ในอดีต การจำกัดการค้าบริการสร้างอุปสรรคในการแข่งขันและเพิ่มค่าใช้จ่าย ซึ่งมักทำให้ราคาสินค้าบริการสูงขึ้นซึ่งสูงกว่าราคาที่จะสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ และทำให้เกิดการจำกัดการแข่งขันภายในประเทศและระหว่างประเทศ ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะเปิดเสรีการค้าบริการมากขึ้นทั้งประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา จากการศึกษายังพบว่าโดยเฉลี่ยประเทศกำลังพัฒนามีอุปสรรคกีดขวางการเปิดเสรีทางการค้าบริการมากกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ในด้านโทรคมนาคม การธนาคารและการเงิน แต่สินค้าบริการบางสาขา ประเทศกำลังพัฒนาก็ประสบความสำเร็จในการส่งออก เช่น บริการด้านโสตทัศน์ บริการด้านขนส่งทางทะเล บริการด้านการก่อสร้าง บริการด้านสุขภาพ
ลักษณะเฉพาะของการบริการและความแตกต่างระหว่างการค้าบริการและการค้าสินค้าทั่วไปมีดังนี้
1. การค้าบริการต้องการความใกล้ชิดระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค การบริการรวมถึงไม่เพียงแต่รูปแบบการบริการข้ามพรมแดนเท่านั้นแต่เป็นการเคลื่อนย้ายของผู้ให้บริการและลูกค้า ซึ่งต่างจากการค้าสินค้าทั่วไปที่มีแต่เพียงรูปแบบการค้าข้ามพรมแดนที่สินค้าส่งไปยังลูกค้าในต่างประเทศผ่านรูปแบบการขนส่งต่างๆ เช่นทางเรือ รถยนต์ เครื่องบิน
2. การกำจัดอุปสรรคการเข้าสู่ตลาดจะเปิดตลาดการบริการแก่ผู้ให้บริการรายใหม่ทั้งที่เป็นคนท้องที่และชาวต่างชาติ ประโยชน์ที่สำคัญจากการเปิดเสรีการบริการก่อให้เกิดจากการแข่งขันภายในประเทศและประสิทธิภาพของการผลิตที่สูงขึ้น
3. คำว่าบริการประกอบด้วยกลุ่มกิจกรรมที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการธนาคาร ประกันภัย การขนส่ง โทรคมนาคม การบริการด้านการปรึกษา และบริการอื่นๆ การบริการเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการให้ความสะดวกในการการดำเนินการต่างๆ
4. อุปสรรคการเคลื่อนไหวของสินค้ามาจากภาษีศุลกากรและอุปสรรคทางกายภาพในด้านเขตแดน ดังนั้นส่วนใหญ่การเปิดเสรีสินค้าจะให้ความสำคัญเรื่องอัตราภาษี อย่างไรก็ตามขอบเขตและประเภทของการค้าบริการนั้นมีมากกว่าสินค้าทั่วไปและรวมถึงมาตรการที่ส่งผลต่อผู้ให้บริการท้องถิ่นและชาวต่างชาติ การบริการควรที่จะมีกฎระเบียบรัดกุมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งนำไปการบรรลุวัตถุประสงค์นโยบายของสาธารณะที่สำคัญ แต่กฎระเบียบทั้งหมดนี้ต้องไม่สร้างอุปสรรคต่อการค้า
5. สาขาบริการบางสาขา เช่น การบริการด้านโทรคมนาคม การธนาคาร ประกันภัยจะมีการค้าข้ามพรมแดนน้อยมาก รูปแบบการค้าจะเป็นในรูปแบบการจัดตั้งธุรกิจเพื่อให้บริการในประเทศนั้นๆซึ่งมักไม่มีการเก็บข้อมูลอยู่ในสถิติการค้าแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตามมีหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่เก็บข้อมูลการลงทุนต่างชาติแต่ก็ยังไม่สามารถเก็บข้อมูลได้ครบถ้วน
ข้อสังเกต ช่องทางโอกาสและผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเปิดเสรีการค้าบริการในประเทศกำลังพัฒนา
