กมธ.วิสามัญศึกษาปัญหาแนวชายแดนไทย-พม่า
วันที่ 7มิถุนายน 2544 เวลา 16.40 นาฬิกา นายเทพประสิทธิ ประวาหะนาวิน
โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาชายแดนไทย-พม่า ได้แถลงภายหลังการปะชุม คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาปัญหาชายแดนไทย-พม่า โดยทางคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้ไปศึกษาตรวจสอบ
บริเวณชายแดนจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เมื่อวันที่ 25-26 พฤษภาคม 2544 ที่ผ่านมา สำหรับ
ประเด็นหลักที่เกิดปัญหาระหว่าง 2 ประเทศคือ ความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันนั้นเชื่อว่าจะสามารถ
บรรเทาได้ต้องอาศัยความละเอียดในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ นายสุรเกียรติ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางไปเยือนประเทศพม่าอย่างเป็นทางการเพื่อสร้างความเข้าใจอันดี
ระหว่าง 2 ประเทศ
นายเทพประสิทธิ กล่าวว่า สำหรับปัญหาการปักปันเขตชายแดนนั้น มีความ
คืบหน้าการแก้ไขปัญหาไป 20 เปอร์เซ็นต์ โดยประเทศไทยยึดแผนที่ของประเทศสหรัฐฯ
แต่ของพม่ายึดแผนที่ประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ยังมีแผ่นดินที่ยังไม่มีใครเป็นเจ้าของทำให้ยังไม่สามารถปักปัน
เขตชายแดนให้ได้ ส่วนปัญหายาเสพติดขณะนี้ประเทศไทยมีผลกระทบมากที่สุด เพราะประเทศไทยอยู่ใน
เส้นทางการลำเลียงยาเสพติด ซึ่งจะต้องใช้วิธีการปราบปรามและใช้ความละเอียดอ่อนในการตัดสินใจ
อีกทั้งยังมีเรื่องปัญหาแรงงานพม่าที่มีการหลบหนีเข้าเมืองด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาปัญหาของการสร้างโรงไฟฟ้าลิกไนท์ ที่บริเวณท่าขี้เหล็ก
ซึ่งอยู่ติดกับบริเวณชายแดนไทย-พม่า ทำให้ประเทศไทยหวาดวิตกเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้เดินทางไปดูพื้นที่แล้ว และได้ส่งนักวิชาการที่มีความรู้เข้าไปชี้แจง
กับประชาชนในพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจและตอบข้อ ซักถาม เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาอะไร
---------------------------------------------------
กองการประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
วันที่ 7มิถุนายน 2544 เวลา 16.40 นาฬิกา นายเทพประสิทธิ ประวาหะนาวิน
โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาชายแดนไทย-พม่า ได้แถลงภายหลังการปะชุม คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาปัญหาชายแดนไทย-พม่า โดยทางคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้ไปศึกษาตรวจสอบ
บริเวณชายแดนจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เมื่อวันที่ 25-26 พฤษภาคม 2544 ที่ผ่านมา สำหรับ
ประเด็นหลักที่เกิดปัญหาระหว่าง 2 ประเทศคือ ความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันนั้นเชื่อว่าจะสามารถ
บรรเทาได้ต้องอาศัยความละเอียดในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ นายสุรเกียรติ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางไปเยือนประเทศพม่าอย่างเป็นทางการเพื่อสร้างความเข้าใจอันดี
ระหว่าง 2 ประเทศ
นายเทพประสิทธิ กล่าวว่า สำหรับปัญหาการปักปันเขตชายแดนนั้น มีความ
คืบหน้าการแก้ไขปัญหาไป 20 เปอร์เซ็นต์ โดยประเทศไทยยึดแผนที่ของประเทศสหรัฐฯ
แต่ของพม่ายึดแผนที่ประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ยังมีแผ่นดินที่ยังไม่มีใครเป็นเจ้าของทำให้ยังไม่สามารถปักปัน
เขตชายแดนให้ได้ ส่วนปัญหายาเสพติดขณะนี้ประเทศไทยมีผลกระทบมากที่สุด เพราะประเทศไทยอยู่ใน
เส้นทางการลำเลียงยาเสพติด ซึ่งจะต้องใช้วิธีการปราบปรามและใช้ความละเอียดอ่อนในการตัดสินใจ
อีกทั้งยังมีเรื่องปัญหาแรงงานพม่าที่มีการหลบหนีเข้าเมืองด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาปัญหาของการสร้างโรงไฟฟ้าลิกไนท์ ที่บริเวณท่าขี้เหล็ก
ซึ่งอยู่ติดกับบริเวณชายแดนไทย-พม่า ทำให้ประเทศไทยหวาดวิตกเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้เดินทางไปดูพื้นที่แล้ว และได้ส่งนักวิชาการที่มีความรู้เข้าไปชี้แจง
กับประชาชนในพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจและตอบข้อ ซักถาม เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาอะไร
---------------------------------------------------
กองการประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร