1. แผนการดำเนินงานการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจการเปิดเสรีทางการค้า
คณะอนุกรรมการเสริมสร้างความเข้าใจในเรื่องการเปิดเสรี ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มีการประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง (เดือนมกราคม และมีนาคม 2544) พิจารณาเห็นว่าการสร้างความเข้าใจต้องมีแผนดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และให้สามารถสืบทอดต่อไปได้ในระยะยาว เพื่อให้ภาคเอกชนไทยมีความพร้อมในการเตรียมตัวที่จะแข่งขัน จึงมีมติเห็นชอบแผนการดำเนินงานการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจการเปิดเสรีทางการค้า โดยเสนอเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้น( ปี 2544) ระยะกลาง (ปี 2545-2549) และระยะยาว และรับข้อเสนอของผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะเข้าร่วมเป็นวิทยากรในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเรื่องการเปิดเสรีทางการค้าด้วย และในส่วนของเนื้อหาสาระของการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ เห็นควรประกอบด้วยประเด็นที่ระบุถึง ประวัติศาสตร์การพัฒนาของระบบการค้าของโลก ตลอดจนสิทธิและหน้าที่ของไทยตามพันธกรณีต่างๆ ด้วยในประเด็นเรื่องการเปิดเสรีนั้น ประธาน กนศ. เสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาวิเคราะห์ในรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการที่ประเทศต่างๆ นำมาใช้ปฏิบัติและก่อให้เกิดความได้เปรียบทางการค้า เช่น การอุดหนุน เป็นต้น
2. แนวทางการดำเนินงานและกลยุทธ์ของคณะอนุกรรมการติดตามผลกระทบและกำหนดนโนบายของไทยต่อการออกกฎหมายว่าด้วยเศษเหลือทิ้งผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และกฎหมายว่าด้วยการห้ามใช้สารอันตรายบางชนิดในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของสหภาพยุโรป
คณะอนุกรรมการติดตามผลกระทบและกำหนดนโยบายของไทยต่อการ
ออกฎหมายว่าด้วยเศษเหลือทิ้งผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และกฎหมายว่าด้วยการห้ามใช้สารอันตรายบางชนิดในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของสหภาพยุโรปได้มีการประชุมไปแล้ว 3 ครั้ง โดยได้มีการพิจารณาจัดทำแนวทางการดำเนินงานและกลยุทธ์ในการเตรียมรับผลกระทบจากร่างกฎหมายทั้งสอง เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย 3 แนวทางหลัก คือ แนวทางเชิงรับ แนวทางเชิงรุก และแนวทางส่งเสริม
ที่ประชุมมีข้อสังเกตว่าควรมีการรวบรวมข้อมูลในรายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของวัตถุดิบและชิ้นส่วนที่ประเทศไทยนำเข้ามาใช้ในการผลิต และประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งควรมีการประสานงานกับภาคเอกชนพิจารณาถึงผลกระทบและแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาจัดทำกฎหมาย/กฎระเบียบของไทยต่อไป
ที่ประชุม กนศ. มีมติ ให้ความเห็นชอบร่างแนวทางการดำเนินงานและกลยุทธ์ฯ ตามที่คณะอนุกรรมการฯ เสนอ โดยให้เพิ่มหน่วยงานสนับสนุน ได้แก่สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย และสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.)
3. การดำเนินการของไทยต่อกรณีสมุดปกเขียวว่าด้วยนโยบายสินค้าครบวงจรของสหภาพยุโรป (Green Paper on Integrated Product Policy : IPP)
คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปได้มีมติให้ความเห็นชอบ Green Paper on Integrated Product Policy : IPP เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2544 ซึ่งเป็นเอกสารในลักษณะ Discussion paper นำเสนอแนวความคิดเกี่ยวกับ IPP โดยมีจุดมุ่งหมายให้ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องใช้เป็นพื้นฐานในการหารือประกอบการพิจารณากำหนด IPP ของสหภาพยุโรปต่อไป ทั้งนี้ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องสามารถส่งความคิดเห็นไปยังคณะกรรมาธิการฯได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2544 ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนและเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จึงเห็นควรมอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศเป็นหน่วยงานกลางเพื่อประสานงานในเรื่องนี้ โดยในชั้นแรกกรมการค้าต่างประเทศจะเป็นหน่วยงานกลางรวบรวมความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย และขอความเห็นชอบจาก กนศ. ก่อนแจ้งสหภาพยุโรปให้ทันกำหนดวันที่ 30 มิถุนายน นี้ สำหรับในระยะต่อไปฝ่ายเลขานุการเสนอให้ กรมการค้าต่างประเทศจะเป็นหน่วยงานกลางประสานติดตามความคืบหน้าและดำเนินการตามความเหมาะสม โดยรายงานให้ กนศ. ทราบเป็นระยะ ๆ ส่วนการดำเนินการในลักษณะที่เป็นท่าทีหรือนโยบายของไทย ให้ขอความเห็นชอบจาก กนศ. ก่อนดำเนินการ
ที่ประชุม กนศ. มีมติ ให้ความเห็นชอบตามที่เสนอ
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (662)2826171-9 แฟกซ์ (662)280-0775--
