สรุปข่าวประจำวัน
17 มกราคม 2544
ข่าวในประเทศ
1. ธปท.ยืนยันไม่อนุญาต ธ.ศรีนครปล่อยสินเชื่อรายใหม่ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท.เปิดเผยว่า ธปท.ยังคงไม่อนุญาตให้ ธ.ศรีนครปล่อยสินเชื่อรายใหม่ตามที่เสนอ เนื่องจากธนาคารมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำกว่าร้อยละ 8.5 ตามมาตรฐานที่ ธ.เพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (บีไอเอส) กำหนด แต่สามารถปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกหนี้เดิมที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว สำหรับกรณีที่รัฐบาลชุดใหม่มีนโยบายต้องการให้ ธปท. ผ่อนคลายเกณฑ์การกันสำรองหนี้, เกณฑ์การจัดชั้นหนี้ และลดการดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามมาตรฐานบีไอเอสของ ธพ.ให้ต่ำกว่าร้อยละ 8.5 นั้น หากเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้วยังอยู่ในอัตราต่ำมาก ส่วนการกันสำรองและการจัดชั้นหนี้ ก็เพื่อความมั่นคงของ ธพ. เพราะเมื่อหนี้จัดชั้นกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ถ้าไม่กันสำรองไว้จะทำให้ฐานะธนาคารเสียหายได้ (แนวหน้า 17)
2. ก.คลังเปิดเผยยอดการเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 44 ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบประมาณปี 44 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึง 15 ธ.ค.43 มีจำนวน 148,653.6 ล.บาท คิดเป็นร้อยละ 16.34 ของวงเงินงบประมาณ เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน มีอัตราการเบิกจ่ายต่ำกว่าร้อยละ 0.32 โดยในเดือน ต.ค.43 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 44 มีการเบิกจ่ายร้อยละ 6.38 เทียบกับปีก่อนที่ร้อยละ 5.42 ส่วนเดือน พ.ย.43 การเบิกจ่ายมีอัตราร้อยละ 14.29 เทียบกับร้อยละ 14.23 ในปีก่อน และถึงวันที่ 15 ธ.ค.43 ยอดการเบิกจ่ายเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 16.34 เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่มียอดเบิกจ่ายทั้งสิ้นร้อยละ 16.66 ทั้งนี้ สำนักงบประมาณอยู่ระหว่างการจัดทำงบประมาณประจำปี 2545 โดยยังคงเป็นงบประมาณขาดดุล ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 44 คือประมาณร้อยละ 10 ของวงเงินงบประมาณรายจ่าย หรือร้อยละ 2 ของจีดีพี เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ (วัฏจักร 17)
3. สถิติการหักบัญชีเช็คระหว่างธนาคารในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเดือน ธ.ค.และไตรมาส 4 ปี 43 รายงานข่าวจาก ธปท.แจ้งว่า สถิติการหักบัญชีเช็คระหว่างธนาคารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเดือน ธ.ค.43 มีปริมาณเช็คเรียกเก็บ 4.32 ล.ฉบับ ลดลงจากเดือน พ.ย.43 ร้อยละ 6.02 คิดเป็นมูลค่าเช็คเรียกเก็บ 1,186.47 พัน ล.บาท ลดลงจากเดือน พ.ย.43 ร้อยละ 3.21 ส่วนปริมาณและมูลค่าเช็คเรียกเก็บเฉลี่ยต่อวันทำการเพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย.43 ร้อยละ 8.82 และ 12.08 ตามลำดับ เมื่อพิจารณาภาพรวมในไตรมาส 4 ปี 43 มีปริมาณเช็คเรียกเก็บ 13.72 ล.ฉบับ มูลค่ารวม 3,726.77 พัน ล.บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 43 ร้อยละ 3.41 และ 2.17 ตามลำดับ สำหรับปริมาณเช็คคืนเดือน ธ.ค.43 มีจำนวน 116,117 ฉบับ คิดเป็นมูลค่า 11.27 พัน ล.บาท เป็นสัดส่วนต่อปริมาณและมูลค่าเช็คเรียกเก็บทั้งสิ้นร้อยละ 2.69 และ 0.95 ตามลำดับ โดยไตรมาส 4 ปี 43 มีปริมาณเช็คคืนทั้งสิ้น 347,906 ฉบับ มูลค่ารวม 34.44 พัน ล.บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.54 และ 0.92 ของปริมาณและมูลค่าเช็คเรียกเก็บ โดยมีปริมาณและมูลค่าเช็คคืนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ของปีเดียวกัน (ไทยโพสต์ 17)
4. ความเห็นเรื่องการจัดตั้งเอเอ็มซีแห่งชาติ ประธานทีดีอาร์ไอกล่าวถึงนโยบายการจัดตั้งเอเอ็มซีแห่งชาติว่า ยากที่จะทำได้ เพราะหนี้เสียส่วนใหญ่เป็นของ ธพ.รัฐ สิ่งที่รัฐบาลต้องพิจารณาคือ ปัจจุบัน ธพ.รัฐมีหนี้จำนวนเท่าไร รวมทั้งศึกษาการบริหารงานและอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น ก่อนตัดสินใจวางแนวทางเอเอ็มซีแห่งชาติ (แนวหน้า 17)
ข่าวต่างประเทศ
1. เดือน พ.ย. 43 คำสั่งซื้อเครื่องจักรของภาคเอกชนในญี่ปุ่นลดลง รายงานจากโตเกียวเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 44 รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เดือน พ.ย. 43 คำสั่งซื้อเครื่องจักรที่เป็นแกนของภาคเอกชน ที่ปรับฤดูกาล ซึ่งใช้เป็นมาตรวัดการใช้จ่ายลงทุนของบริษัทในช่วง 6-9 เดือน ลดลงร้อยละ 2.9 เทียบกับเดือน ต.ค. 43 พลิกความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดไว้ว่า จะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1 Seiji Shiraishi นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Daiwa Institute of Research กล่าวว่า การที่คำสั่งซื้อฯในเดือนดังกล่าวต่ำกว่าการคาดหมาย เป็นสัญญาณเตือนถึงอันตรายต่อภาวะเศรษฐกิจ และชี้ถึงการใช้จ่ายลงทุนที่ชะลอตัวลง ซึ่งเป็นกลไกที่เกื้อหนุนต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงเมื่อเร็วๆนี้ นอกจากนั้น ยังส่งผลกระทบต่อประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจของรัฐบาลที่กำหนดไว้ว่า ในไตรมาสที่ 4 ปี 43 เศรษฐกิจของญี่ปุนจะเติบโตร้อยละ 7.6 เมื่อเทียบต่อไตรมาส (รอยเตอร์ 16)
2. ไตรมาสที่ 3 ปี 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศของเขตยูโรขยายตัวชะลอลง แต่ยังขยายตัวมากกว่า สรอ. รายงานจากบรัสเซลส์ เมื่อวันที่ 16 ม.ค.44 สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (Eurostat) รายงานว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 43 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (GDP) ของกลุ่มประเทศในเขตยูโร 11 ประเทศ เทียบต่อไตรมาสขยายตัวร้อยละ 0.7 ขยายตัวในอัตราเดียวกับที่ประมาณการไว้ แต่ขยายตัวชะลอลงเมื่อเทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 0.9 ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 หรือหากคิดในอัตราเทียบต่อปี GDP ขยายตัวร้อยละ 3.4 ชะลอลงจากที่ขยายตัวร้อยละ 3.8 ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 เช่นกัน ทั้งนี้ อัตราการขยายตัวของ GDP ในอัตราเทียบต่อปีที่ร้อยละ 3.4 นับว่าเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงกว่าการขยายตัวของ GDP ของ สรอ. ในไตรมาสเดียวกันที่อยู่ที่ร้อยละ 2.2 โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ GDP ของเขตยูโรขยายตัวในไตรมาสที่ 3 ปี 43 คือ การลงทุนและการส่งออก ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคอ่อนตัวลง อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์มองว่า ในไตรมาสที่ 4 ปี 43 เศรษฐกิจของเขตยูโรจะขยายตัวชะลอลงต่อเนื่อง โดยคาดว่า GDP ในไตรมาสดังกล่าวจะขยายตัวประมาณร้อยละ 0.4-0.5 (รอยเตอร์ 16)
3. เงินเฟ้อในระดับราคาขายส่งของเยอรมนีชะลอตัวลงในเดือน ธ.ค. 43 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ตเมื่อ 16 ม.ค. 44 สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีรายงานว่า เดือน ธ.ค. 43 เงินเฟ้อในระดับราคาขายส่งของเยอรมนีชะลอตัวลงเหลือร้อยละ 5.1 เมื่อเทียบต่อปี จากร้อยละ 6.4 ในเดือน พ.ย. 43 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน พ.ค. 43 และเมื่อเทียบต่อเดือน เงินเฟ้อฯ ลดลงร้อยละ 0.3 หลังจากลดลงร้อยละ 0.2 ในเดือน พ.ย. 43 ขณะเดียวกัน หากไม่รวมราคาน้ำมัน เงินเฟ้อฯ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ในเดือน ธ.ค. 43 ก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์จากรอยเตอร์เคยคาดไว้ว่า ในเดือน ธ.ค. 43 เงินเฟ้อฯ จะลดลงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบต่อเดือน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 เมื่อเทียบต่อปี ทั้งนี้ ราคาขายส่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ชี้ถึงแนวโน้มเงินเฟ้อในระดับราคาผู้บริโภค โดยในเดือน ธ.ค. 43 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.2 และคาดว่า ราคาขายส่งในอนาคตจะลดลงเนื่องจากผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 43 ได้ชะลอตัวลง (รอยเตอร์ 16)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 16 ม.ค.44 43.328 (43.502)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 16 ม.ค. 44
ซื้อ 43.1786 (43.3157) ขาย 43.4828 (43.6187)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,350 (5,400) ขาย 5,450 (5,500)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 22.43 (22.36)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.19 (15.89) ดีเซลหมุนเร็ว 13.64 (13.64)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
-สส-