ข่าวในประเทศ
1. ธปท. ยังไม่ได้รับผลสรุปกรณีปกป้องค่าเงินบาทจากคณะกรรมการสอบสวนอย่างเป็นทางการผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีการนำเสนอข่าวผลสรุปการสอบสวนกรณีปกป้องค่าเงินบาทที่ระบุว่าอดีตผู้ว่าการ ธปท. (นายเริงชัย มะระกานนท์) มีความผิดแต่เพียงผู้เดียวว่า ยังไม่สามารถให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจาก ธปท. ยังไม่ได้รับหนังสือชี้แจงในอย่างเป็นทางการจาก ก.คลัง โดยมีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน ซึ่งหากได้รับการชี้แจงอย่างเป็นทางการแล้วจะนำรายละเอียดทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมการของ ธปท. ที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาและดำเนินการต่อไปทันที (โลกวันนี้ 27)
2. ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเตรียมประเมินภาวะเศรษฐกิจ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (27 พ.ย. 44) ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเตรียมประเมินภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย เพื่อพิจารณาว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจนต้องมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ โดยปัจจัยที่จะถูกนำมาพิจารณาในครั้งนี้ก็คือการลดอัตราดอกเบี้ยของ ธ.กลาง สรอ. เป็นครั้งที่ 10 และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลก (ข่าวสด, แนวหน้า 27)
3. สถาบันการเงินสนใจประมูลตั๋วเงินคลังอย่างมากในวันที่ 26 พ.ย.44 รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งผลการประมูลตั๋วเงินคลังเมื่อวันที่ 26 พ.ย.44 จำนวน 2 รุ่นวงเงิน 10,000 ล.บาท แบ่งเป็นตั๋วเงินอายุ 91 วันวงเงิน 5,000 ล.บาท และตั๋วเงินอายุ 182 วันวงเงิน 5,000 ล.บาท โดยอัตราดอกเบี้ยปรับลดลงเล็กน้อย สำหรับอัตราผลตอบแทนตั๋วเงินรุ่นอายุ 91 วัน มีอัตราเฉลี่ยที่ร้อยละ 2.43563 ลดลงจากการประมูลงวดก่อน โดยสถาบันการเงินให้ความสนใจลงทุนสูงกว่าวงเงินที่ประมูล 3.59 เท่า ส่วนตั๋วเงินรุ่นอายุ 182 วัน อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 2.54853 ลดลงจากการประมูลงวดก่อนเช่นกัน โดยสถาบันการเงินให้ความสนใจลงทุนสูงกว่าวงเงินที่ประมูล 3.04 เท่า(กรุงเทพธุรกิจ 27)
4. แนวโน้มอุตสาหกรรมปี 45 ทรงตัวเท่ากับปี 44 ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมในปี 45 คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวเท่ากับปี 44 ประมาณร้อยละ 1.5-2 การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3-5 เทียบกับที่ขยายตัวติดลบร้อยละ 6-8 ในปี 44 สำหรับภาวะการลงทุนยังคงทรงตัว อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ในระดับร้อยละ 55-58 ของกำลังการผลิต ทั้งนี้เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลกซึ่งคาดว่ายังคงซบเซา สำหรับแนวโน้มการจ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รวมถึงการลงทุนจากต่างประเทศได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเสถียรภาพทางการเมืองและมีความหลากหลายในการผลิตอุตสาหกรรม(เดลินิวส์ 27)
ข่าวต่างประเทศ
1. บริษัทจัดอันดับฟิตซ์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวของ ธพ.ญี่ปุ่น รายงานจากลอนดอนเมื่อ 26 พ.ย.44 ฟิตซ์ (Fitch) ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับระหว่างประเทศเปิดเผยว่า ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวทั้งที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินท้องถิ่นของ ธพ.ญี่ปุ่นลง จากเดิมที่ระดับ AA+ มาอยู่ที่ระดับ AA โดย ธพ.ญี่ปุ่นยังคงมีปัญหาการจัดการกับหนี้เสียเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการผลการดำเนินการของบริษัทธุรกิจต่างๆ ยังไม่แจ่มใส สำหรับอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวของ ธพ.ญี่ปุ่นยังคงมีแนวโน้มเป็นลบ (รอยเตอร์ 26)
