คณะรัฐสภาแห่งสหภาพยุโรปได้อนุมัติกฎข้อบังคับเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่ผ่านการตัดต่อทางพันธุกรรม เมื่อดือนกุมภาพันธ์ 2544 ซึ่งจะส่งผลให้สหภาพยุโรปมีกฎข้อบังคับเกี่ยวกับอาหารที่ได้จากเทคนิคทางพันธุวิศวกรรมที่เข้มแข็งที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทุกประเทศต้องมีระบบสืบแหล่งที่มาของสินค้าที่มั่นใจได้และต้องมีการตรวจติดตามสินค้า ( GMO) ในทุกขั้นตอนของการจำหน่ายในท้องตลาด
2. กำหนดให้การพิจารณาอนุมัติผลิตภัณฑ์ใหม่ๆใช้ระยะเวลานานที่สุด 10 ปี ข้อกำหนดดังกล่าวรวมขั้นตอนการยื่นคำร้องและการพิจารณาอนุมัติ ก่อนที่คำสั่งคณะกรรมาธิการจะมีผลบังคับใช้
3. การประเมินความเสี่ยงของการสะสมและผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของคนและต่อสิ่งแวดล้อมได้ขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปรวมถึงเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพและผลกระทบทางเศรษฐศาสตร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเกษตร
4. กำหนดให้บนฉลากสินค้า GMOs ใช้คำว่า “This product contains GMOs ” แทนคำว่า “May contain GMOs ”
5. กำหนดให้ต้องลงทะเบียนอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับตำแหน่งที่ใช้ทดลองเพาะปลูก GMOs การปลดปล่อย GMOs ในช่วงระยะเวลาของการทดลอง จะต้องลงทะเบียนและจัดทำรายละเอียดที่เป้นประโยชน์อย่างเปิดเผย
6. ในส่วนของ antibiotic-resistance markers จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2547 ในกรณีของผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้จากการตัดต่อทางพันธุกรรม สำหรับสินค้า GMOs อื่นๆ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2551
คณะรัฐสภาแห่งสหภาพยุโรปได้อ้างว่ากฎหมายหมายการอนุญาตผลิตภัณฑ์ GMOs ของสหภาพยุโรป จะเป็นกฎหมายที่เข้มงวด ผู้บริโภคสามารถมั่นใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์ GMO ที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในสหภาพยุโรปจะมีมาตรฐานตรงตามที่ทางการกำหนด และคาดว่าสามารถอนุญาตให้พืช GM ชนิดแรกเพาะปลูกได้ในปี 2546
(ที่มา : Food Chemical News Feb, 19 2001)
--ศูนย์ข้อมูลกฎระเบียบการค้าต่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ เมษายน 2544--
-อน-
1. กำหนดให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทุกประเทศต้องมีระบบสืบแหล่งที่มาของสินค้าที่มั่นใจได้และต้องมีการตรวจติดตามสินค้า ( GMO) ในทุกขั้นตอนของการจำหน่ายในท้องตลาด
2. กำหนดให้การพิจารณาอนุมัติผลิตภัณฑ์ใหม่ๆใช้ระยะเวลานานที่สุด 10 ปี ข้อกำหนดดังกล่าวรวมขั้นตอนการยื่นคำร้องและการพิจารณาอนุมัติ ก่อนที่คำสั่งคณะกรรมาธิการจะมีผลบังคับใช้
3. การประเมินความเสี่ยงของการสะสมและผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพของคนและต่อสิ่งแวดล้อมได้ขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปรวมถึงเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพและผลกระทบทางเศรษฐศาสตร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเกษตร
4. กำหนดให้บนฉลากสินค้า GMOs ใช้คำว่า “This product contains GMOs ” แทนคำว่า “May contain GMOs ”
5. กำหนดให้ต้องลงทะเบียนอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับตำแหน่งที่ใช้ทดลองเพาะปลูก GMOs การปลดปล่อย GMOs ในช่วงระยะเวลาของการทดลอง จะต้องลงทะเบียนและจัดทำรายละเอียดที่เป้นประโยชน์อย่างเปิดเผย
6. ในส่วนของ antibiotic-resistance markers จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2547 ในกรณีของผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้จากการตัดต่อทางพันธุกรรม สำหรับสินค้า GMOs อื่นๆ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2551
คณะรัฐสภาแห่งสหภาพยุโรปได้อ้างว่ากฎหมายหมายการอนุญาตผลิตภัณฑ์ GMOs ของสหภาพยุโรป จะเป็นกฎหมายที่เข้มงวด ผู้บริโภคสามารถมั่นใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์ GMO ที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในสหภาพยุโรปจะมีมาตรฐานตรงตามที่ทางการกำหนด และคาดว่าสามารถอนุญาตให้พืช GM ชนิดแรกเพาะปลูกได้ในปี 2546
(ที่มา : Food Chemical News Feb, 19 2001)
--ศูนย์ข้อมูลกฎระเบียบการค้าต่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ เมษายน 2544--
-อน-