มาตรการแรงงาน
1. มาตรการแก้ปัญหาและบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการแก้ปัญหาและการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ผิดกฎหมาย โดยแบ่งเป็นมาตรการระยะสั้น และระยะยาว ดังนี้
ระยะสั้น (1) ให้คนต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ทำงานได้เฉพาะอาชีพกรรมกร ในท้องที่ 37 จังหวัด 18 กิจการรวม 106,684 คน ได้ 1 ปี จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2544 แจ้งให้คนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายมารายงานตัว และออกคำสั่งส่งกลับประเทศ ในกรณียังไม่สามารถ ส่งกลับได้อนุญาตให้ประกันตัวเพื่อขออยู่ใน ราชอาณาจักรระหว่างรอการส่งกลับ และให้กรม จัดหางานจังหวัดพิจารณาจัดหางานให้ในกิจการและพื้นที่ที่กำหนด
(2) กำหนดระยะเวลาผ่อนผันให้ชัดเจน และไม่มีการผ่อนผันเมื่อพ้นกำหนดอีก ต่อไป และเป็นการผ่อนผันเฉพาะตัวผู้ใช้แรงงาน ไม่อนุญาตให้เข้ามาทั้งครอบครัว
(3) ให้ขึ้นทะเบียนนายจ้างที่ได้รับการผ่อนผัน และมีบทลงโทษนายจ้างที่ฝ่าฝืน โดยกำหนดโทษเพิ่มขึ้นตามจำนวนครั้งที่ฝ่าฝืน
(4) เร่งสร้างระบบข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องและจำเป็นให้ครบถ้วนและถูกต้องทันสมัย ตลอดจนจัดมาตรการป้องกันผลกระทบทางด้าน สาธารณสุข และเข้มงวดในการตรวจคนเข้าเมือง และมาตรการส่งแรงงานต่างด้าวกลับอย่างมี ประสิทธิภาพ
(5) ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นกำลังรวมผสมของทุกหน่วยงาน เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว
ระยะยาว ให้จัดตั้งหน่วยงานที่เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบปัญหาแรงงานต่างด้าวให้เป็นระบบและ ต่อเนื่อง
2. การพิจารณากำหนดอัตรา ค่าจ้างขั้นต่ำ
คณะกรรมการค่าจ้างกลางมีมติให้คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในปีนี้ เนื่องจากเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจและแรงงานในปี 2542 ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ลูกจ้างสามารถครองชีพอยู่ได้ และคาดว่าในปี 2543 เศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์เดียวกันกับปี 2542 ดังนั้น การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในขณะนี้ อาจกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของคณะอนุกรรมการอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดเกือบทุกจังหวัดที่ให้คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เดิมไว้
3. ร่างพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2543 ตามที่กระทรวง แรงงานและสวัสดิการสังคมเสนอ เพื่อขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือคนหางานซึ่งเคยส่ง เงินเข้ากองทุน และยังคงทำงานอยู่ในต่างประเทศ ให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือ คนหางานไปทำงานในต่างประเทศต่อไปอีก 5 ปี นับแต่วันสิ้นสุดสัญญาจ้างครั้งแรก ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่คุ้มครอง อาทิ รับการสงเคราะห์จากกองทุนกรณีเจ็บป่วยทุพพลภาพจากสาเหตุการทำงานและเสียชีวิตกรณีถูกนายจ้างละเลย เป็นต้น
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-สส-
1. มาตรการแก้ปัญหาและบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการแก้ปัญหาและการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ผิดกฎหมาย โดยแบ่งเป็นมาตรการระยะสั้น และระยะยาว ดังนี้
ระยะสั้น (1) ให้คนต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ทำงานได้เฉพาะอาชีพกรรมกร ในท้องที่ 37 จังหวัด 18 กิจการรวม 106,684 คน ได้ 1 ปี จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2544 แจ้งให้คนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายมารายงานตัว และออกคำสั่งส่งกลับประเทศ ในกรณียังไม่สามารถ ส่งกลับได้อนุญาตให้ประกันตัวเพื่อขออยู่ใน ราชอาณาจักรระหว่างรอการส่งกลับ และให้กรม จัดหางานจังหวัดพิจารณาจัดหางานให้ในกิจการและพื้นที่ที่กำหนด
(2) กำหนดระยะเวลาผ่อนผันให้ชัดเจน และไม่มีการผ่อนผันเมื่อพ้นกำหนดอีก ต่อไป และเป็นการผ่อนผันเฉพาะตัวผู้ใช้แรงงาน ไม่อนุญาตให้เข้ามาทั้งครอบครัว
(3) ให้ขึ้นทะเบียนนายจ้างที่ได้รับการผ่อนผัน และมีบทลงโทษนายจ้างที่ฝ่าฝืน โดยกำหนดโทษเพิ่มขึ้นตามจำนวนครั้งที่ฝ่าฝืน
(4) เร่งสร้างระบบข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องและจำเป็นให้ครบถ้วนและถูกต้องทันสมัย ตลอดจนจัดมาตรการป้องกันผลกระทบทางด้าน สาธารณสุข และเข้มงวดในการตรวจคนเข้าเมือง และมาตรการส่งแรงงานต่างด้าวกลับอย่างมี ประสิทธิภาพ
(5) ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นกำลังรวมผสมของทุกหน่วยงาน เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว
ระยะยาว ให้จัดตั้งหน่วยงานที่เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบปัญหาแรงงานต่างด้าวให้เป็นระบบและ ต่อเนื่อง
2. การพิจารณากำหนดอัตรา ค่าจ้างขั้นต่ำ
คณะกรรมการค่าจ้างกลางมีมติให้คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในปีนี้ เนื่องจากเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจและแรงงานในปี 2542 ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ลูกจ้างสามารถครองชีพอยู่ได้ และคาดว่าในปี 2543 เศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์เดียวกันกับปี 2542 ดังนั้น การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในขณะนี้ อาจกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของคณะอนุกรรมการอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดเกือบทุกจังหวัดที่ให้คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เดิมไว้
3. ร่างพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2543 ตามที่กระทรวง แรงงานและสวัสดิการสังคมเสนอ เพื่อขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือคนหางานซึ่งเคยส่ง เงินเข้ากองทุน และยังคงทำงานอยู่ในต่างประเทศ ให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือ คนหางานไปทำงานในต่างประเทศต่อไปอีก 5 ปี นับแต่วันสิ้นสุดสัญญาจ้างครั้งแรก ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่คุ้มครอง อาทิ รับการสงเคราะห์จากกองทุนกรณีเจ็บป่วยทุพพลภาพจากสาเหตุการทำงานและเสียชีวิตกรณีถูกนายจ้างละเลย เป็นต้น
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-สส-