2. ยอดขายของห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นในเดือน ต.ค. 44 ลดลงร้อยละ 1.7 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 26 พ.ย. 44 สมาคมห้างสรรพสินค้าของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดขายของห้างสรรพสินค้า ซึ่งใช้เป็นเครื่องชี้วัดการใช้จ่ายของผู้บริโภค มีมูลค่า 702.1 พัน ล. เยน ลดลงร้อยละ 1.7 เทียบต่อปี นับเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากความต้องการสินค้าที่มีต้นทุนสูงลดลงและจำนวนวันการใช้จ่ายซื้อสินค้าในวันสุดสัปดาห์น้อยลงเมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 43 โดยยอดขายสินค้าเบ็ดเตล็ดมีมูลค่า 313.38 พัน ล. เยน ลดลงร้อยละ 3.2 เทียบต่อปี ขณะที่ยอดขายอาหารมีมูลค่า 134.46 พัน ล. เยน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เทียบต่อปี…(รอยเตอร์26)
3. ผลผลิตภาคอุตหกรรมของสิงคโปร์เดือน ต.ค.44 ลดลงร้อยละ 21.4 รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ 26 พ.ย.44 the Economic Development Board (EDB) เปิดเผยว่า เดือน ต.ค.44 ผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิตของสิงคโปร์โดยรวม (ไม่รวมอุตสาหกรรมด้านยางพารา) ลดลงร้อยละ 21.4 เทียบปีต่อปี หลังจากเดือน ก.ย.44 ลดลงร้อยละ 22.1 และมีอัตราเฉลี่ยเคลื่อนไหว 3 เดือนลดลงร้อยละ 21.6 สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตที่ลดลง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ลดลงร้อยละ 53.6 ผลิตภัณฑ์สารสนเทศและโทรคมนาคมลดลงร้อยละ 48.1 อิเล็กทรอนิกส์ลดลงร้อยละ 36.0 เคมีลดลงร้อยละ 9.9 เป็นต้น ส่วนอุตสาหกรรมการผลิตที่เพิ่มขึ้น.เช่น ผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.4 อุตสาหกรรมยาเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.0 และปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.0 เป็นต้น(รอยเตอร์ 26)
4. จีดีพีของเกาหลีใต้ในช่วงครึ่งแรกปี 45 จะเติบโตประมาณร้อยละ 3 รายงานจากโซลเมื่อ 27 พ.ย. 44 ก. คลังเกาหลีใต้ ประมาณการว่า ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) จะเติบโตประมาณร้อยละ 3 และร้อยละ 5 ในช่วงครึ่งแรกและครึ่งหลังปี 45 ตามลำดับ และทั้งปี44 จีดีพี จะเติบโตร้อยละ 2.5 หลังจากที่เติบโตร้อยละ 8.8 ในปี 43 ทั้งนี้ รัฐบาลพยายามที่จะให้จีดีพี ของประเทศขยายตัวมากกว่าร้อยละ 4 ในปี 45 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยการดำเนินนโยบายการเงินและการคลังที่ยืดหยุ่นและเพิ่มอุปสงค์ในประเทศ ก่อนหน้านี้ ธ. กลางได้ประกาศตัวเลขการเติบโตของจีดีพีในไตรมาสที่ 3 ของปี 44 ว่า ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1.2 เทียบกับไตรมาสก่อน โดยได้รับแรงเกื้อหนุนจากการใช้จ่ายของภาคเอกชนและการลงทุนด้านการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก(รอยเตอร์27)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 26 พ.ย.44 44.187 (44.336)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 26 พ.ย. 44
ซื้อ 43.9765 (44.1507) ขาย 44.2679 (44.4477)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,700 (5,700) ขาย 5,800 (5,800)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) ดูไบ 16.92 (17.76)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 12.99 (12.99) ดีเซลหมุนเร็ว 11.79 (11.79)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-สส-
