กรุงเทพฯ--13 ต.ค.--พรรคประชาธิปัตย์
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการตั้งกรรมาธิการร่วมระหว่าง 2 สภา ว่า ต้องรอความเห็นจากที่ประชุมวิปรัฐบาลในที่ประชุมวันที่ 11 ต.ค. นี้อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง หากมีมติว่าจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ต้องรอความเห็นจากสภาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสภาซึ่งมี 2 ฝ่าย รัฐบาลต้องรอฟัง ฝ่ายอื่นด้วยเช่นกัน หากสภามีความเห็นว่าให้ตั้งกรรมาธิการร่วมต้องมีการเตรียมผู้ที่จะไปเป็นกรรมาธิการร่วมโดยแนวปฏิบัติต้องขอความร่วมมือไปยังวุฒิสภา เพื่อให้กรรมาธิการร่วมที่จะตั้งขึ้นเร่งพิจารณา เพราะเราไม่ต้องการให้ยืดเยื้อ หากต้องการตั้งกรรมาธิการร่วมก็จะต้องไม่เห็นชอบกับสิ่งที่ ส.ว. ได้แก้ไขมา
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า เท่าที่ฟังมติพรรคร่วมแต่ละพรรคก็ออกมาเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ขอให้ รอมติที่ประชุมวิปรัฐบาลในวันที่ 11 ต.ค. ก่อนอย่างไรก็ตามคนคิดว่าในเรื่องของการพิจารณาเลือกตั้งดังกล่าว หากร่วมมือกันจริง ๆ คิดว่าในสัปดาห์หน้าก็คงจะเสร็จโดยหากมีการตั้งกรรมาธิการร่วมแล้วในวันที่ 11 ต.ค. นี้สภาผู้แทนราษฎรก็มีการตั้งกรรมาธิการ และส.ว. ตั้งกรรมาธิการร่วมในส่วนของ ส.ว. และอาจมีการนัดประชุมในวันที่ 13 ต.ค. เลยหรือวันที่ 14 หรือวันที่ 16 ต.ค. ก็ได้ เมื่อเสร็จแล้วก็นำมาขอความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาผู้แทนในวันที่ 18 ต.ค. จากนั้นวันที่ 20 ต.ค. กลับไปขอความเห็นจากส.ว. จะสามารถเสร็จเรียบร้อยได้
นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปด้วยว่า เท่าที่ตนดูประเด็นที่ต้องการจะแก้ไขในส่วนของวิปรัฐบาล คือเรื่องขอให้ระยะเวลา ในการที่จะสอย ส.ว.หรือส.ส. จาก 2 ปี มาเหลือ 180 วัน เกรงว่าอาจเป็นปัญหาในการตีความย้อนหลังกับผู้ที่ถูก กกต. สอบอยู่ในขณะนี้ ในส่วนของส.ว. แต่ทั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจหรือจงใจจะไปเล่นงานใครซึ่งวิปหลายคนก็อยากให้มีการเขียนบทเฉพาะกาล เพื่อเตรียมใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า และอีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องของการที่ให้ส.ส. ในระบบเขตเลือกตั้งที่ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต้องจ่ายค่าชดเชยในการเลือกตั้งใหม่เอง เท่าที่ฟังวิปรัฐบาลหลายคนไม่เห็นด้วย อีกประเด็นคือเรื่องหมายค้น เรื่องนี้ยังไม่รู้ว่าจะกลายเป็นประเด็นใหญ่ถึงขึ้นที่ยอมรับกันไม่ได้หรือไม่.--จบ--
-วว-
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการตั้งกรรมาธิการร่วมระหว่าง 2 สภา ว่า ต้องรอความเห็นจากที่ประชุมวิปรัฐบาลในที่ประชุมวันที่ 11 ต.ค. นี้อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง หากมีมติว่าจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ต้องรอความเห็นจากสภาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสภาซึ่งมี 2 ฝ่าย รัฐบาลต้องรอฟัง ฝ่ายอื่นด้วยเช่นกัน หากสภามีความเห็นว่าให้ตั้งกรรมาธิการร่วมต้องมีการเตรียมผู้ที่จะไปเป็นกรรมาธิการร่วมโดยแนวปฏิบัติต้องขอความร่วมมือไปยังวุฒิสภา เพื่อให้กรรมาธิการร่วมที่จะตั้งขึ้นเร่งพิจารณา เพราะเราไม่ต้องการให้ยืดเยื้อ หากต้องการตั้งกรรมาธิการร่วมก็จะต้องไม่เห็นชอบกับสิ่งที่ ส.ว. ได้แก้ไขมา
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า เท่าที่ฟังมติพรรคร่วมแต่ละพรรคก็ออกมาเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ขอให้ รอมติที่ประชุมวิปรัฐบาลในวันที่ 11 ต.ค. ก่อนอย่างไรก็ตามคนคิดว่าในเรื่องของการพิจารณาเลือกตั้งดังกล่าว หากร่วมมือกันจริง ๆ คิดว่าในสัปดาห์หน้าก็คงจะเสร็จโดยหากมีการตั้งกรรมาธิการร่วมแล้วในวันที่ 11 ต.ค. นี้สภาผู้แทนราษฎรก็มีการตั้งกรรมาธิการ และส.ว. ตั้งกรรมาธิการร่วมในส่วนของ ส.ว. และอาจมีการนัดประชุมในวันที่ 13 ต.ค. เลยหรือวันที่ 14 หรือวันที่ 16 ต.ค. ก็ได้ เมื่อเสร็จแล้วก็นำมาขอความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาผู้แทนในวันที่ 18 ต.ค. จากนั้นวันที่ 20 ต.ค. กลับไปขอความเห็นจากส.ว. จะสามารถเสร็จเรียบร้อยได้
นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปด้วยว่า เท่าที่ตนดูประเด็นที่ต้องการจะแก้ไขในส่วนของวิปรัฐบาล คือเรื่องขอให้ระยะเวลา ในการที่จะสอย ส.ว.หรือส.ส. จาก 2 ปี มาเหลือ 180 วัน เกรงว่าอาจเป็นปัญหาในการตีความย้อนหลังกับผู้ที่ถูก กกต. สอบอยู่ในขณะนี้ ในส่วนของส.ว. แต่ทั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจหรือจงใจจะไปเล่นงานใครซึ่งวิปหลายคนก็อยากให้มีการเขียนบทเฉพาะกาล เพื่อเตรียมใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า และอีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องของการที่ให้ส.ส. ในระบบเขตเลือกตั้งที่ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต้องจ่ายค่าชดเชยในการเลือกตั้งใหม่เอง เท่าที่ฟังวิปรัฐบาลหลายคนไม่เห็นด้วย อีกประเด็นคือเรื่องหมายค้น เรื่องนี้ยังไม่รู้ว่าจะกลายเป็นประเด็นใหญ่ถึงขึ้นที่ยอมรับกันไม่ได้หรือไม่.--จบ--
-วว-