1. ในหลายบริษัทจากประเทศกำลังพัฒนาประสบผลสำเร็จในการส่งออกสินค้าบริการไปยังประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาแล้ว สิ่งที่พบคือมีจำนวนประเทศกำลังพัฒนาเพียงไม่กี่ประเทศที่จะพัฒนาการค้าบริการได้ในระดับนานาชาติ แต่ประเทศกำลังพัฒนาที่สามารถแข่งขันในระดับระหว่างประเทศได้นั้นเป็นประเทศที่มีระดับการพัฒนาสูงกว่าประเทศกำลังพัฒนาทั่วไป ในบางสาขาการบริการ การสร้างความเข้มแข็งแก่ตลาดภายในประเทศได้สร้างแบบอย่างสำหรับการเสริมสร้างศักยภาพในการส่งออกสินค้าบริการ ดังนั้นการค้าบริการประเภทนั้นๆควรที่จะได้รับการยอมรับในตลาดภายในประเทศเสียก่อนเพื่อสามารถวิเคราะห์มาตรฐานการบริการได้และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าต่างชาติ เพราะถ้าคนในประเทศที่บริษัทตั้งอยู่ไม่ใช้บริการเหล่านั้น ลูกค้าต่างชาติจะไม่มั่นใจในการใช้บริการ หลังจากนั้นจึงเริ่มที่จะส่งออกระดับภูมิภาคและสู่ระดับโลก แบบอย่างที่เห็นได้ชัดอยู่ในการบริการด้านสื่อสารโทรคมนาคม โสตทัศน์ การขนส่งทางเรือ และบริการการศึกษาขั้นสูงหรือแม้แต่บริการที่เกี่ยวข้องกับการค้าธุรกรรมผ่านอินเตอร์เนท (E-Commerce) แต่กรณีนี้ยกเว้นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) ที่ปัจจัยด้านภูมิภาคมีความสำคัญน้อย และด้านท่องเที่ยวซึ่งจำเป็นที่จะต้องเริ่มที่ตลาดต่างประเทศตั้งแต่แรก
2. ธรรมชาติของการค้าบริการในเศรษฐกิจระดับโลกจะมีการติดต่อพึ่งพากันมากขึ้นระหว่างสาขาบริการที่ประเทศกำลังพัฒนาประสบผลสำเร็จ เช่น บริการโสตทัศน์ , บริการขนส่งทางเรือ, บริการเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคาร และบริการด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นสาขาที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก เหมือนอย่างสาขาด้านพลังงานและด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสาขาข้างต้นเหล่านี้เป็นสาขาที่ประเทศกำลังพัฒนามีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบเพราะมีแรงงานที่มีความรู้สามารถและค่าแรงต่ำ เช่น บริการด้านโทรคมนาคมและอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ บริการก่อสร้างและการประมวลข้อมูล เช่น ประเทศอินเดียที่มีช่างผู้ชำนาญด้านการผลิตและการให้บริการด้านคอมพิวเตอร์ จากความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศกำลังพัฒนาที่มีความรู้ความสามารถสูงและค่าจ้างแรงงานต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ส่งผลทำให้ประเทศพัฒนาแล้วได้แสวงหาแหล่งทรัพยากรภายนอกด้านการค้าบริการจากประเทศกำลังพัฒนา แต่ทั้งนี้ประเทศกำลังพัฒนาจะควรต้องมีโทรคมนาคมที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ และเข้าถึงตลาดประเทศพัฒนาแล้วโดยการบริการแบบข้ามพรมแดน
3. การเปิดเสรีบริการมีแนวโน้มที่จะรวมตัวกันและสร้างพันธมิตรระหว่างประเทศและระหว่างสาขามากขึ้นกับบริษัทจาก
ประเทศพัฒนาแล้วหรือกับบริษัทจากประเทศที่กำลังพัฒนาเพื่อดึงความรู้วิทยาการและหลักปฏิบัติของประเทศที่พัฒนาแล้วนำมาใช้ ปัจจุบันมีกลุ่มธุรกิจส่งออกน้อยรายที่จะเป็นผู้บริหารธุรกิจเพียงบริษัทเดียว นอกจากนี้มีการเชื่อมโยงทาง
ภูมิภาค ภาษา วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ซึ่งส่งผลต่อการติดต่อธุรกิจการค้าบริการระหว่างประเทศมากขึ้น บริษัทที่ส่งออกสินค้าบริการไปยังประเทศที่มีความเชื่อมโยงด้านต่างๆต่อกันทำให้ง่ายต่อการเจาะตลาด เช่น ด้านโสตทัศน์ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์วิทยา หรือการให้บริการรักษาสุขภาพแบบแผนโบราณ อีกทั้งประเทศพัฒนาแล้วที่มีการเชื่อมโยงด้านประวัติศาสตร์และอาณานิคมกับบางประเทศในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาทำให้เกิดความเชื่อมั่นที่จะส่งออกสินค้าบริการจากประเทศเหล่านี้ได้เช่นกัน