-สส-
คณะอนุกรรมการเสริมสร้างความเข้าใจในเรื่องการเปิดเสรี ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มีการประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง (เดือนมกราคม และมีนาคม 2544) พิจารณาเห็นว่าการสร้างความเข้าใจต้องมีแผนดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และให้สามารถสืบทอดต่อไปได้ในระยะยาว เพื่อให้ภาคเอกชนไทยมีความพร้อมในการเตรียมตัวที่จะแข่งขัน จึงมีมติเห็นชอบแผนการดำเนินงานการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจการเปิดเสรีทางการค้า โดยเสนอเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้น( ปี 2544) ระยะกลาง (ปี 2545-2549) และระยะยาว และรับข้อเสนอของผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะเข้าร่วมเป็นวิทยากรในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเรื่องการเปิดเสรีทางการค้าด้วย และในส่วนของเนื้อหาสาระของการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ เห็นควรประกอบด้วยประเด็นที่ระบุถึง ประวัติศาสตร์การพัฒนาของระบบการค้าของโลก ตลอดจนสิทธิและหน้าที่ของไทยตามพันธกรณีต่างๆ ด้วยในประเด็นเรื่องการเปิดเสรีนั้น ประธาน กนศ. เสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาวิเคราะห์ในรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการที่ประเทศต่างๆ นำมาใช้ปฏิบัติและก่อให้เกิดความได้เปรียบทางการค้า เช่น การอุดหนุน เป็นต้น
2. แนวทางการดำเนินงานและกลยุทธ์ของคณะอนุกรรมการติดตามผลกระทบและกำหนดนโนบายของไทยต่อการออกกฎหมายว่าด้วยเศษเหลือทิ้งผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และกฎหมายว่าด้วยการห้ามใช้สารอันตรายบางชนิดในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของสหภาพยุโรป
คณะอนุกรรมการติดตามผลกระทบและกำหนดนโยบายของไทยต่อการ
ออกฎหมายว่าด้วยเศษเหลือทิ้งผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และกฎหมายว่าด้วยการห้ามใช้สารอันตรายบางชนิดในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของสหภาพยุโรปได้มีการประชุมไปแล้ว 3 ครั้ง โดยได้มีการพิจารณาจัดทำแนวทางการดำเนินงานและกลยุทธ์ในการเตรียมรับผลกระทบจากร่างกฎหมายทั้งสอง เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วย 3 แนวทางหลัก คือ แนวทางเชิงรับ แนวทางเชิงรุก และแนวทางส่งเสริม
ที่ประชุมมีข้อสังเกตว่าควรมีการรวบรวมข้อมูลในรายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของวัตถุดิบและชิ้นส่วนที่ประเทศไทยนำเข้ามาใช้ในการผลิต และประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งควรมีการประสานงานกับภาคเอกชนพิจารณาถึงผลกระทบและแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาจัดทำกฎหมาย/กฎระเบียบของไทยต่อไป
ที่ประชุม กนศ. มีมติ ให้ความเห็นชอบร่างแนวทางการดำเนินงานและกลยุทธ์ฯ ตามที่คณะอนุกรรมการฯ เสนอ โดยให้เพิ่มหน่วยงานสนับสนุน ได้แก่สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย และสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.)
3. การดำเนินการของไทยต่อกรณีสมุดปกเขียวว่าด้วยนโยบายสินค้าครบวงจรของสหภาพยุโรป (Green Paper on Integrated Product Policy : IPP)
คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปได้มีมติให้ความเห็นชอบ Green Paper on Integrated Product Policy : IPP เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2544 ซึ่งเป็นเอกสารในลักษณะ Discussion paper นำเสนอแนวความคิดเกี่ยวกับ IPP โดยมีจุดมุ่งหมายให้ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องใช้เป็นพื้นฐานในการหารือประกอบการพิจารณากำหนด IPP ของสหภาพยุโรปต่อไป ทั้งนี้ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องสามารถส่งความคิดเห็นไปยังคณะกรรมาธิการฯได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2544 ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนและเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จึงเห็นควรมอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศเป็นหน่วยงานกลางเพื่อประสานงานในเรื่องนี้ โดยในชั้นแรกกรมการค้าต่างประเทศจะเป็นหน่วยงานกลางรวบรวมความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย และขอความเห็นชอบจาก กนศ. ก่อนแจ้งสหภาพยุโรปให้ทันกำหนดวันที่ 30 มิถุนายน นี้ สำหรับในระยะต่อไปฝ่ายเลขานุการเสนอให้ กรมการค้าต่างประเทศจะเป็นหน่วยงานกลางประสานติดตามความคืบหน้าและดำเนินการตามความเหมาะสม โดยรายงานให้ กนศ. ทราบเป็นระยะ ๆ ส่วนการดำเนินการในลักษณะที่เป็นท่าทีหรือนโยบายของไทย ให้ขอความเห็นชอบจาก กนศ. ก่อนดำเนินการ
ที่ประชุม กนศ. มีมติ ให้ความเห็นชอบตามที่เสนอ
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (662)2826171-9 แฟกซ์ (662)280-0775--
-สส-