความเค็มไม่สูงมากเลี้ยงกุ้งได้ง่าย และโรคเรืองแสงก็ลดลงด้วย
ส่วนในเรื่องความเค็มสูงริมทะเล ตามแม่น้ำลำคลอง โดยเฉพาะบริเวณที่ดินเป็นกรด ซึ่งเมื่อถึงเวลาฝนตกน้ำฝนจะชะดินที่เป็นกรดลงไปในบ่อ ดังนั้นต้องให้ความระมัด ระวัง โดยนำปูนขาวมาโรยปิดบริเวณคันบ่อหรือชานบ่อ เมื่อฝนตกน้ำฝนจะได้ชะปูนลงไปผสมกับน้ำในบ่อ ปูนขาวซึ่งมีพีเอชประมาณ 12 จะทำให้พีเอชน้ำที่ต่ำ สูงขึ้น
สำหรับการเลี้ยงกุ้งด้วยระบบความเค็มต่ำ ต้องระวังเพราะฝนตกทุกวันจะทำให้ความเค็มหมดไป ส่งผลให้กุ้งอ่อนแอไม่แข็งแรง กินกันเอง เวลาลอกคราบเปลือกไม่แข็ง วิธีป้องกันแก้ไขคือ หมั่นวัดความเค็ม ถ้าความเค็มต่ำมากจะต้องเติมน้ำทะเลหรือเกลือ หรือใช้เกลือแร่ต่าง ๆ หรือหัวน้ำปลา ผสมอาหารให้กุ้งกิน เพื่อให้เกลือแร่ไปช่วยเสริมให้กุ้ง แข็งแรง
ในหน้าฝน พื้นที่ที่เลี้ยงด้วยระบบความเค็มต่ำ ต้องเพิ่มความเค็มและหมั่นเช็คค่าอัลคาไลน์ อย่าให้ค่าพีเอชต่ำ โดยหมั่นเติมปูนสม่ำเสมอ มิฉะนั้นอัตรารอดจะต่ำมาก โดยกุ้งจะเข้าหมกตัวในแนวเลนและป่วย ดังนั้นใครที่เริ่มต้นเลี้ยงด้วยความเค็มต่ำ ในช่วงที่มีฝนตกทุกวัน ผลผลิตอาจไม่ดีได้
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (1-8 กค. 2544) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูล จำหน่าย ที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,276.28 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 582.39 ตัน สัตว์น้ำจืด 693.88 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 7.23 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 9.34 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 82.14 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 45.27 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 42.59 ตัน
2. สถานการณ์การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.54 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 25.31 บาท ของสัปดาห์ก่อน 1.23 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ ไม่มีรายงานราคาจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 49.53 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 50.59 บาท ของสัปดาห์ก่อน 1.06 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.3 กุ้งกุลาดำ กุ้งกุลาดำสดขนาดกลางราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 278.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 270.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 8.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ391.43 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 393.00 บาทของสัปดาห์ก่อน 1.57 บาท
2.4 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ17.89 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 17.09 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.80 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 50.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.5 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดชาวประมงขายได้ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 60.00บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 57.50 บาท ของสัปดาห์ก่อน 2.50 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ75.71 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 79.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 3.29 บาท
2.6 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.38 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 3.37 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.01 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีน 58% ขึ้นไป (ระหว่างวันที่ 9-13 ก.ค.44 ) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 24.10 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 24.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.10 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 26 ประจำวันที่ 9-15 ก.ค. 2544--
-สส-
แนวทางการเลี้ยงกุ้งในฤดูฝน
หน้าฝนนี้เป็นจังหวะที่ดีของเกษตรกรรายย่อยที่มีบ่อพักน้ำน้อยจะได้อาศัยน้ำฝนช่วยเติมบ่อ โดยเฉพาะภาคตะวันออกในจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด น้ำฝนจะทำให้ความเค็มไม่สูงมากเลี้ยงกุ้งได้ง่าย และโรคเรืองแสงก็ลดลงด้วย
ส่วนในเรื่องความเค็มสูงริมทะเล ตามแม่น้ำลำคลอง โดยเฉพาะบริเวณที่ดินเป็นกรด ซึ่งเมื่อถึงเวลาฝนตกน้ำฝนจะชะดินที่เป็นกรดลงไปในบ่อ ดังนั้นต้องให้ความระมัด ระวัง โดยนำปูนขาวมาโรยปิดบริเวณคันบ่อหรือชานบ่อ เมื่อฝนตกน้ำฝนจะได้ชะปูนลงไปผสมกับน้ำในบ่อ ปูนขาวซึ่งมีพีเอชประมาณ 12 จะทำให้พีเอชน้ำที่ต่ำ สูงขึ้น
สำหรับการเลี้ยงกุ้งด้วยระบบความเค็มต่ำ ต้องระวังเพราะฝนตกทุกวันจะทำให้ความเค็มหมดไป ส่งผลให้กุ้งอ่อนแอไม่แข็งแรง กินกันเอง เวลาลอกคราบเปลือกไม่แข็ง วิธีป้องกันแก้ไขคือ หมั่นวัดความเค็ม ถ้าความเค็มต่ำมากจะต้องเติมน้ำทะเลหรือเกลือ หรือใช้เกลือแร่ต่าง ๆ หรือหัวน้ำปลา ผสมอาหารให้กุ้งกิน เพื่อให้เกลือแร่ไปช่วยเสริมให้กุ้ง แข็งแรง
ในหน้าฝน พื้นที่ที่เลี้ยงด้วยระบบความเค็มต่ำ ต้องเพิ่มความเค็มและหมั่นเช็คค่าอัลคาไลน์ อย่าให้ค่าพีเอชต่ำ โดยหมั่นเติมปูนสม่ำเสมอ มิฉะนั้นอัตรารอดจะต่ำมาก โดยกุ้งจะเข้าหมกตัวในแนวเลนและป่วย ดังนั้นใครที่เริ่มต้นเลี้ยงด้วยความเค็มต่ำ ในช่วงที่มีฝนตกทุกวัน ผลผลิตอาจไม่ดีได้
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (1-8 กค. 2544) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูล จำหน่าย ที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,276.28 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 582.39 ตัน สัตว์น้ำจืด 693.88 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 7.23 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 9.34 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 82.14 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 45.27 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 42.59 ตัน
2. สถานการณ์การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.54 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 25.31 บาท ของสัปดาห์ก่อน 1.23 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ ไม่มีรายงานราคาจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 49.53 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 50.59 บาท ของสัปดาห์ก่อน 1.06 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.3 กุ้งกุลาดำ กุ้งกุลาดำสดขนาดกลางราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 278.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 270.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 8.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ391.43 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 393.00 บาทของสัปดาห์ก่อน 1.57 บาท
2.4 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ17.89 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 17.09 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.80 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 50.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
2.5 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดชาวประมงขายได้ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 60.00บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 57.50 บาท ของสัปดาห์ก่อน 2.50 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ75.71 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 79.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 3.29 บาท
2.6 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.38 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 3.37 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.01 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีน 58% ขึ้นไป (ระหว่างวันที่ 9-13 ก.ค.44 ) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 24.10 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 24.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.10 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 26 ประจำวันที่ 9-15 ก.ค. 2544--
-สส-