วันนี้(6ก.ย.) ที่โรงแรม ดิอิมเมอรัล รัชดาภิเษก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิ
ปัตย์ กล่าวถึงการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าของรัฐบาลว่าขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจะทำอย่างไร แต่ตนเห็นว่าควรมีการปรึกษาหารือกันระหว่าง 2 โครงการ กล่าวคือระหว่างโครงการบีทีอาร์กับโครงการบีอาร์ที รวมไปถึงขสมก.ด้วยเพราะว่าโครงการบีอาร์ทีต้องส่งผลต่อการปรับการเดินรถของขสมก.จึงจะได้ประโยชน์สูงสุดในแง่ของการบริการประชาชน เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำคือการนำเอาโครงข่ายทั้งหมดมาช่วยกันดูเพื่อหาข้อยุติ และอีกประการหนึ่งคือรถไฟฟ้า 2 สายที่เป็นปัญหาทำให้รัฐบาลต้องมีคำตอบที่ชัดเจนในเชิงหลักคิด ที่ว่าจะมีการประเมิณประโยชน์ของรถไฟฟ้าอย่างไร เพราะว่าโดยหลักของขนส่งมวลชนหลายสายจะไม่มีกำไร เพราะฉะนั้นถ้าดูผลตอบแทนในแง่ของการเงินคงไม่พอ ซึ่งต้องดูผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสังคมประกอบด้วย
‘กรณีรถไฟฟ้า 2 สายที่กำลังเป็นปัญหาขณะนี้ มีคำถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะว่ารัฐบาลไปตั้งหลักในแง่ของวิธีการจัดหาเงินทุนหรือไม่ เพราะตนเข้าใจว่าปัญหาอุปสรรคข้อหนึ่งก็คือ เมื่อรัฐบาลตั้งหลักว่าจะใช้วิธีการในการที่จะไประดมทุนโดยการจัดกู้เงินในรูปแบบใดก็ตามจากภาคเอกชน ผู้ที่จะให้กู้ยืมเงินหรือจะมาลงทุนก็จะเรียกร้องผลตอบแทนต่อเงินทุนที่ลง เมื่อเรียกร้องผลตอบแทน ก็ต้องมาตั้งคำถามว่าจะได้ผลตอบแทนนั้น จะต้องมีผู้โดยสารเท่าไหร่ ราคาเท่าไหร่ แล้วเสร็จแล้วรัฐบาลก็อาจจะมีปัญหาว่าทำไม่ได้’ นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ กล่าวต่อว่าตนจึงอยากเสนอว่าให้มีการประเมิณผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจสังคมเป็นตัวตั้งก่อน ถ้าคุ้มค่าทางเศรษฐกิจสังคม รัฐบาลก็ต้องแสดงตัวว่าจะให้การอุดหนุนสนับสนุนเท่าไหร่ แล้วก็จัดรูบแบบของการระดมทุนที่เหมาะสมแทนที่จะเอาเรื่องของผู้ลงทุนเป็นตัวตั้ง แล้วมากำหนดในการตัดสินใจ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6 ก.ย.2548--จบ--
ปัตย์ กล่าวถึงการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าของรัฐบาลว่าขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจะทำอย่างไร แต่ตนเห็นว่าควรมีการปรึกษาหารือกันระหว่าง 2 โครงการ กล่าวคือระหว่างโครงการบีทีอาร์กับโครงการบีอาร์ที รวมไปถึงขสมก.ด้วยเพราะว่าโครงการบีอาร์ทีต้องส่งผลต่อการปรับการเดินรถของขสมก.จึงจะได้ประโยชน์สูงสุดในแง่ของการบริการประชาชน เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำคือการนำเอาโครงข่ายทั้งหมดมาช่วยกันดูเพื่อหาข้อยุติ และอีกประการหนึ่งคือรถไฟฟ้า 2 สายที่เป็นปัญหาทำให้รัฐบาลต้องมีคำตอบที่ชัดเจนในเชิงหลักคิด ที่ว่าจะมีการประเมิณประโยชน์ของรถไฟฟ้าอย่างไร เพราะว่าโดยหลักของขนส่งมวลชนหลายสายจะไม่มีกำไร เพราะฉะนั้นถ้าดูผลตอบแทนในแง่ของการเงินคงไม่พอ ซึ่งต้องดูผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสังคมประกอบด้วย
‘กรณีรถไฟฟ้า 2 สายที่กำลังเป็นปัญหาขณะนี้ มีคำถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะว่ารัฐบาลไปตั้งหลักในแง่ของวิธีการจัดหาเงินทุนหรือไม่ เพราะตนเข้าใจว่าปัญหาอุปสรรคข้อหนึ่งก็คือ เมื่อรัฐบาลตั้งหลักว่าจะใช้วิธีการในการที่จะไประดมทุนโดยการจัดกู้เงินในรูปแบบใดก็ตามจากภาคเอกชน ผู้ที่จะให้กู้ยืมเงินหรือจะมาลงทุนก็จะเรียกร้องผลตอบแทนต่อเงินทุนที่ลง เมื่อเรียกร้องผลตอบแทน ก็ต้องมาตั้งคำถามว่าจะได้ผลตอบแทนนั้น จะต้องมีผู้โดยสารเท่าไหร่ ราคาเท่าไหร่ แล้วเสร็จแล้วรัฐบาลก็อาจจะมีปัญหาว่าทำไม่ได้’ นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ กล่าวต่อว่าตนจึงอยากเสนอว่าให้มีการประเมิณผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจสังคมเป็นตัวตั้งก่อน ถ้าคุ้มค่าทางเศรษฐกิจสังคม รัฐบาลก็ต้องแสดงตัวว่าจะให้การอุดหนุนสนับสนุนเท่าไหร่ แล้วก็จัดรูบแบบของการระดมทุนที่เหมาะสมแทนที่จะเอาเรื่องของผู้ลงทุนเป็นตัวตั้ง แล้วมากำหนดในการตัดสินใจ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6 ก.ย.2548--จบ--