1. ธปท. ยังไม่ได้รับผลสรุปกรณีปกป้องค่าเงินบาทจากคณะกรรมการสอบสวนอย่างเป็นทางการผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีการนำเสนอข่าวผลสรุปการสอบสวนกรณีปกป้องค่าเงินบาทที่ระบุว่าอดีตผู้ว่าการ ธปท. (นายเริงชัย มะระกานนท์) มีความผิดแต่เพียงผู้เดียวว่า ยังไม่สามารถให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจาก ธปท. ยังไม่ได้รับหนังสือชี้แจงในอย่างเป็นทางการจาก ก.คลัง โดยมีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน ซึ่งหากได้รับการชี้แจงอย่างเป็นทางการแล้วจะนำรายละเอียดทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมการของ ธปท. ที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาและดำเนินการต่อไปทันที (โลกวันนี้ 27)
2. ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเตรียมประเมินภาวะเศรษฐกิจ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (27 พ.ย. 44) ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเตรียมประเมินภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย เพื่อพิจารณาว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจนต้องมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ โดยปัจจัยที่จะถูกนำมาพิจารณาในครั้งนี้ก็คือการลดอัตราดอกเบี้ยของ ธ.กลาง สรอ. เป็นครั้งที่ 10 และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลก (ข่าวสด, แนวหน้า 27)
3. สถาบันการเงินสนใจประมูลตั๋วเงินคลังอย่างมากในวันที่ 26 พ.ย.44 รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งผลการประมูลตั๋วเงินคลังเมื่อวันที่ 26 พ.ย.44 จำนวน 2 รุ่นวงเงิน 10,000 ล.บาท แบ่งเป็นตั๋วเงินอายุ 91 วันวงเงิน 5,000 ล.บาท และตั๋วเงินอายุ 182 วันวงเงิน 5,000 ล.บาท โดยอัตราดอกเบี้ยปรับลดลงเล็กน้อย สำหรับอัตราผลตอบแทนตั๋วเงินรุ่นอายุ 91 วัน มีอัตราเฉลี่ยที่ร้อยละ 2.43563 ลดลงจากการประมูลงวดก่อน โดยสถาบันการเงินให้ความสนใจลงทุนสูงกว่าวงเงินที่ประมูล 3.59 เท่า ส่วนตั๋วเงินรุ่นอายุ 182 วัน อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 2.54853 ลดลงจากการประมูลงวดก่อนเช่นกัน โดยสถาบันการเงินให้ความสนใจลงทุนสูงกว่าวงเงินที่ประมูล 3.04 เท่า(กรุงเทพธุรกิจ 27)
4. แนวโน้มอุตสาหกรรมปี 45 ทรงตัวเท่ากับปี 44 ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมในปี 45 คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวเท่ากับปี 44 ประมาณร้อยละ 1.5-2 การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3-5 เทียบกับที่ขยายตัวติดลบร้อยละ 6-8 ในปี 44 สำหรับภาวะการลงทุนยังคงทรงตัว อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ในระดับร้อยละ 55-58 ของกำลังการผลิต ทั้งนี้เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลกซึ่งคาดว่ายังคงซบเซา สำหรับแนวโน้มการจ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รวมถึงการลงทุนจากต่างประเทศได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเสถียรภาพทางการเมืองและมีความหลากหลายในการผลิตอุตสาหกรรม(เดลินิวส์ 27)
ข่าวต่างประเทศ
1. บริษัทจัดอันดับฟิตซ์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวของ ธพ.ญี่ปุ่น รายงานจากลอนดอนเมื่อ 26 พ.ย.44 ฟิตซ์ (Fitch) ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับระหว่างประเทศเปิดเผยว่า ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวทั้งที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินท้องถิ่นของ ธพ.ญี่ปุ่นลง จากเดิมที่ระดับ AA+ มาอยู่ที่ระดับ AA โดย ธพ.ญี่ปุ่นยังคงมีปัญหาการจัดการกับหนี้เสียเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการผลการดำเนินการของบริษัทธุรกิจต่างๆ ยังไม่แจ่มใส สำหรับอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวของ ธพ.ญี่ปุ่นยังคงมีแนวโน้มเป็นลบ (รอยเตอร์ 26)
2. ยอดขายของห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นในเดือน ต.ค. 44 ลดลงร้อยละ 1.7 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 26 พ.ย. 44 สมาคมห้างสรรพสินค้าของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดขายของห้างสรรพสินค้า ซึ่งใช้เป็นเครื่องชี้วัดการใช้จ่ายของผู้บริโภค มีมูลค่า 702.1 พัน ล. เยน ลดลงร้อยละ 1.7 เทียบต่อปี นับเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากความต้องการสินค้าที่มีต้นทุนสูงลดลงและจำนวนวันการใช้จ่ายซื้อสินค้าในวันสุดสัปดาห์น้อยลงเมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 43 โดยยอดขายสินค้าเบ็ดเตล็ดมีมูลค่า 313.38 พัน ล. เยน ลดลงร้อยละ 3.2 เทียบต่อปี ขณะที่ยอดขายอาหารมีมูลค่า 134.46 พัน ล. เยน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เทียบต่อปี…(รอยเตอร์26)
3. ผลผลิตภาคอุตหกรรมของสิงคโปร์เดือน ต.ค.44 ลดลงร้อยละ 21.4 รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ 26 พ.ย.44 the Economic Development Board (EDB) เปิดเผยว่า เดือน ต.ค.44 ผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิตของสิงคโปร์โดยรวม (ไม่รวมอุตสาหกรรมด้านยางพารา) ลดลงร้อยละ 21.4 เทียบปีต่อปี หลังจากเดือน ก.ย.44 ลดลงร้อยละ 22.1 และมีอัตราเฉลี่ยเคลื่อนไหว 3 เดือนลดลงร้อยละ 21.6 สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตที่ลดลง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ลดลงร้อยละ 53.6 ผลิตภัณฑ์สารสนเทศและโทรคมนาคมลดลงร้อยละ 48.1 อิเล็กทรอนิกส์ลดลงร้อยละ 36.0 เคมีลดลงร้อยละ 9.9 เป็นต้น ส่วนอุตสาหกรรมการผลิตที่เพิ่มขึ้น.เช่น ผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.4 อุตสาหกรรมยาเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.0 และปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.0 เป็นต้น(รอยเตอร์ 26)
4. จีดีพีของเกาหลีใต้ในช่วงครึ่งแรกปี 45 จะเติบโตประมาณร้อยละ 3 รายงานจากโซลเมื่อ 27 พ.ย. 44 ก. คลังเกาหลีใต้ ประมาณการว่า ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) จะเติบโตประมาณร้อยละ 3 และร้อยละ 5 ในช่วงครึ่งแรกและครึ่งหลังปี 45 ตามลำดับ และทั้งปี44 จีดีพี จะเติบโตร้อยละ 2.5 หลังจากที่เติบโตร้อยละ 8.8 ในปี 43 ทั้งนี้ รัฐบาลพยายามที่จะให้จีดีพี ของประเทศขยายตัวมากกว่าร้อยละ 4 ในปี 45 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยการดำเนินนโยบายการเงินและการคลังที่ยืดหยุ่นและเพิ่มอุปสงค์ในประเทศ ก่อนหน้านี้ ธ. กลางได้ประกาศตัวเลขการเติบโตของจีดีพีในไตรมาสที่ 3 ของปี 44 ว่า ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1.2 เทียบกับไตรมาสก่อน โดยได้รับแรงเกื้อหนุนจากการใช้จ่ายของภาคเอกชนและการลงทุนด้านการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก(รอยเตอร์27)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 26 พ.ย.44 44.187 (44.336)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 26 พ.ย. 44
ซื้อ 43.9765 (44.1507) ขาย 44.2679 (44.4477)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,700 (5,700) ขาย 5,800 (5,800)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) ดูไบ 16.92 (17.76)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 12.99 (12.99) ดีเซลหมุนเร็ว 11.79 (11.79)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-สส-