4. การเปิดเสรีการค้าบริการในประเทศกำลังพัฒนาได้เพิ่มการเข้ามาลงทุนจากต่างชาติ เช่นการลงทุนในรูปแบบ Foreign Direct Investment หรือ FDI จะมาพร้อมกับการถ่ายทอดเทคโนโลยีซึ่งบุคลากรภายในประเทศกำลังพัฒนาจะได้รับประโยชน์นี้
อย่างไรก็ตาม การเปิดเสรีการบริการย่อมมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆเช่นกัน คือ การเข้ามาลงทุนในประเทศโดยตรงจากชาวต่างชาติ หรือ FDI นั้นสามารถเพิ่มรายได้ของโลกโดยรวม แต่บางประเทศประสบกับการสูญเสียด้าน
สวัสดิการเล็กน้อยและรายได้ เนื่องจากการลดการกีดกันการลงทุนของชาวต่างชาติในหลายๆประเทศทำให้เงินทุนนั้นไหลไปยังประเทศอื่นที่เคยมีการกีดกันการลงทุนสูง
อย่างไรก็ตามบางบริษัทในประเทศกำลังพัฒนาที่จะส่งออกสินค้าบริการต้องเผชิญอุปสรรคดังนี้
- ขาดการเข้าถึงด้านการเงินสำหรับการส่งออกหรือการพัฒนาธุรกิจ
การส่งออกสินค้าบริการของประเทศกำลังพัฒนามักอยู่ในประเภทการบริการที่ใช้เงินลงทุนน้อย หรือการสร้างแหล่งเงินลงทุนโดยผ่านการสร้างพันธมิตรระหว่างประเทศ นอกจากนี้ระดับรายได้ในตลาดภายในต่ำสร้างความลำบากสำหรับบริษัทที่จะสร้างฐานลูกค้าในประเทศเพื่อเป็นบรรทัดฐานสำหรับการส่งออกสินค้าบริการ
- ความยากลำบากในการสร้างความเชื่อใจกับผู้ให้บริการระหว่างประเทศโดยเฉพาะในการใช้เทคโนโลยีระดับสูง
การขาดความเชื่อใจทำให้จำนวนลูกค้าน้อย ส่งผลต่อโอกาสที่จะทดลองความมั่นใจและไว้วางใจต่อบริการนั้นๆ แต่เมื่อบริการในบริษัทนั้นเริ่มสร้างชื่อเสียง และความไว้วางใจทำให้เกิดการพัฒนาด้านการส่งออก อย่างไรก็ตามปัญหาด้านการสร้างความเชื่อใจนี้แก้ไขได้ อย่างเช่นการสร้างพันธมิตรกับริษัทต่างชาติ
- ขาดการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานที่น่าเชื่อถือและราคาไม่แพง
ในประเทศกำลังพัฒนา การบริการด้านโทรคมนาคมที่ไม่มีประสิทธิภาพส่งผลกระทบต่อการแสวงหาแหล่งทรัพยากรภายนอกและการส่งออกบริการ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถของบริษัทในการสร้างความเชื่อถือต่อลูกค้า
- ขาดการเข้าถึงระบบเครือข่ายที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการและสิ่งอำนวยความสะดวกของรัฐที่
จำเป็นต่อการค้าซึ่งรวมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องในด้านกฎหมายการค้าภายใน การเชื่อมโยงผู้ส่งออก หรือสมาคมการส่งออก หรือ การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจในกรอบกว้างขวางขึ้น
โดยสรุป การเปิดเสรีการค้าบริการของประเทศกำลังพัฒนาจำเป็นอย่างยิ่งที่ในระดับรัฐต้องปรับใช้กรอบนโยบายที่เหมาะสมและมีการวางแผนอย่างรัดกุมเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ส่งออกการค้าบริการ และในระดับผู้ส่งออกการค้าบริการควรที่จะพัฒนาระดับความสามารถเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งต่างประเทศได้
----------------------------------------------------------------------------------
* สรุปจากเอกสารของ OECD เรื่อง Services Trade Liberalization: Identifying Opportunities and Gains, (JOB (03)/140), 10 July 2003.
----------------------------------------------------------------------------------
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-
ลักษณะเฉพาะของการบริการและความแตกต่างระหว่างการค้าบริการและการค้าสินค้าทั่วไปมีดังนี้
1. การค้าบริการต้องการความใกล้ชิดระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค การบริการรวมถึงไม่เพียงแต่รูปแบบการบริการข้ามพรมแดนเท่านั้นแต่เป็นการเคลื่อนย้ายของผู้ให้บริการและลูกค้า ซึ่งต่างจากการค้าสินค้าทั่วไปที่มีแต่เพียงรูปแบบการค้าข้ามพรมแดนที่สินค้าส่งไปยังลูกค้าในต่างประเทศผ่านรูปแบบการขนส่งต่างๆ เช่นทางเรือ รถยนต์ เครื่องบิน
2. การกำจัดอุปสรรคการเข้าสู่ตลาดจะเปิดตลาดการบริการแก่ผู้ให้บริการรายใหม่ทั้งที่เป็นคนท้องที่และชาวต่างชาติ ประโยชน์ที่สำคัญจากการเปิดเสรีการบริการก่อให้เกิดจากการแข่งขันภายในประเทศและประสิทธิภาพของการผลิตที่สูงขึ้น
3. คำว่าบริการประกอบด้วยกลุ่มกิจกรรมที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการธนาคาร ประกันภัย การขนส่ง โทรคมนาคม การบริการด้านการปรึกษา และบริการอื่นๆ การบริการเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการให้ความสะดวกในการการดำเนินการต่างๆ
4. อุปสรรคการเคลื่อนไหวของสินค้ามาจากภาษีศุลกากรและอุปสรรคทางกายภาพในด้านเขตแดน ดังนั้นส่วนใหญ่การเปิดเสรีสินค้าจะให้ความสำคัญเรื่องอัตราภาษี อย่างไรก็ตามขอบเขตและประเภทของการค้าบริการนั้นมีมากกว่าสินค้าทั่วไปและรวมถึงมาตรการที่ส่งผลต่อผู้ให้บริการท้องถิ่นและชาวต่างชาติ การบริการควรที่จะมีกฎระเบียบรัดกุมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งนำไปการบรรลุวัตถุประสงค์นโยบายของสาธารณะที่สำคัญ แต่กฎระเบียบทั้งหมดนี้ต้องไม่สร้างอุปสรรคต่อการค้า
5. สาขาบริการบางสาขา เช่น การบริการด้านโทรคมนาคม การธนาคาร ประกันภัยจะมีการค้าข้ามพรมแดนน้อยมาก รูปแบบการค้าจะเป็นในรูปแบบการจัดตั้งธุรกิจเพื่อให้บริการในประเทศนั้นๆซึ่งมักไม่มีการเก็บข้อมูลอยู่ในสถิติการค้าแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตามมีหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่เก็บข้อมูลการลงทุนต่างชาติแต่ก็ยังไม่สามารถเก็บข้อมูลได้ครบถ้วน
ข้อสังเกต ช่องทางโอกาสและผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเปิดเสรีการค้าบริการในประเทศกำลังพัฒนา
1. ในหลายบริษัทจากประเทศกำลังพัฒนาประสบผลสำเร็จในการส่งออกสินค้าบริการไปยังประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาแล้ว สิ่งที่พบคือมีจำนวนประเทศกำลังพัฒนาเพียงไม่กี่ประเทศที่จะพัฒนาการค้าบริการได้ในระดับนานาชาติ แต่ประเทศกำลังพัฒนาที่สามารถแข่งขันในระดับระหว่างประเทศได้นั้นเป็นประเทศที่มีระดับการพัฒนาสูงกว่าประเทศกำลังพัฒนาทั่วไป ในบางสาขาการบริการ การสร้างความเข้มแข็งแก่ตลาดภายในประเทศได้สร้างแบบอย่างสำหรับการเสริมสร้างศักยภาพในการส่งออกสินค้าบริการ ดังนั้นการค้าบริการประเภทนั้นๆควรที่จะได้รับการยอมรับในตลาดภายในประเทศเสียก่อนเพื่อสามารถวิเคราะห์มาตรฐานการบริการได้และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าต่างชาติ เพราะถ้าคนในประเทศที่บริษัทตั้งอยู่ไม่ใช้บริการเหล่านั้น ลูกค้าต่างชาติจะไม่มั่นใจในการใช้บริการ หลังจากนั้นจึงเริ่มที่จะส่งออกระดับภูมิภาคและสู่ระดับโลก แบบอย่างที่เห็นได้ชัดอยู่ในการบริการด้านสื่อสารโทรคมนาคม โสตทัศน์ การขนส่งทางเรือ และบริการการศึกษาขั้นสูงหรือแม้แต่บริการที่เกี่ยวข้องกับการค้าธุรกรรมผ่านอินเตอร์เนท (E-Commerce) แต่กรณีนี้ยกเว้นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) ที่ปัจจัยด้านภูมิภาคมีความสำคัญน้อย และด้านท่องเที่ยวซึ่งจำเป็นที่จะต้องเริ่มที่ตลาดต่างประเทศตั้งแต่แรก
2. ธรรมชาติของการค้าบริการในเศรษฐกิจระดับโลกจะมีการติดต่อพึ่งพากันมากขึ้นระหว่างสาขาบริการที่ประเทศกำลังพัฒนาประสบผลสำเร็จ เช่น บริการโสตทัศน์ , บริการขนส่งทางเรือ, บริการเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคาร และบริการด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นสาขาที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก เหมือนอย่างสาขาด้านพลังงานและด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสาขาข้างต้นเหล่านี้เป็นสาขาที่ประเทศกำลังพัฒนามีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบเพราะมีแรงงานที่มีความรู้สามารถและค่าแรงต่ำ เช่น บริการด้านโทรคมนาคมและอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ บริการก่อสร้างและการประมวลข้อมูล เช่น ประเทศอินเดียที่มีช่างผู้ชำนาญด้านการผลิตและการให้บริการด้านคอมพิวเตอร์ จากความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศกำลังพัฒนาที่มีความรู้ความสามารถสูงและค่าจ้างแรงงานต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ส่งผลทำให้ประเทศพัฒนาแล้วได้แสวงหาแหล่งทรัพยากรภายนอกด้านการค้าบริการจากประเทศกำลังพัฒนา แต่ทั้งนี้ประเทศกำลังพัฒนาจะควรต้องมีโทรคมนาคมที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ และเข้าถึงตลาดประเทศพัฒนาแล้วโดยการบริการแบบข้ามพรมแดน
3. การเปิดเสรีบริการมีแนวโน้มที่จะรวมตัวกันและสร้างพันธมิตรระหว่างประเทศและระหว่างสาขามากขึ้นกับบริษัทจาก
ประเทศพัฒนาแล้วหรือกับบริษัทจากประเทศที่กำลังพัฒนาเพื่อดึงความรู้วิทยาการและหลักปฏิบัติของประเทศที่พัฒนาแล้วนำมาใช้ ปัจจุบันมีกลุ่มธุรกิจส่งออกน้อยรายที่จะเป็นผู้บริหารธุรกิจเพียงบริษัทเดียว นอกจากนี้มีการเชื่อมโยงทาง
ภูมิภาค ภาษา วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ซึ่งส่งผลต่อการติดต่อธุรกิจการค้าบริการระหว่างประเทศมากขึ้น บริษัทที่ส่งออกสินค้าบริการไปยังประเทศที่มีความเชื่อมโยงด้านต่างๆต่อกันทำให้ง่ายต่อการเจาะตลาด เช่น ด้านโสตทัศน์ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์วิทยา หรือการให้บริการรักษาสุขภาพแบบแผนโบราณ อีกทั้งประเทศพัฒนาแล้วที่มีการเชื่อมโยงด้านประวัติศาสตร์และอาณานิคมกับบางประเทศในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาทำให้เกิดความเชื่อมั่นที่จะส่งออกสินค้าบริการจากประเทศเหล่านี้ได้เช่นกัน
4. การเปิดเสรีการค้าบริการในประเทศกำลังพัฒนาได้เพิ่มการเข้ามาลงทุนจากต่างชาติ เช่นการลงทุนในรูปแบบ Foreign Direct Investment หรือ FDI จะมาพร้อมกับการถ่ายทอดเทคโนโลยีซึ่งบุคลากรภายในประเทศกำลังพัฒนาจะได้รับประโยชน์นี้
อย่างไรก็ตาม การเปิดเสรีการบริการย่อมมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆเช่นกัน คือ การเข้ามาลงทุนในประเทศโดยตรงจากชาวต่างชาติ หรือ FDI นั้นสามารถเพิ่มรายได้ของโลกโดยรวม แต่บางประเทศประสบกับการสูญเสียด้าน
สวัสดิการเล็กน้อยและรายได้ เนื่องจากการลดการกีดกันการลงทุนของชาวต่างชาติในหลายๆประเทศทำให้เงินทุนนั้นไหลไปยังประเทศอื่นที่เคยมีการกีดกันการลงทุนสูง
อย่างไรก็ตามบางบริษัทในประเทศกำลังพัฒนาที่จะส่งออกสินค้าบริการต้องเผชิญอุปสรรคดังนี้
- ขาดการเข้าถึงด้านการเงินสำหรับการส่งออกหรือการพัฒนาธุรกิจ
การส่งออกสินค้าบริการของประเทศกำลังพัฒนามักอยู่ในประเภทการบริการที่ใช้เงินลงทุนน้อย หรือการสร้างแหล่งเงินลงทุนโดยผ่านการสร้างพันธมิตรระหว่างประเทศ นอกจากนี้ระดับรายได้ในตลาดภายในต่ำสร้างความลำบากสำหรับบริษัทที่จะสร้างฐานลูกค้าในประเทศเพื่อเป็นบรรทัดฐานสำหรับการส่งออกสินค้าบริการ
- ความยากลำบากในการสร้างความเชื่อใจกับผู้ให้บริการระหว่างประเทศโดยเฉพาะในการใช้เทคโนโลยีระดับสูง
การขาดความเชื่อใจทำให้จำนวนลูกค้าน้อย ส่งผลต่อโอกาสที่จะทดลองความมั่นใจและไว้วางใจต่อบริการนั้นๆ แต่เมื่อบริการในบริษัทนั้นเริ่มสร้างชื่อเสียง และความไว้วางใจทำให้เกิดการพัฒนาด้านการส่งออก อย่างไรก็ตามปัญหาด้านการสร้างความเชื่อใจนี้แก้ไขได้ อย่างเช่นการสร้างพันธมิตรกับริษัทต่างชาติ
- ขาดการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานที่น่าเชื่อถือและราคาไม่แพง
ในประเทศกำลังพัฒนา การบริการด้านโทรคมนาคมที่ไม่มีประสิทธิภาพส่งผลกระทบต่อการแสวงหาแหล่งทรัพยากรภายนอกและการส่งออกบริการ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถของบริษัทในการสร้างความเชื่อถือต่อลูกค้า
- ขาดการเข้าถึงระบบเครือข่ายที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการและสิ่งอำนวยความสะดวกของรัฐที่
จำเป็นต่อการค้าซึ่งรวมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องในด้านกฎหมายการค้าภายใน การเชื่อมโยงผู้ส่งออก หรือสมาคมการส่งออก หรือ การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจในกรอบกว้างขวางขึ้น
โดยสรุป การเปิดเสรีการค้าบริการของประเทศกำลังพัฒนาจำเป็นอย่างยิ่งที่ในระดับรัฐต้องปรับใช้กรอบนโยบายที่เหมาะสมและมีการวางแผนอย่างรัดกุมเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ส่งออกการค้าบริการ และในระดับผู้ส่งออกการค้าบริการควรที่จะพัฒนาระดับความสามารถเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งต่างประเทศได้
----------------------------------------------------------------------------------
* สรุปจากเอกสารของ OECD เรื่อง Services Trade Liberalization: Identifying Opportunities and Gains, (JOB (03)/140), 10 July 2003.
----------------------------------------------------------------------------------
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-